ล่าสุดป่วย ทอนซินอักเสบ เป็นหนอง ไข้ขึ้นสูง

ในใจตอนแรกคือ แม่งเอ้ย ไป รพ. ใช้ประกันสังคมรอนานแน่ ๆ

ประกันส่วนตัวผม ดันใช้เฉพาะตอนแอดมิทเท่านั้น

ก็ให้แฟนพาไป สรุป จากตอนแรกคิดว่าต้องรอครึ่งวัน ++

สรุปตั้งแต่ ลทบ. วัดความดัน พยาบาลสกรีนคำถามเบื้องต้น

เจอหมอ วินิจฉัย จบภายใน 1 ชั่วโมง

ถึงแม้ หมอมันจะทำหน้า ไม่ค่อยอยากจะตรวจก็เถอะ เข้าใจว่าเจอคนเยอะ

ซึ่งผมคิดว่า เห้ยไวกว่าที่คิดเยอะมาก ๆ + รอรับยา 30 นาที

หมอแจกยาอะไรให้พร้อม ให้อย่างเยอะ

ได้ใบรับรองแพทย์ ลางาน กลับบ้านนอนต่อ

เทียบกับของเคสพี่สาวแฟน แกไปแต่งงานกับคนสวีเดน

แกบอกจะเข้า รพ. ทียุ่งยากมาก ๆ ไม่ได้เดินเข้าออกง่ายเหมือนไทย

อย่างบางคนจะคลอดลูก ต้องรอจนพร้อมจริง ๆ เท่านั้น รพ.ถึงจะรับ

อันนี้ไม่รู้ว่าที่แกพูดมาเกินจริงไปหรือเปล่า

แต่ถ้าเทียบกับของไทยเรา พวกสิทธิ รพ. สิทธิรักษา เทียบกับต่างประเทศถือว่าดีไหมครับ

แต่ละท่านความคิดเห็นยังไงบ้าง

รพ รัฐ หรือ เอกชน

สิทธิประกันสังคม แพ้อย่างเดียวคือสิทธิบัตรทองกับสิทธิราชการครับ แต่ดีกว่าสิทธิรักษาของต่างประเทศในหลายประเทศแน่นอน

1.ป่วยไม่ฉุกเฉินได้พบหมอ
2.บัญชียาโดยรวมโอเค
3.คลุมถึงโรคร้ายแรงและผ่าตัดเคสแพงๆ
4.หมอประกันสังคมแยกจากสิทธิอื่นในบาง รพ. ทำให้รอไม่นาน จุดรับยาบางที่แยก
5.อายุเกิน 35 ตรวจสุขภาพฟรี ได้รายการเทียบเอกชน 3,000+

ข้อเสีย หมอยไม่ได้มีเวลาอธิบายการใช้ยาละเอียดเท่าที่ควร ด้วยจำนวนผู้รับยาเยอะกว่าผู้จ่ายยา

แพ้บัตรทอง

เทียบกับเมืองนอก ถือว่าดีมาก
แต่ถ้าเทียบกับไทยกันเอง บัตรทอง ดีกว่า

แต่ตอนนี้ รพ แถวบ้าน หา ปกส ดีกว่า คนน้อยกว่า
เห็นคนมาใช้บตรทอง ผมละเหนื่อยใจเลย รอโคตรนานเลย

ดีถึงดีมาก

สิทธิประกันสังคมผมว่าถ้ามาใช้กับ รพ ใน กทม ไม่ค่อยมีปัญหา คนไม่ได้แน่นมาก

แต่ถ้าต่างจังหวัดนี่นั่งรอกันครึ่งวัน

เดี๋ยวนี้แต่ละรพ ทำระบบดีกว่าแต่ก่อนมาก ติดที่คนมันเยอะแค่นั้นแหละ นอกนั้นดีหมด

อยู่ที่ว่าคุณอยากจะเทียบกับอะไรครับ
แต่ส่วนตัว ผมโอเคกับระบบนี้มากๆ...แม้จะมีอารมณ์รำคาญว่า สิทธิ์ฟรีบ้านเราดีกว่าในบางเรื่องก็ตาม

