กฤษฎีกาตีความ แอชตันอโศกไม่ต้องทุบ ขอใบอนุญาตก่อสร้างใหม่ได้ ให้มีผลย้อนหลัง

จากที่ก่อนหน้าศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอนใบอนุญาตเดิม


ย้อนข่าวเรื่องทางเข้าออกกับทางรฟม.



ทั้งนี้ คำวินิจฉัยกฤษฎีกาที่ 935/2567 มีความเห็นโดยสรุปได้ว่า ปัจจุบันข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับ รฟม.ได้ใช้ที่ดิน 13 เมตร เป็นทางเข้า-ออกลานจอดรถสถานีสุขุมวิท ถือเป็นการดำเนินการตามกิจการรถไฟฟ้าแล้ว ดังนั้น การอนุญาตให้ประชาชนผู้สุจริตใช้ทางร่วมด้วย จึงไม่กระทบต่อสาระสำคัญของวัตถุประสงค์แห่งการเวนคืน และไม่ขัดต่อวัตถุประสงค์ของกิจการรถไฟฟ้า

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่

https://www.prachachat.net/property/news-1797176

ทุบหรือรื้อถอน ไม่ได้อยู่ในแนวทางด้วยซ้ำ ไม่มีคำสั่งไหนบอกให้ทำแบบนั้น ศาลตัดสินว่าใบอนุญาตผิด แล้วก็เพิกถอนแค่นั้น

วิธีแก้มันก็ชัดเจน ก็ไปขอใหม่ให้มันถูกต้อง เค้าติงเรื่องเค้าบอกผิดเรื่องไหน เรื่องพื้นที่ รฟม. ก็ไปเคลียกับ รฟม.ก็เป็นวิธีที่ถูกต้องแล้ว

แล้วจริงๆจำเลยคือคนออกใบอนุญาตก็คือ กทม. ก็ต้องไปแก้ไปขอใหม่ให้มันถูก ไอคนสร้างมันทำถูกตามแบบทุกอย่าง จะทุบทำไม

แต่จะไปต้านกระแสคนส่วนมากที่มันตื่นตระหนกหรือไม่รู้เรื่องก็หาใช่ ก็ต้องอยู่เงียบๆค่อยแก้ไปตามขั้นตอนนั้นละ ก็ถูกแล้ว

ทุกอย่างมันเดินไปในแนวทางที่ประเทศนี้มันเป็น จะโทษต้องโทษระบบส้นทีนของประเทศนี้


ปล. เรื่องนี้เห็นใจลูกบ้าน(บางส่วน)ที่ได้รับผมกระทบทั้งทางจิตใจและทางรายได้ ในกรณีพวกลงทุนขายต่อ (กรณีปล่อยเช่ายังราคาดีเหมือนเดิม)

ปล2. เดินลงไปจากที่ ที่เป็นกรณี มีแต่ร้านเช่าขายของ มันใช่กิจก็รฟม.ไหม ถ้าใช่ การให้เช่าที่จอดรถหรือทางเข้ามันก็ทำได้ แค่นั้นเลย รฟม. แม้งกากเองไม่ไปขออนุมัติทำตามขั้นตอน ถ้ามีมติจาก ครม. ก็จบแล้ว บทเรียนที่ได้จากเคสนี้คือ อย่าไปเชื่อไอหน่วยงานรัฐ ต้องตรวจสอบแม้งให้ดี เอกสารต้องชัด

ไม่แปลกใจเท่สไหร่ ตึกทั้งตึก ชาวบ้านเป็นตัวประกัน

แต่แบบนี้ แม่งทำธุรกิจกันตามใจชอบ

ปกติ ประเทศไทยเคยทุบที่ไหน? 55

จ่ายไปเท่าไรหละนั่น

ถึงจะทุบ แล้วจะทุบยังไงก่อน กลางเมืองแบบนั้น

สอบเส้นทางการเงินพวกศาลย้อนหลังกันบ้างมั้ยนิ

ถ้าทุบน่าจะเสียหายทั้ง 2 ฝ่าย แต่มันก็เป็นบรรทัดฐานใหม่ของคนละเมิดใบอนุญาตอีกอ่ะ

ถ้าทุบบริษัทน่าจะถึงล้ม คนซื้อก็ไม่ได้เงินคืนอีก มีแต่ต้องให้สร้างไปแหละ

ไม่ทุบ ไม่จับคนเซ็น

ประเทศไทยจงเจริญ

ทุบหรือรื้อถอน ไม่ได้อยู่ในแนวทางด้วยซ้ำ ไม่มีคำสั่งไหนบอกให้ทำแบบนั้น ศาลตัดสินว่าใบอนุญาตผิด แล้วก็เพิกถอนแค่นั้น

วิธีแก้มันก็ชัดเจน ก็ไปขอใหม่ให้มันถูกต้อง เค้าติงเรื่องเค้าบอกผิดเรื่องไหน เรื่องพื้นที่ รฟม. ก็ไปเคลียกับ รฟม.ก็เป็นวิธีที่ถูกต้องแล้ว

แล้วจริงๆจำเลยคือคนออกใบอนุญาตก็คือ กทม. ก็ต้องไปแก้ไปขอใหม่ให้มันถูก ไอคนสร้างมันทำถูกตามแบบทุกอย่าง จะทุบทำไม

แต่จะไปต้านกระแสคนส่วนมากที่มันตื่นตระหนกหรือไม่รู้เรื่องก็หาใช่ ก็ต้องอยู่เงียบๆค่อยแก้ไปตามขั้นตอนนั้นละ ก็ถูกแล้ว

ทุกอย่างมันเดินไปในแนวทางที่ประเทศนี้มันเป็น จะโทษต้องโทษระบบส้นทีนของประเทศนี้


ปล. เรื่องนี้เห็นใจลูกบ้าน(บางส่วน)ที่ได้รับผมกระทบทั้งทางจิตใจและทางรายได้ ในกรณีพวกลงทุนขายต่อ (กรณีปล่อยเช่ายังราคาดีเหมือนเดิม)

ปล2. เดินลงไปจากที่ ที่เป็นกรณี มีแต่ร้านเช่าขายของ มันใช่กิจก็รฟม.ไหม ถ้าใช่ การให้เช่าที่จอดรถหรือทางเข้ามันก็ทำได้ แค่นั้นเลย รฟม. แม้งกากเองไม่ไปขออนุมัติทำตามขั้นตอน ถ้ามีมติจาก ครม. ก็จบแล้ว บทเรียนที่ได้จากเคสนี้คือ อย่าไปเชื่อไอหน่วยงานรัฐ ต้องตรวจสอบแม้งให้ดี เอกสารต้องชัด

ผู้เสียหายเยอะเกินไป

มันก็ต้องทำแบบนี้แหล่ะ

ชาวบ้านไปร้องเพราะว่าทำงานมีเศษปูนเศษต่างๆหล่นลงมาและเสียงดังมีฝุ่นด้วย ไม่แน่ใจว่ายังไง

เห็นญี่ปุ่นเขาทำ เขาถอดที่ละชั้นจากบนไปล่าง ค่อยๆทุบไป

สร้างบรรทัดฐานใหม่อีกแล้ว

แต่มันมีคนทำผิดกฏหมายจะไม่ลงโทษหน่อยเหอร