ต้นทุนหลักของ mk คือส่วนอื่นที่ไม่ใช่ตัวอาหารเลย เช่น พวกค่าเช่าที่ (เน้นห้างน่ะแหละ ที่ทำบุฟได้ตอนนี้มีแต่ของโลตัสกับบิ๊กซี) ค่าจ้างพนักงาน (เป็นสิบกว่าปีแล้วมั้ง mk นี่คือให้เงินเดือนสวัสดิการณ์พนักงานดีสุดละ พวกนักเรียนนักศึกษาพุ่งมาทำพาร์ทไทม์เป็นเจ้าแรกๆเลย) ค่าตกแต่งสถานที่

คุณภาพอาหารมันก็ส่วนนึง แต่ถามว่าระดับ mk จะลำบากหาซัพพลายเออร์เกรดลดลงไม่ได้เลยเหรอ อันนี้ก็คิดว่าไม่ใช่หรอก

ฉะนั้นแล้วก็ตามที่ผมบอก mk ก็ยังเป็นตลาดคนละกลุ่มกับตี๋/ลัคกี้ นี่เขาลองตลาดดูแล้วเวิร์ค อีกไม่นานก็แค่รอดูว่าจะเปิดมาเป็นแบรนด์ลูกชื่ออะไร อาจจะมงคลหรือมั่งคั่ง แม่งคุ้มก็ได้

ครับ ก็ถึงบอกว่าส่วนมาก

อยากไปล้างจาน แต่ขอล้างเฉพาะหม้อได้มั้ย

ทำไมแถวผมอยู่ถึงต่างจากที่อื่นอ่ะ จังหวัดผมอยู่ mk พนักงานน้อยขึ้นบริการไม่ดีเท่าเดิม ส่วนตี้น้อยพึ่งเปิดบริการมาไม่นานแต่พนักงานเยอะบริการดี ส่วนน้ำจิ้มทำไม mk อยู่ดีๆก็เค็มขึ้นซะงั้นตั้งแต่ทำเป็นขวดขาย

ผมมองว่าไม่น่าขาดทุนครับ แต่ % กำไรลดลงจากเดิมพอควร แต่ก็ได้ยอดขายที่เพิ่มมาทดแทนเลยน่าจะพอๆถัวๆกันไป

แต่ข้อดีคือได้เตะตัดขาตี๋น้อยเต็มๆ ไม่ให้โตไปกว่านี้ เพราะถ้าปล่อยไว้ mk แย่แน่ ถ้า mk คุมคุณภาพอาหาร คุมต้นทุนได้

แล้วเพิ่มความหลากหลายเมนูโดยยังกำไรได้ ตี๋น้อยเสร็จแน่

Bonchon ก็ต่างด้าวด้วยครับ

ผมไปกินมาเมื่อวาน 299

เขาแยกโซนบุฟ กับ อะลาคาร์ทชัดเจน

ผจก ร้านมาต้อนรับ แนะนำ อย่างดี

ตลอดช่วงเวลาที่กินโคตรแฮปปี้ น้ำเหลือครึ่งแก้ว น้ำจิ้มเหลือครึ่งถ้วยก็มาแล้วอ่ะ

โอเคอาจจะมีจังหวะเรียกบ้างพเราะเขาก็ต้องไปบริการโซนอื่น

แต่โดยรวม รู้สึกดี

อาจจะเป็นเพราะสาขา และ ผจก สาขา ด้วยมั้ง

ปล.ผมไปกินสาขา MK โลตัส วัชรพล

ปล2. เด็กฝึกงาน น้องในร้านทั้งหมด คนไทยหมดเลย

หลังจากหมดช่วงทดลอง คิดว่า MK ทำบุฟเฟ่ต์แน่ คงไม่แตกแบรนด์ลูกอะไรหรอกครับ ใช้แบรนด์ MK เดิมนี้แหละ แต่จะเลือกเป็นเฉพาะสาขา โดยเฉพาะสาขาในห้างโลตัสและบิ๊กซี มีโอกาสมากที่สุด