ขอโทษด้วยนะครับที่พิมพ์คำอ่านที่อ่านแล้วรู้สึกไม่ดี

พงศวดาร ไม่ถึง 2 บรรทัด
เอาเรื่องเล่ามาแต่งเป็นเรื่องจริง ตามสมัยนิยมชาติของท่านจอมพล ป
เหมือน ย่าโม กับเมืองถลาง
ให้รู้ว่าชาวบ้านธรรมดา ก็รักชาติได้

ยิ่งมีหนัง มีเพลงออกมา ยิ่งเพิ่มความเก่งให้บางระจันเข้าไปใหญ่

พลังอวย ซะเยอะ

ชาวบ้านกลุ่มนึงแค่นั้น

อยุธยา งง เลย เมิงใครจะมาขอปืนใหญ่

ชาวบ้านธรรมดา รวมกันหลักร้อย จนหลังๆอาจจะมีเป็นพัน มันก็กองทัพย่อยๆแล้วนะ

แถมใช้ยุทธวิธีกองโจร และพม่าก็ไม่ได้เร่งรีบจะเข้าตีเต็มกำลังอะไร

อย่าว่าแต่อาวุธยุทโธปกรณ์ในยุคนั้น ที่ยังใช้ดาบอะไรกันเป็นหลักอยู่เลย

เอาสมัยนี้เลย กองโจรพันนึงอาวุธครบมือ อยู่ตามป่าตามเขา เป็นชาวบ้านรู้พื้นที่ทำเลทุกอย่างดีหมด

แบบนี้ให้ทหารเมกาไปบุกแบบเดียวกัน ส่งทหารเข้าไป 100คน 200คน 300คน 1000คน จะแพ้ก็ไม่แปลก

แต่ถ้าจะเอาจริง ส่งรถถัง โดรน เครื่องบิน ถล่มเต็มเหนี่ยว อัดทหารไป2000 3000คน

แบบนี้มันก็จบเร็ว วันเดียวก็จบละมั้ง ก็เหมือนๆกันหละมั้ง

ึิคิดเหมื่อนกันครับ ถ้าท่านเคยฟังอาจารย์สุเนตร พวกนายขนมต้ม พันท้ายนรสิงห์ มาในพงศาวดารเวอชั่นหลังๆทั้งนั้น เวอร์ชั่นแรกๆไม่มีพูดถึงเลย

ส่วนบางระจันนั้นขอพม่าไม่มีพูดถึง มีแต่บอกว่าระหว่างเคลื่อนทัพแต่ละชุมชนบ้างก็สวามิภักดิ์ บ้างก็ต่อต้าน คุ้นๆว่ามีการ์ตูนไทยเคยเขียนเรื่องนึงผมจำไม่ได้ มีคนตาบอดเลี้ยงหมี พ่อลูกขี่ม้า แบบบางระจัน แต่ไม่ถึงขนาดเป็นภัยคุกคามแรงให้ทัพเคลื่อนต่อไปไม่ได้เลยเป็นเดือนๆแบบในพงศาวดารไทย

กลับกัน ที่ยันพม่าได้เป็นเดือนๆนั้นคือกำแพงกรุงศรีอยุธยาตอนเสียกรุงครั้งที่ 2 แต่ประวัตศาสตร์ไทยกลับทำเหมื่อนเราปล่อยให้เค้าเข้ามาตีง่ายๆเพราะพระเจ้าเอกทัศในตอนนั้นไม่เข้มแข็ง