https://youtu.be/kRkPbNVeWLo?si=LxlsgOAKIHaQ8je3


ฟังสัมภาษณ์ แล้ว ตื่นเต้นโว้ย

ซีซั่นใหม่โคตรตรน่าดู

มีเพื่อนแฟนไก่ตั้งกระทู้โทมัส แฟรงค์ แล้ว

ขออนุญาตโพสต์คำสัมภาษณ์แรก โทมัส แฟรงค์ ในกระทู้นี้เลยนะครับ

[Part 1]

การร่วมทีมสเปอร์ส
แฟรงค์: ความรู้สึกที่ได้มาเป็นหัวหน้าโค้ชคนใหม่มันยอดเยี่ยมมาก ผมตั้งตารอความท้าทายครั้งใหญ่ครั้งนี้ร่วมกับผู้คนดี ๆ มากมาย

ผมได้ยินแต่เรื่องดี ๆ เกี่ยวกับทุกคนที่นี่ สนามซ้อม นักเตะ ทีมที่แข็งแกร่ง น่าตื่นเต้น เป็นสโมสรขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพมหาศาล ดังนั้นผมจึงรู้สึกตื่นเต้นสุด ๆ จริง ๆ ครับ

เส้นทางกว่าจะมาถึงตำแหน่งนี้
แฟรงค์: ผมคิดว่าเหมือนกับเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงทุกคนนั่นล่ะครับ ผมแค่รักการเล่นฟุตบอล ตอนที่วิ่งเล่นอยู่ในบ้านเกิดของตัวเอง แล้วก็คงรู้ตัวเร็วพอสมควรเลยว่าผมคงไม่มีทางได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ

ดังนั้นผมจึงเริ่มต้นอาชีพโค้ชตั้งแต่อายุ 20 ปี และก็ทำงานโค้ชมาตลอดกว่า 30 ปีแล้ว เริ่มจากระดับรากหญ้า ฟุตบอลเยาวชน จากนั้นก็ได้คุมทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกที่สโมสรบรอนด์บี้ ซึ่งถือเป็นสโมสรใหญ่ในเดนมาร์ก

ต่อมาก็ย้ายมาอังกฤษ เริ่มต้นจากการเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม แล้วก็ได้เป็นหัวหน้าโค้ชในที่สุด และได้มีช่วงเวลาที่มหัศจรรย์กับเบรนท์ฟอร์ด เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมาก ทั้งกับทีมงาน นักเตะ และแฟนบอล

การทำงานร่วมกับผู้บริหารของสเปอร์ส
แฟรงค์: พวกเขาทำกระบวนการได้ดีมาก ๆ เลยครับ ผมขอพูดถึง แดเนียล เลวี่ วินัย และ โยฮัน ลังเก้ ผมได้พูดคุยและประชุมกับพวกเขาในหลายครั้ง ซึ่งเป็นการพูดคุยเชิงลึกมาก ๆ เกี่ยวกับโครงสร้างของสโมสร กระบวนการต่าง ๆ และแน่นอน ผมก็นำมุมมองของตัวเองมาพูดถึงว่าผมเห็นสิ่งต่าง ๆ อย่างไร ความคิดของผม วิธีการทำงานของผม และแนวทางที่ผมใช้ในการสร้างทีมและสร้างสโมสร

แต่แน่นอนว่า... ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวครับ

ผมคิดว่าสิ่งสำคัญมากคือ แม้หัวหน้าโค้ชจะเป็นบุคคลสำคัญ แต่ถ้าผมไม่มีคนดี ๆ อยู่รอบตัว ผมจะทำอะไรไม่ได้เลย ผมเชื่อว่าคุณไม่สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว

ถ้าคุณอยากทำอะไรเร็ว ๆ คุณอาจไปคนเดียวได้ แต่ถ้าคุณอยากสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ หรือประสบความสำเร็จในระดับที่ยิ่งใหญ่ คุณต้องไปด้วยกัน ดังนั้นเรื่องนี้มันคือการทำงานร่วมกัน ผม ทีมงาน และนักเตะ

