( CFC ) โอกาสลดโทษแบนของ มูดริค
ตอนนี้โดนตัดสินว่าผิดละ แต่ยังไม่ได้ประกาศว่าจะโดนแบนกี่ปี ซึ่งโทษหนักสุดคือ 4 ปี
จากนี้คงไปอุทธรณ์กับอนุญาโตตุลาการกีฬา ป๊อกบา เคยอุทธรณ์แล้วลดโทษจาก 4 ปีเหลือ 1 ปีครึ่ง
ผมไปค้นมาเจอว่า ป๊อกบา สู้คดีด้วยการอ้างว่า ทานสารตัวนี้เข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เกิดขึ้นหลังจากทานอาหารเสริมที่แพทย์จากทางฟลอริด้าจัดให้
เพราะงั้น มูดริค ก็น่าจะมาแนวทางนี้ เห็นมีข่าวว่าใช้ทนายทีมเดียวกับป๊อกบาด้วยไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน
มูดริค มันยืนยันมาตลอดว่าไม่ได้ตั้งใจนำสารนี้เข้าร่างกาย ก็ต้องย้อนไปหาดูว่าตอนนั้นรับสารนี้มาจากไหน ซึ่งน่าจะเป็นตอนไปทีมชาตินะ เพราะมันตรวจเจอช่วงเตะทีมชาติ
แล้วเมื่อซัก 2-3 เดือนก่อน CEO ชัคตาร์ เคยออกมาสัมภาษณ์ว่า มูดริค เข้าเครื่องจับเท็จและผ่านแล้วว่าไม่ได้ตั้งใจโด๊ปเอง ก็ไม่รู้จะเอาเรื่องนี้ไปช่วยในศาลได้ขนาดไหน
ส่วนการยกเลิกสัญญา เคสป๊อกบามันง่ายเพราะ ยูเว่ เขาเซ็นมาฟรีเลยไม่มีค่าตัดจำหน่าย แต่ของ มูดริค นี่ค่าตัดจำหน่ายเหลือเพียบเลย
ผมคำนวณเล่นๆน่าจะเหลือค่าตัดจำหน่ายเกือบๆ 44 ล้านปอนด์ อันนี้นับแค่เงินต้นด้วยนะยังไม่รวมแอดออนเพราะไม่รู้ต้องจ่ายบ้างรึยัง
ถ้ายกเลิกสัญญาค่าตัดจำหน่ายที่เหลือมันน่าจะต้องลงไปเป็นขาดทุนในบัญชีฤดูกาลนี้ก้อนเดียวทีเดียวเลย ซึ่ง เชลซี ไม่น่ายอมหรอกมั้ง เยอะนะปีเดียวขาดทุนเพิ่มอีก 40 กว่าล้านเนี่ย
นอกจากว่าจะมีกฎช่วยถ้านักเตะโดนแบนยาว สโมสรสามารถยกเลิกสัญญาได้โดยไม่ต้องแคร์เรื่องค่าตัดจำหน่าย ซึ่งผมว่าไม่มีกฎช่วยสโมสรขนาดนี้หรอก
ที่ เชลซี ทำได้ก็คงขอลดค่าเหนื่อยให้จ่ายน้อยที่สุดเพื่อประหยัดรายจ่ายสัปดาห์ละเกือบๆ 100k
แล้วรอผลอุทธรณ์ ซึ่งจากเคสป๊อกบาเขาเริ่มนับวันแบนตั้งแต่ตอนโดนแบนชั่วคราวเลย เพราะงั้นที่ มูดริก โดนแบนชั้วคราวตั้งแต่ธันวา 2024 นี่ก็น่าจะนับไปด้วย ตอนนี้ก็ครึ่งปีละ
ถ้าอุทธรณ์แล้วลดเหลือปีครึ่งเท่าป๊อกบา ก็แปลว่าจะพ้นโทษกลางปีหน้าพอดี จากนั้นน่าจะโดนปล่อยยืมไปเรียกฟอร์มรอขายต่อ
แต่ถ้าอุทธรณ์ไม่ผ่านโดนแบน 4 ปีเหมือนเดิมนี่ก็ไม่รู้สโมสรจะเอายังไง แต่ผมว่าศาลนี้เขาใจดีอยู่น่าจะมีโอกาสลดโทษอยู่นะ นอกจากว่าจะมีหลักฐานว่า มูดริค ตั้งใจโด๊ปเอง แบบนั้นก็รอดยาก