ผมมองว่า เอเย่น นิ่งๆ เพราะดิอาซ ยังจับตามอง บาร์ซ่า
แผน คือ เงินเดือนน้อย กับ สัญญาเหลือน้อย การย้ายจะง่ายขึ้น

ฝั่งสโมสร ถ้านักเตะสำคัญ ก็ต้องต่อสัญญา ไปแล้ว ยิ่งถ้าอายุน้อยก็ต่อสัญญายาว(ถ้านักเตะอยากต่อ)
ถ้านักเตะ นิ่งๆ ไม่อยากต่อสัญญา ถามไป โอเคแล้วๆ สโมสรก็เงียบได้
และถ้าจะอ่านว่านักเตะรอหมดสัญญา ก็ควรรีบขาย ถ้าจะต่อ ก็จะต่อแค่ สัญญา 3 ปี

***ป.ล. ข้อเสียของ แนวทาง 30 ปี ไม่ต่อสัญญา (หรือต่อปีต่อปี) รอยัลตี้ ของนักเตะ อาจจะลดลง***
ข้อดี ของแนวทางคล็อป คือ นักเตะ มีรอยัลตี้ ...มีดีมีเสีย ถ้าบาลานซ์ได้ ก็จะดี...

ผมคิดแบบนี้เหมือนกัน อีกหน่อยสโมสรคงแนว ๆ ซื้อนักเตะอายุ 20 ต้น ๆ หรือกลาง ๆ แล้วใช้งานแค่รอบสัญญาเดียว
พอใกล้หมดสัญญาก็ขาย ไม่ก็ใช้จนหมดไปเลย แล้วหาตัวใหม่

หมดซาล่า ฟานไดร์ อาลี ร้อบโบ้
ยังไม่เห็นใคคจะมาแทนเรื่องความเป็นผู้นำและรอยัลตี้เท่าพวกนี้เลย ถ้าบาลานซ์ได้จะดีมากครับ ไม่งั้นเหมือนทีมคอมเมอร์เชี่ยลทั่วไป แค่มี YNWA เป็นแบรนด์ดิ้ง

ควรให้ 180k/w ได้แล้ว

ผมว่าถ้าต่อรอบใหม่สัก 100-120k + โบนัสอะไรก็ว่าไป

สถานะนักเตะน่าจะประมาณ squad player ไม่ถึงกับ

Regular starter

ใจอยากให้ต่อนะ จะสามปีก็ได้ ค่าเหนื่อยสักแสนสองแสนห้าก็ไม่น่าเกลียด เพราะเทียบกับผลงานตอนนี้จะให้ทีมหวังพึ่งกักโปเหรอ หมดสัญญาเจ้าตัวจะไปเล่นให้บาร์ซ่าก็ยังไหว หรือจะไปซาอุก็สบาย

ผมไม่ค่อยชอบระบบนี้ ตั้งแต่ เวนเกอร์ ใช้กับ อาร์เซน่อลละ (ขออ้างอิง)
ตอนที่จะต่อ เดนนิส เบิร์กแคมป์ ปีต่อปี
ผมว่า ความเป็นตำนาน มันก็ขายได้นะ ในมุมหนึ่ง ...แต่ถ้าเค้าหมดจริงๆ ว่าไปอย่าง

อย่างเจอร์ราร์ด เป็นภาพลักษณ์ให้ทีมได้ยาวๆ เลย และ ตอนนั้นก็ยังเล่นได้อยู่

ถ้าเกิน 30 ต่อ ซัก 2 ปี ผมว่านักเตะรับได้ (เลือกเป็นคนๆ ไปเช่น ซาล่าห์ ฟานไดจ์ พวกแบกทีม)
ถ้าเกิน 32-33 ค่อยดูตามผลงาน

มันเป็นตัวอย่างให้ พวกนักเตะรุ่นหลังด้วย ประมาณ พวกตำนานสโมสรยังโดนทำแบบนี้เลย แล้วกุล่ะ

สรุป อยากให้มีกฏเกณฑ์ ในภาพรวม แต่คนที่แบกทีม พวกตำนาน ก็เว้นไว้ซักหน่อย เอาไว้เป็นแบบอย่าง