ผมคิดว่า ความสอดคล้องกันเป็นหัวใจสำคัญ จากบนลงล่าง ซึ่งแน่นอน มันเริ่มต้นจาก แดเนียล วินัย โยฮัน และผม ยิ่งพวกเราทั้งสี่คนสามารถร่วมมือกันได้อย่างเหนียวแน่น เหมือนหน่วยที่ไม่อาจแตกแยกได้ เราก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น และแน่นอนมันจะต้องมีทั้งช่วงที่ดีและไม่ดี

ตอนนี้มันเหมือนเทพนิยาย ทุกคนมีความสุข แดดออก ฟ้าสวย ทุกอย่างดูเยี่ยมไปหมด แต่เรายังไม่ได้เล่นแม้แต่นัดเดียว

หวังว่าเราจะชนะได้เยอะ ๆ เราจะทำงานหนักทุกวัน เพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความมหัศจรรย์ให้กับแฟนบอลให้ได้มากที่สุด เก็บเกี่ยวช่วงเวลาเหล่านั้นไว้ด้วยกัน และหวังว่าพอจบฤดูกาลมันจะเป็นฤดูกาลที่ดีมาก

แต่สิ่งสำคัญคือความสอดคล้องในทุกด้าน ทั้งโครงสร้าง กระบวนการ การซื้อขายนักเตะ ขุมกำลังทีม สไตล์การเล่น วัฒนธรรมของทีม ทุกอย่างต้องไปในทิศทางเดียวกันครับ

สไตล์การเล่น
แฟรงค์: ถ้าพูดถึงสไตล์การเล่นของผม ตอนนี้ขออธิบายนิดหน่อยก็แล้วกันครับ แต่เอาจริง ๆ ผมอยากแสดงให้เห็นมากกว่า พูดได้ก็จริงแต่สุดท้ายมันอยู่ที่สิ่งที่เราทำให้เห็น สิ่งที่เราพยายามจะทำ

ถ้าจะพูดสั้น ๆ จุดมุ่งหมายของผมคือการเล่นฟุตบอลแบบบุกดุดัน เดินหน้าเข้าใส่ ซึ่งผมรู้ดีว่าสโมสรแห่งนี้มีแนวทางและประวัติศาสตร์ที่เน้นฟุตบอลเกมรุกอย่างชัดเจน แล้วผมก็คิดว่าทีมชุดนี้มีนักเตะเกมรุกฝีเท้าดีอยู่มากมาย ผมตื่นเต้นกับตรงนี้มาก ๆ

ที่ผ่านมาในสองฤดูกาลล่าสุดก็เห็นชัดเลยว่าทีมมีศักยภาพในการทำประตูที่ยอดเยี่ยม และผมก็เห็นด้วยเต็มที่ ผมรักทีมที่ยิงประตูได้เยอะ

ผมให้ความสำคัญกับหลักการพื้นฐานมาก โดยเฉพาะสิ่งที่เราทำในพื้นที่สุดท้าย การสร้างโอกาส การเปิดบอลเข้าเขตโทษ การวิ่งสอดแนวรับคู่แข่ง พวกนี้แหละครับคือกุญแจสำคัญ

ดังนั้นเป้าหมายของผม คือการต่อยอดจากแนวทางเกมรุกที่เรามีอยู่แล้วในสโมสรแห่งนี้

การกล้าเสี่ยง
แฟรงค์: ผมเชื่อมั่นเรื่องนี้มาก ๆ ครับ ผมชอบพูดประโยคหนึ่งเสมอว่า "ถ้าคุณไม่กล้าเสี่ยง นั่นแหละคือความเสี่ยง"

เพราะผมคิดว่าการกล้าเสี่ยงเป็นเรื่องสำคัญ ตัวอย่างเช่น ถ้าเราจะเล่นแบบตัวต่อตัว (man-to-man) ในบางสถานการณ์ เราต้องกล้าเล่นไปข้างหน้า ถ้าคุณไม่เสี่ยงกับบอลเลย คุณก็จะไม่มีทางสร้างอะไรได้เลย

