พิชิต" เผยจ้าง Lobbyist เจรจาภาษีสหรัฐ แพงแต่คุ้มค่า ยืนยันโปร่งใส ตรวจสอบได้
"พิชิต" เผยจ้างบริษัทที่ปรึกษาช่วยเจรจาภาษีสหรัฐ แพงแต่คุ้มค่า ยืนยันโปร่งใส ตรวจสอบได้ ลั่นถ้าเราไม่มีตัวช่วยที่ดี ไม่มีทีมที่เข้าใจสหรัฐฯ ประเทศไทยอาจเจ็บหนัก
จากกรณี สส.ศิริกัญญา รองหัวหน้าพรรคประชาชน ตั้งคำถามหลังไทยได้คิวเจรจา “ภาษีทรัมป์” สัปดาห์หน้าว่า กรมเจรจาการค้า กับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แบ่งหน้าที่กันอย่างไร ทำไมต้องตั้งงบ “ค่าใช้จ่ายโครงการเจรจาภาษีต่างตอบแทน” ไว้ 2 ที่ หน่วยละเท่าๆ กันคือ 97 ล้าน สัญญาจ่ายเป็นก้อนหรือจ่ายเป็นรายเดือน อัตราที่สูงกว่าอัตราปกติที่ควรจ่ายเพราะอะไร
ล่าสุด นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเล่าถึงการทำงานเจรจามาตรการภาษีกับสหรัฐฯ ทั้งการตั้งทีมเจรจา การว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา พร้อมยืนยันว่ามีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
นายพิชัย กล่าวว่า ในส่วนของการทำหน้าที่เจรจา ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์การเจรจาภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) กับสหรัฐฯ มีความซับซ้อน และเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายสหรัฐฯ มีการมอบหมายหัวหน้าเจรจาหลายหน่วย หลาย Level เช่น
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ (U.S. Department of Commerce)
- สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR)
- รัฐมนตรีคลังสหรัฐ (Secretary of the Treasury)
ดังนั้น รัฐบาลไทยจึงต้องพร้อมรับมือกับทุกแนวทางที่สหรัฐฯ จะดำเนินการ "นี่คือเหตุผลสำคัญที่ต้องมี 2 หน่วยงานหลัก คือ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ทำงานประสานกันแบบคู่ขนาน เพื่อไม่ให้ไทยเสียเปรียบ และสามารถเจรจาได้อย่างครอบคลุมในทุกระดับ โดยผม ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาระดับนโยบาย ทำหน้าที่กำกับให้โทนการเจรจาสอดคล้องกับบริบทของสถานการณ์"
ส่วนอัตราค่าจ้างที่ปรึกษา และบริบทพิเศษของสถานการณ์ปัจจุบันนั้น นายพิชัย กล่าวว่า โดยปกติ อัตราการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาหรือ Lobbyist ในสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 20,000 - 300,000 ดอลลาร์/เดือน สำหรับการให้บริการทั่วไป แต่ในกรณีปัจจุบัน สถานการณ์ "Reciprocal Tariff" ทำให้บริษัทที่ปรึกษาซึ่งมีความสามารถเฉพาะทางสูง และมีความสัมพันธ์เชิงนโยบายกับผู้มีอำนาจในรัฐบาลสหรัฐฯ สามารถเรียกราคาที่สูงขึ้นกว่าปกติได้ โดยเฉพาะเมื่อเป็นงานที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน แข่งกับประเทศอื่น และเกี่ยวพันกับมูลค่าการค้า และการส่งออกของไทยนับแสนล้านบาทต่อปี
รองนายกฯ และรมว.คลัง ยืนยันในความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะสหรัฐอเมริกา มีกฏหมายการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมาย FARA (Foreign Agents Registration Act) ว่าทุกสัญญาว่าจ้างที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ จะต้องมีการเปิดเผยรายละเอียดบนเว็บไซต์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (U.S. Department of Justice) อย่างชัดเจน
"ถ้าเราไม่มีตัวช่วยที่ดี ไม่มีทีมที่เข้าใจสหรัฐฯ ไม่มีเครื่องมือที่แข็งแรง ประเทศไทยอาจต้องสูญเสียตลาด ส่งออกสะดุด เกษตรกร ผู้ประกอบการเจ็บหนัก การดำเนินนโยบายระหว่างประเทศในโลกยุคปัจจุบัน ต้องอาศัยทั้งความเข้าใจเชิงเทคนิค ความละเอียดรอบคอบ และความกล้าที่จะตัดสินใจในเวลาที่เหมาะสม"
อ่านข่าว :
https://ch3plus.com/news/political/morning/442676
#เรื่องเล่าเช้านี้ #ข่าวช่อง3 #ข่าวการเมือง
######
#####
คิดว่าถ้าเป็นทีมงานพรรคส้ม จะเลือกใช้วิธีเดียวกันไหมครับ ?