จากประสบการณ์ส่วนตัว ที่เคยป่วยแบบใกล้ตายต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน แต่ประกันสุขภาพส่วนตัวดึงรอเช็คและขอการคอนเฟิร์มวงเงินรักษาก่อน จนสุดท้ายโทรเข้าไปที่โรงพยาบาลประกันสังคม และสามารถส่งรถมารับ+ถึงเตียงเข้าผ่าตัดได้ในชั่วโมงเดียว หมอว่าทิ้งไว้อีกหน่อยก็ติดเชื้อและส่งวัดแทนครับ ฮาาาาา




ปล. ปัจจุบันนัดรับยาโรคประจำตัวคนแก่ ก็ราวๆ45นาทีถ้าหมอแกไม่ติดวิ่งไปดูเคสด่วนห้องฉุกเฉิน หรือถ้าต้องเจาะเลือดวิเคราะห์ด้วย ก็เริ่มเจาะ7โมง ซัก8โมงครึ่งก็ได้กลับล่ะครับ

ผมใช้คุ้มละบอกตามตรง ล่าสุดลำไส้อักเสบรุนแรงนึกว่าไส้ติ่งจะแตก สแกน MRI ปุ๊ปไม่ชัดเจน หมอสั่งแอดมิดให้นอนโรงบาล 3 วัน โรงบาลห้องรวมแอร์ พยาบาลมาดูแลอย่างดี นี้ออกมาครบเดือนพรุ่งนี้หมอขอส่องกล้องเช็คว่ามะเร็งไหม

อีกอันก็เคสเวียนหัวบ้านหมุน เจอหมอ 4 คนตั้งแต่อายุรกรรม-หูตาคอจมูก-อายุรกรรม จบที่ระบบประสาท หมอบอกไม่ชัดเจนแต่ก็ยื่นขอ CT ให้ (สรุปไม่ได้ สงสัยโรงบาลเห็นว่าไม่หนักมั้ง?)

คือไปจนคุ้มแล้วอะ ผมบอกตามตรงมันไม่แย่ถ้าเลือกโรงบาลโอเค ของผมเข้าหัวเฉียว (โรงบาลเกิดด้วย) ก็ดูแลตามนั้น ซึ่งอาจจะไม่ได้ดีเท่าพวกของจุฬาไรงี้ (ผมได้บัตรทองจุฬา ซึ่งนิสิตจุฬาโดนสั่งย้ายเข้าตั้งแต่เข้าเรียนปี 1) ก็บอกตามตรงว่าดูแลดีกว่าหน่อยนึง

ตอนแรกว่าจะทำประกันฯไรงี้เผื่อร้ายแรง ผมว่าอาจจะไม่ต้องแล้วมั้ง

ผมสิทธิวชิระ ใช้เวลาอยู่กับรพ. ตั้งแต่ ยื่นบัตรนัดยันรักษาเอายาเสร็จราวๆ 3-4 ชม.

ใครที่บอกว่าสิทธิ์รักษาพยาบาลสาธารณะของไทยห่วยนี่อยากจะเรียนเชิญไปให้ใช้สิทธิ์ของต่างประเทศมากๆครับ ผมเคยใช้สิทธิ์แบบเดียวกันใน 3 ประเทศ สหรัฐ, แคนาดา, ญี่ปุ่น ไม่มีอันไหนใกล้เคียงของไทยเลย เวลาป่วยหนักๆบางทีอยากจะบินกลับไทยไปรักษาด้วยซ้ำไป

ห่วยสุดถ้าเทียบโดยเฉลี่ยกับ บัตรทอง ราชการ

แต่ปัจจัยสำคัญสุด คือ รพ ที่รักษา บางรพ มีหมอเยอะ ยาพร้อมเครื่องมือพร้อม ใช้ปกส ก็ดีกว่า ใช้ราชการใน รพ หมอ 5 คนไม่มีเฉพาะทาง หรือ รพ รัฐ ER ให้หมอจบใหม่คนเดียวดูเคส

ส่วนตัว ผมว่าดี

แฟนผมท้องลูกคนที่สองแท้งในครรภ์ต้องเอาเศษเด็กออก ตอนแรกอยู่โรงบาลเอกชนบอกมีค่าใช้จ่ายประมาณ 6 หมื่น ถ้าโอเคเซ็นต์ปุ๊ปหมอทำให้เลย แต่ไม่ไหวเลยย้ายมาเปาโล เกษตร ใช้ประกันสังคมฟรีทุกค่าใช้จ่าย ถ้าไม่มีประกันสังคมนี้ผมน่าจะแย่อยู่ครับ และบริการดีมาก ๆ