ผมเชื่อเรื่องนี้มาก ๆ เราต้องกล้าเล่น นักเตะต้องกล้าในเวลาลงสนาม และพวกเขาต้องเชื่อมั่นในตัวเอง

หน้าที่ของผมคือพยายามทำให้พวกเขารู้สึกมั่นใจให้ได้เต็มที่ และพวกเขาต้องกล้าเล่น สำหรับผม ถ้านักเตะพยายามแล้วเสียบอล นั่นไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับผมเลย

แน่นอนว่าบางครั้งผมอาจมีปฏิกิริยาบ้าง เป็นธรรมดา แต่นั่นคือสิ่งที่พวกเขาควรทำ แต่ถ้านักเตะไม่ขยัน ไม่วิ่ง ไม่ทุ่มเท นั่นแหละคือสิ่งที่ผมรับไม่ได้เลย

ถ้าพวกเขาทำเต็มที่แล้วเสียบอล หรือพยายามแล้วพลาด ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ขยัน นั่นคือเรื่องที่ผมต่อรองไม่ได้

เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าเราไม่กล้าเสี่ยงมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ครับ

[มีต่อ Part 2 นะครับ]

มีของนะโค้ชแฟรงค์ เวลาเจอหงส์งานไม่เคยง่ายแกแก้เกมโหดจัด

พอจับคู่กะโลโก้สเปอร์แล้วนึกถึง คลินส์มันน์ เลย

เช็ดเข้แกเปลี่ยนชื่อยังรอดู โทมัสแฟรงค์

เมื่อก่อนมีข่าวกับแฟรงค์ผมอยากได้เลย ดูเล่นบอลสนุกดี

โคตรหล่อ โคตรเท่ โคตรอันตราย

แล้ว ดรากูชินมาทำไรที่คลับ ไม่เบรกวันหยุดเรอะ

มีเพื่อนแฟนไก่ตั้งกระทู้โทมัส แฟรงค์ แล้ว

ขออนุญาตโพสต์คำสัมภาษณ์แรก โทมัส แฟรงค์ ในกระทู้นี้เลยนะครับ

[Part 1]

การร่วมทีมสเปอร์ส
แฟรงค์: ความรู้สึกที่ได้มาเป็นหัวหน้าโค้ชคนใหม่มันยอดเยี่ยมมาก ผมตั้งตารอความท้าทายครั้งใหญ่ครั้งนี้ร่วมกับผู้คนดี ๆ มากมาย

ผมได้ยินแต่เรื่องดี ๆ เกี่ยวกับทุกคนที่นี่ สนามซ้อม นักเตะ ทีมที่แข็งแกร่ง น่าตื่นเต้น เป็นสโมสรขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพมหาศาล ดังนั้นผมจึงรู้สึกตื่นเต้นสุด ๆ จริง ๆ ครับ

เส้นทางกว่าจะมาถึงตำแหน่งนี้
แฟรงค์: ผมคิดว่าเหมือนกับเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงทุกคนนั่นล่ะครับ ผมแค่รักการเล่นฟุตบอล ตอนที่วิ่งเล่นอยู่ในบ้านเกิดของตัวเอง แล้วก็คงรู้ตัวเร็วพอสมควรเลยว่าผมคงไม่มีทางได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ

ดังนั้นผมจึงเริ่มต้นอาชีพโค้ชตั้งแต่อายุ 20 ปี และก็ทำงานโค้ชมาตลอดกว่า 30 ปีแล้ว เริ่มจากระดับรากหญ้า ฟุตบอลเยาวชน จากนั้นก็ได้คุมทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกที่สโมสรบรอนด์บี้ ซึ่งถือเป็นสโมสรใหญ่ในเดนมาร์ก

ต่อมาก็ย้ายมาอังกฤษ เริ่มต้นจากการเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม แล้วก็ได้เป็นหัวหน้าโค้ชในที่สุด และได้มีช่วงเวลาที่มหัศจรรย์กับเบรนท์ฟอร์ด เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมาก ทั้งกับทีมงาน นักเตะ และแฟนบอล

