[LFC] เบื้องหลังดีล Florian Wirtz
พอดีผมแปลจากบทความที่ the athletic ลงไว้ครับ ผมสรุปในเฉพาะส่วนที่สำคัญๆ มาให้นะครับ
v
v
v
ต้องย้อนไปเมื่อเดือน
พฤศจิกายน 2024 ที่ลิเวอร์พูลจะต้องเจอกับเลเวอร์คูเซนในเกม UCL ที่แอนฟิลด์ ตอนนั้นเลเวอร์ได้ขอใช้สนามของลิเวอร์พูลในการฝึกซ้อม (เป็น Kirkby) โดยลิเวอร์พูลเสนอให้เป็นสนามของทีม U-23 ซึ่งนั่นทำให้เวียร์ตซ์ได้เห็นสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของลิเวอร์พูล
ซึ่งในระหว่างทางซีซั่น เวียร์ตซ์ก็ยังตกเป็นข่าวกับบาเยิร์นอยู่เรื่อยๆ แถมก็ยังมีแมนซิตี้ด้วยอีกทีม แต่ความเร็วเป็นของปีศาจ
ลิเวอร์พูลเริ่มทำการติดต่อกับเลเวอร์เพื่อขอพูดคุยกับเวียร์ตซ์
ตั้งแต่เดือนมีนาคม โดย
ริชาร์ด ฮิวจ์เป็นคนนำในภารกิจนี้ โดยฮิวจ์พูดถึงแผนการในอนาคตให้เวียร์ตซ์ฟัง และไม่ใช่แค่ตัวเวียร์ตซ์คนเดียว แต่รวมถึงคนใกล้ชิดของเวียร์ตซ์ด้วย (น่าจะหมายถึงครอบครัว)
เวียร์ตซ์ได้บอกกับเลเวอร์ว่าเขาจะย้ายออกจากทีมในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งเวียร์ตซ์อยากพบเจอกับความท้าทายในลีกใหม่ ซึ่งพอบาเยิร์นรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ถอนตัว เพราะพวกเขารู้ว่าเวียร์ตซ์อยากย้ายมาลิเวอร์พูลแล้ว รวมถึงเรอัล มาดริดด้วยเหมือนกัน
สำหรับลิเวอร์พูลแล้ว เวียร์ตซ์ยังไม่ถึงจุดพีคของอาชีพเลย อายุยังแค่ 22 ปีเท่านั้น ซึ่งสล็อตก็ได้มีการพูดคุยกับเวียร์ตซ์ในเรื่องของการใช้งาน โดยสล็อตจะให้เวียร์ตเล่นใน
ตำแหน่งเบอร์ 10 แต่ความจริงแล้วเวียร์ตซ์ก็สามารถเล่นตำแหน่งกองหน้าได้เหมือนกัน
ตัดสลับมาที่ฮิวจ์ งานของเขาดีลกับเลเวอร์ให้ได้ในอยู่กรอบที่ FSG กำหนดไว้ให้ ซึ่ง FSG นั้นก็โดนบ่นเรื่องการไม่เสริมหรือต่อยอดความสำเร็จมาตลอด ซึ่งมันดูจะไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ เพราะความจริงก็เคยยื่นซื้อไคเซโด้ระดับ 110 ล้านปอนด์มาแล้ว แต่นักเตะก็เลือกเชลซีไปแล้ว ไหนจะก่อนหน้านั้นที่ซื้อทั้งฟาน ไดจ์กและอลิซอน โมเดลธุรกิจของ FSG คือการพึ่งพาตัวเองก็จริง แต่ถ้า
เจอคนที่ใช่หรือคุ้มที่จะทุ่มเมื่อไหร่ก็พร้อมที่จะทุ่ม ตัวอย่างก็เห็นได้จากเวียร์ตซ์
ฮิวจ์ได้มีการพูดคุยกับไซม่อน โรล์ฟส์ ผอ.กีฬาของเลเวอร์มาตลอด ซึ่งไม่ได้เป็นการคุยที่รวดเร็ว รีบเร่งอะไร ค่อยๆ แต่ก็คุยกันมาตลอด
ลิเวอร์พูลการันตีเงินก้อนแรกก็คือ 100 ล้านปอนด์ ซึ่งส่วนนี้เลเวอร์โอเคตั้งแต่แรกแล้ว แต่หลักๆ ก็คือพวกแอดออน เพราะเงื่อนไขที่
จะจ่ายเพิ่มก็ต่อเมื่อลิเวอร์พูลได้แชมป์พรีเมียร์ลีก หรือ UCL หรือแม้กระทั่งเวียร์ต์ซ์ได้บัลลงดอร์