การทำงานร่วมกับผู้บริหารของสเปอร์ส
แฟรงค์: พวกเขาทำกระบวนการได้ดีมาก ๆ เลยครับ ผมขอพูดถึง แดเนียล เลวี่ วินัย และ โยฮัน ลังเก้ ผมได้พูดคุยและประชุมกับพวกเขาในหลายครั้ง ซึ่งเป็นการพูดคุยเชิงลึกมาก ๆ เกี่ยวกับโครงสร้างของสโมสร กระบวนการต่าง ๆ และแน่นอน ผมก็นำมุมมองของตัวเองมาพูดถึงว่าผมเห็นสิ่งต่าง ๆ อย่างไร ความคิดของผม วิธีการทำงานของผม และแนวทางที่ผมใช้ในการสร้างทีมและสร้างสโมสร

แต่แน่นอนว่า... ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวครับ

ผมคิดว่าสิ่งสำคัญมากคือ แม้หัวหน้าโค้ชจะเป็นบุคคลสำคัญ แต่ถ้าผมไม่มีคนดี ๆ อยู่รอบตัว ผมจะทำอะไรไม่ได้เลย ผมเชื่อว่าคุณไม่สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว

ถ้าคุณอยากทำอะไรเร็ว ๆ คุณอาจไปคนเดียวได้ แต่ถ้าคุณอยากสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ หรือประสบความสำเร็จในระดับที่ยิ่งใหญ่ คุณต้องไปด้วยกัน ดังนั้นเรื่องนี้มันคือการทำงานร่วมกัน ผม ทีมงาน และนักเตะ

ผมคิดว่า ความสอดคล้องกันเป็นหัวใจสำคัญ จากบนลงล่าง ซึ่งแน่นอน มันเริ่มต้นจาก แดเนียล วินัย โยฮัน และผม ยิ่งพวกเราทั้งสี่คนสามารถร่วมมือกันได้อย่างเหนียวแน่น เหมือนหน่วยที่ไม่อาจแตกแยกได้ เราก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น และแน่นอนมันจะต้องมีทั้งช่วงที่ดีและไม่ดี

ตอนนี้มันเหมือนเทพนิยาย ทุกคนมีความสุข แดดออก ฟ้าสวย ทุกอย่างดูเยี่ยมไปหมด แต่เรายังไม่ได้เล่นแม้แต่นัดเดียว

หวังว่าเราจะชนะได้เยอะ ๆ เราจะทำงานหนักทุกวัน เพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความมหัศจรรย์ให้กับแฟนบอลให้ได้มากที่สุด เก็บเกี่ยวช่วงเวลาเหล่านั้นไว้ด้วยกัน และหวังว่าพอจบฤดูกาลมันจะเป็นฤดูกาลที่ดีมาก

แต่สิ่งสำคัญคือความสอดคล้องในทุกด้าน ทั้งโครงสร้าง กระบวนการ การซื้อขายนักเตะ ขุมกำลังทีม สไตล์การเล่น วัฒนธรรมของทีม ทุกอย่างต้องไปในทิศทางเดียวกันครับ

สไตล์การเล่น
แฟรงค์: ถ้าพูดถึงสไตล์การเล่นของผม ตอนนี้ขออธิบายนิดหน่อยก็แล้วกันครับ แต่เอาจริง ๆ ผมอยากแสดงให้เห็นมากกว่า พูดได้ก็จริงแต่สุดท้ายมันอยู่ที่สิ่งที่เราทำให้เห็น สิ่งที่เราพยายามจะทำ

ถ้าจะพูดสั้น ๆ จุดมุ่งหมายของผมคือการเล่นฟุตบอลแบบบุกดุดัน เดินหน้าเข้าใส่ ซึ่งผมรู้ดีว่าสโมสรแห่งนี้มีแนวทางและประวัติศาสตร์ที่เน้นฟุตบอลเกมรุกอย่างชัดเจน แล้วผมก็คิดว่าทีมชุดนี้มีนักเตะเกมรุกฝีเท้าดีอยู่มากมาย ผมตื่นเต้นกับตรงนี้มาก ๆ

ที่ผ่านมาในสองฤดูกาลล่าสุดก็เห็นชัดเลยว่าทีมมีศักยภาพในการทำประตูที่ยอดเยี่ยม และผมก็เห็นด้วยเต็มที่ ผมรักทีมที่ยิงประตูได้เยอะ

ผมให้ความสำคัญกับหลักการพื้นฐานมาก โดยเฉพาะสิ่งที่เราทำในพื้นที่สุดท้าย การสร้างโอกาส การเปิดบอลเข้าเขตโทษ การวิ่งสอดแนวรับคู่แข่ง พวกนี้แหละครับคือกุญแจสำคัญ

ดังนั้นเป้าหมายของผม คือการต่อยอดจากแนวทางเกมรุกที่เรามีอยู่แล้วในสโมสรแห่งนี้

การกล้าเสี่ยง
แฟรงค์: ผมเชื่อมั่นเรื่องนี้มาก ๆ ครับ ผมชอบพูดประโยคหนึ่งเสมอว่า "ถ้าคุณไม่กล้าเสี่ยง นั่นแหละคือความเสี่ยง"

เพราะผมคิดว่าการกล้าเสี่ยงเป็นเรื่องสำคัญ ตัวอย่างเช่น ถ้าเราจะเล่นแบบตัวต่อตัว (man-to-man) ในบางสถานการณ์ เราต้องกล้าเล่นไปข้างหน้า ถ้าคุณไม่เสี่ยงกับบอลเลย คุณก็จะไม่มีทางสร้างอะไรได้เลย

ผมเชื่อเรื่องนี้มาก ๆ เราต้องกล้าเล่น นักเตะต้องกล้าในเวลาลงสนาม และพวกเขาต้องเชื่อมั่นในตัวเอง

หน้าที่ของผมคือพยายามทำให้พวกเขารู้สึกมั่นใจให้ได้เต็มที่ และพวกเขาต้องกล้าเล่น สำหรับผม ถ้านักเตะพยายามแล้วเสียบอล นั่นไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับผมเลย

แน่นอนว่าบางครั้งผมอาจมีปฏิกิริยาบ้าง เป็นธรรมดา แต่นั่นคือสิ่งที่พวกเขาควรทำ แต่ถ้านักเตะไม่ขยัน ไม่วิ่ง ไม่ทุ่มเท นั่นแหละคือสิ่งที่ผมรับไม่ได้เลย

ถ้าพวกเขาทำเต็มที่แล้วเสียบอล หรือพยายามแล้วพลาด ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ขยัน นั่นคือเรื่องที่ผมต่อรองไม่ได้

เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าเราไม่กล้าเสี่ยงมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ครับ

[มีต่อ Part 2 นะครับ]

[Part 2]

สเปอร์สที่รับช่วงต่อ
แฟรงค์: ผมคิดว่าทีมชุดนี้เต็มไปด้วยนักเตะที่มีพรสวรรค์ครับ เป็นทีมที่ดีมาก ๆ เลย ดังนั้นผมก็ตื่นเต้นมากที่จะได้เริ่มทำงานกับพวกเขา

แน่นอนว่าเมื่อคุณติดตามพรีเมียร์ลีก คุณก็จะได้เห็นทีมอื่น ๆ และแน่นอนว่าผมก็เคยดูสเปอร์ส ผมได้เห็นฟอร์มการเล่นที่สุดยอดจากทีมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก

ผมคิดว่าทีมนี้มีศักยภาพสูงมากจริง ๆ แต่ตอนนี้ผมยังมองจากมุมมองคนนอกอยู่นะครับ เพราะงั้นผมตั้งตารอที่จะได้รู้จักพวกเขาจริง ๆ ได้อยู่ใกล้ ๆ พวกเขา ได้สัมผัสและเข้าใจพวกเขา ได้ทำงานร่วมกันบนสนามซ้อม