ความจริงอีกอย่างหนึ่งที่ชัดเจนมากๆ ก็คือ ลิเวอร์พูลไม่ได้มีความตั้งใจที่จะจ่ายค่าตัวของเวียร์ตซ์ที่ 150 ล้านยูโรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ค่าตัวของเวียร์ตซ์จะทำลายสถิติการซื้อตัวที่แพงที่สุดของพรีเมียร์ลีกของไคเซโด้ก็ต่อเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขในแอดออนทุกอย่าง
ถึงแม้ว่าค่าตัวของเวียร์ตซ์จะสูงระดับทำลายสถิติ แต่ค่าเหนื่อยของเวียร์ตซ์ก็จะอยู่ในโครงสร้างการจ่ายที่ FSG วางไว้อยู่ โดยทั้งปีเวียร์ตซ์จะได้
ค่าเหนื่อยอยู่ที่ 10.2 ล้านปอนด์ต่อปี (ตีกลมๆ ก็คือ 200,000 ปอนด์ต่อวีค) และ
อาจพุ่งสูงไปที่ 12.8 ล้านปอนด์ต่อปี (ตีกลมๆ 250,000 แสนปอนด์ต่อวีค)
กลับมาที่ตัวเวียร์ตซ์ ทั้ง
ตัวเวียร์ตซ์และครอบครัวของเขานั้น
ให้ความสำคัญในเรื่องของกีฬามากกว่าตัวเงินมาตลอดเส้นการค้าแข้ง ซึ่งทัศนคตินี้มันยิ่งชัดเจนมากขึ้นไปอีกในตอนที่เจรจากับลิเวอร์พูล
ความตั้งใจของเวียร์ตซ์คือการหาสโมสรที่เหมาะกับเขา เขาย้ายมาเลเวอร์ในปี 2020 เพราะเขาเคยมีประสบการณ์ในการเปลี่ยนผู้จัดการทีมบ่อยๆ แถมเล่นฟุตบอลเกมรับตอนที่อยู่โคโลญจ์ แต่ตอนนั้นผู้จัดการทีมของเลเวอร์คือปีเตอร์ บอสซ์ที่เน้นฟุตบอลเกมรุก และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เลเวอร์ก็ดีกว่าด้วย
ซึ่งมันก็สอดคล้องกับลิเวอร์พูลและสล็อตที่ก็มีแผนในอนาคตที่ชัดเจนให้กับเวียร์ตซ์ และด้วยสถิติต่างๆ ของเวียร์ตซ์ในช่วง 2 ซีซั่นล่าสุดก็เป็นไปในทิศทางบวกจากการประเมินจากทีมสถิติของลิเวอร์พูล
สล็อตได้บอกกับเวียร์ตซ์ว่าจะให้เขาเล่นยังไงถึงจะเหมาะกับตัวเวียร์ตซ์เอง ซึ่งนั่นคือปัจจัยที่สำคัญมากกว่าเรื่องเงินซะอีก ไหนจะเรื่องการที่จะต้องเล่นร่วมกับจามาล มูเซียลาอีก เพราะเรื่องนี้ก็ถูกพูดถึงตั้งแต่ตอนเล่นกันที่ทีมชาติแล้ว เพราะตำแหน่งทั้งคู่ค่อนข้างจะเหมือนกันเลย
ส่วนเรื่องที่ทำไมการ done deal มันช้า ก็เป็นเพราะว่าเวียร์ตซ์อยู่ในช่วงพักผ่อนหลังจบฤดูกาล แถมยังมีเกมทีมชาติเข้ามาคั่นด้วย
หลายสัปดาห์ก่อน เวียร์ตซ์ได้เดินทางมาภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ เพื่อจัดการในเรื่องการอยู่อาศัย แถมยังเจเรมี ฟริมปงก็ได้ชวนเวียร์ตซ์มาอยู่ด้วยกันเหมือนกัน
สล็อตเคยบอกว่าหนึ่งในความท้าทายที่สุดในซัมเมอร์นี้คือการหาผู้เล่นที่ดีกว่านักเตะที่มีอยู่ในตอนนี้ แต่ดูเหมือนว่าจะทำได้แล้ว
และเรื่องที่สล็อตบินไปคุยกับรายาน แชร์กี้ในช่วงพักร้อนนั้นก็เป็นเรื่องจริง แชร์กี้เป็นแผนสำรองในกรณีที่ดีลของเวียร์ตซ์ล่ม
และที่ลิเวอร์พูลมีเงินในตลาดนี้แบบบ้าคลั่งก็เป็นผลมาจากที่ได้กลับไปเล่น UCL, ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ทำให้มีเงินเข้าสโมสรเกือบ 200 ล้านปอนด์ (181 ล้านปอนด์) ไหนจะการที่เงียบๆ มาในช่วงตลาดซื้อขาย 3 ตลาดก่อนหน้านั้น
ที่มา:
https://www.nytimes.com/athletic/6434830/2025/06/20/florian-wirtz-liverpool-transfer-inside-story/