ซึ่งนั่นแหละคือจุดที่คุณจะเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ได้เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนักเตะ และจะทำยังไงถึงจะดึงศักยภาพสูงสุดของแต่ละคนออกมาได้

แน่นอนว่าตอนนี้ผมก็เริ่มมีไอเดียอยู่ในหัวแล้วนะครับ คิดไปเรื่อยว่าเราจะเล่นยังไงดี ใครจับคู่กับใครได้บ้าง อะไรแบบนั้น

นักเตะอาวุโสและดาวรุ่งของสเปอร์ส
แฟรงค์: เวลาผมพูดถึง "นักเตะพรสวรรค์" มันไม่ได้หมายถึงแค่พวกดาวรุ่งนะครับ แต่รวมถึงนักเตะที่มีประสบการณ์ด้วย

เราจะดึงศักยภาพสูงสุดของพวกเขาออกมายังไงดี อย่างโดมินิก โซลันกี้ ผมเป็นแฟนตัวยงของเขาเลย ในแง่ของความสามารถ ผมมั่นใจว่าเราจะช่วยให้เขายิงประตูได้เยอะมาก

เราจะเล่นยังไงกับ เบนทานคูร์ และ แมดดิสัน ให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด? แน่นอนว่าเรื่องนี้รวมถึงพวกนักเตะดาวรุ่งด้วย

ผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นใคร ทุกคนในทีมต้องได้รับการพัฒนาและแสดงผลงานในระดับสูงสุด

แต่แน่นอนว่าดาวรุ่งอย่าง "เบิร์กวัลล์-เกรย์-โอโดแบร์-อูโดกี้" ทั้งหมดนี้ผมคิดว่ามีศักยภาพสูงมาก

ยังมีคนอื่นที่ผมยังไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่จริง ๆ แล้วมันคือทั้งทีม ผมตั้งตารอที่จะได้ทำงานกับทุกคนเลยครับ

การพัฒนานักเตะ
แฟรงค์: สำหรับผม มันเป็นเรื่องของการบาลานซ์ครับ คุณต้องทำให้ทีมชนะในวันเสาร์ วันอังคาร แล้วก็ทำซ้ำให้ได้อีกทีในวันเสาร์ วันพุธ

แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็ต้องพัฒนานักเตะรายบุคคลด้วย และนั่นเป็นหน้าที่ของผม ทีมงานของผม และตัวนักเตะเอง

มันเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันทุก ๆ วัน เพราะถ้าเรายกระดับฟอร์มของนักเตะ หรือพัฒนาเขาให้ดีขึ้นได้ ทีมก็จะเติบโต แสดงผลงานดีขึ้น และหวังว่าจะมีโอกาสชนะมากขึ้น

แฟนบอลสเปอร์ส
แฟรงค์: อย่างแรกเลย ผมคิดว่าฐานแฟนบอลของสเปอร์สนั้นยอดเยี่ยมมากครับ และผมก็เชื่อว่าแฟนบอลคือส่วนที่สำคัญที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นทีม สตาฟฟ์ ตัวผม พวกเราทุกคนต้องคิดว่า เราจะสร้างช่วงเวลามหัศจรรย์ให้กับแฟนบอลได้อย่างไรบ้าง สร้างช่วงเวลาที่พวกเขาจะจดจำ และทำให้พวกเขาตื่นเต้น

มันคือการเดินทางที่เราจะไปด้วยกัน และบนเส้นทางนั้นย่อมมีทั้งขาขึ้นและขาลง คำถามคือ เราจะผ่านมันไปด้วยกันได้อย่างไร

ความสัมพันธ์ระหว่างทีมกับแฟนบอล รวมถึงตัวผมกับแฟนบอล เป็นสิ่งสำคัญมาก

และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ทำให้สนามเหย้าของเรา "Tottenham Hotspur Stadium" กลายเป็นป้อมปราการ ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อแฟนบอลและทีมรวมพลังกัน

นี่คือความสัมพันธ์ที่เราต้องสร้างและรักษาไว้ตลอดไป เพราะผมต้องการให้การมาเยือนที่นี่ "ยากสัส ๆ" สำหรับทีมคู่แข่ง และเราจะทำได้ก็ต่อเมื่อเราทำไปด้วยกันครับ

แอนจ์ ปอสเตโคกลู และแชมป์ยูโรป้าลีก
แฟรงค์: ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับสโมสร กับทีม และโดยเฉพาะกับ แอนจ์ เขาจะเป็นตำนานของสเปอร์สตลอดไป ขอแสดงความยินดีกับเขาอย่างที่สุดสำหรับความสำเร็จนี้

ผมคิดว่าเรื่องสำคัญที่เราทุกคนควรเข้าใจคือ เราทุกคนต่างยืนอยู่บนไหล่ของคนที่มาก่อน

วันนี้ผมจะเข้ามาสานต่อบนรากฐานที่แอนจ์และทีมโค้ชของเขาสร้างเอาไว้ และผมรู้สึกถ่อมตัวอย่างยิ่งกับเรื่องนี้

ผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อสานต่องานอันยอดเยี่ยมที่พวกเขาได้เริ่มไว้แล้ว

ความรู้สึกที่ได้รับ ความตื่นเต้น ความยินดี และรอยยิ้มของแฟนบอลที่เห็นตามภาพต่าง ๆ มันคือ ว้าว จริง ๆ

หวังว่าเราจะสามารถสร้างช่วงเวลาแบบนั้นได้อีก นั่นคือความฝันสูงสุดครับ

และไม่มีใครสามารถพูดได้ว่าทีมนี้ไม่ใช่ผู้ชนะ เพราะทั้งทีมและนักเตะคือผู้ชนะ

จากนี้ไป สิ่งที่เราต้องพยายามทำให้ได้ก็คือ กลายเป็นผู้ชนะที่ต่อเนื่อง เป็นทีมที่ชนะได้อย่างสม่ำเสมอในอนาคต

------ [END] -------

จากบทสัมภาษณ์ ผมคิดว่าถ้าแอนจ์คารมดียังไง แฟรงค์ก็คารมดีเช่นกัน มีการใช้คำคมวาทะศิลป์แทรกอยู่ตลอด

รวมไปถึง ความเข้าใจถึงความร่วมมือในสโมสรที่ต้องไปในทิศทางเดียวกัน การซื้อตัวนักเตะ การพัฒนาผู้เล่น และวิธีการแข่งขัน

นอกจากนี้ยังทำการบ้านเกี่ยวกับนักเตะมาบางส่วน และไม่ลืมที่จะยกย่องแอนจ์ ถือว่าคลาสและได้ใจผมไป

หวังว่าแกจะอยู่นานๆ ทำผลงานได้ดี เหนื่อยจะเปลี่ยนโค้ชบ่อยๆ

แปลมาจาก football london ครับ

ได้เจิมเป็นคนแรก
ยินดีด้วยครับท่าน
อุตส่าห์นอนดึก
เพื่อวันนี้เลยใช่ไหม 555

เป็นคลิปที่ผมรอมานานมาก
ขอบคุณครับ

ตอนที่มีข่าว
รู้สึกเฉยๆกับคนนี้
แต่พอได้มาจริงๆ...

....ก็ตื่นเต้นๆ ดีใจมากเหมือนกันนะครับ....


อยากให้เปิดฤดูกาลพรุ่งนี้เลย

ขอบคุณสำหรับบทความครับ
ยาวดี ชอบๆ...
เด๋วมาอ่าน ขอเดินทางไปทำงานก่อนนะครับ

ยังเลยครับ
รอดูอยู่ว่าจะเปลี่ยนชื่ออะไร...

หล่อจริง สเป็คไก่แท้ๆ

ชอบที่บอกว่า เราทุกคนยืนบนไหล่ของคนที่มาก่อน เท่ชิบหาย

ชอบทรงของน้าแกมาก