(ARS) เชสโก้ VS โยเคอเรซ ใครคือเป้าหมายกองหน้าเบอร์หนึ่งของอาร์เซน่อล?
สรุปแล้วใครคือเป้าหมายกองหน้าเบอร์หนึ่งของอาร์เซน่อล ? และกระบวนการดำเนินไปถึงไหนแล้ว
โพสต์นี้ผมจะลองมาสรุปตามความเข้าใจของตัวเอง จากการวิเคราะห์ข่าวต่าง ๆ ที่ออกมาให้ชัดเจนดูครับ
เริ่มจากประเด็นแรก
⚪️⚪️⚪️
เป้าหมายอันดับหนึ่งคือใครกันแน่ ?
ถ้าเอาแบบเป้าหมายในฝันเลย นั่นคือ
อเล็กซานเดอร์ อิซัค ครับ
แต่เมื่อนิวคาสเซิลคว้าตั๋วไป UCL ได้ตามเป้าหมาย การจะดึงตัวอิซัคออกมาก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย เพราะสโมสรไม่อยากขาย และไม่จำเป็นต้องขาย ขณะที่ตัวนักเตะก็ไม่จำเป็นต้องผลักดันการย้ายทีม
อาร์เซน่อลจึงดำเนินการกับเป้าหมายลำดับถัดไป
และนั่นคือ
เบนจามิน เชสโก้
จากกระแสข่าวที่ออกมาผ่านทางแหล่งที่น่าเชื่อถือสูง ทั้งนักข่าวตัวท็อปอย่างเดวิด ออนสตีนส์, ฟาบริซิโอ้ โรมาโน่ และวงในอิสระอย่าง HandofArsenal ทำให้เชื่อได้ว่า เชสโก้คือเป้าหมายที่อาร์เซน่อลจริงจังที่สุด
ซึ่งเมื่อพิจารณาดูก็ไม่แปลกครับ เพราะทั้งสองสโมสรเคยพูดคุยกันเกี่ยวกับดีลนี้มาตั้งแต่ซัมเมอร์ที่แล้ว ก่อนที่เชสโก้จะต่อสัญญากับไลป์ซิกเพื่อใช้เวลาพัฒนาตัวเองอีกปีหนึ่ง
แต่ทางอาร์เซน่อลก็ได้ศึกษาตัวนักเตะ รวมถึงเจรจาขั้นพื้นฐานกับทั้งตัวเชสโก้และไลป์ซิกไว้แล้ว จึงไม่แปลกที่จะกลับมาสานต่อในปีนี้ได้อย่างรวดเร็ว
ยิ่งหากมองเรื่องในสนาม เชสโก้ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด หากเทียบกับคนอื่น ๆ แต่อันนี้ไว้รอข่าวชัดเจนกว่านี้ หรือได้ตัวอย่างเป็นทางการค่อยมาวิเคราะห์เรื่องแท็คติกกันอีกทีครับ
และยิ่งมาเพิ่มความเป็นไปได้เข้าไปอีก เมื่อไลป์ซิกพลาดตั๋วไปบอลยุโรปในปีหน้า จึงไม่แปลกที่นักเตะอย่างเชสโก้จะมองหาขั้นต่อไปในอาชีพ ขณะที่สโมสรจอมปั้นเจ้านี้ก็อยากหาเงินทุนเข้ามาทดแทน
นักเตะอยากย้าย ต้นสังกัดอยากขาย ทีมใหม่ก็อยากซื้อ
ฟังดูเรียบง่ายไหมละครับ งั้นทำไมถึงยังมีข่าวเกี่ยวกับกองหน้าคนอื่น ๆ เข้ามาอีก ?
⚪️⚪️⚪️
ตัวเลือกสำรอง
แน่นอนครับว่า สโมสรอย่างอาร์เซน่อลและผู้อำนวยการมากประสบการณ์อย่างอังเดร เบอร์ต้าย่อมไม่ได้มองนักเตะเป้าหมายไว้แค่รายเดียว แต่จะมีตัวเลือกสำรองอื่น ๆ ไว้เผื่อแผนแรกไม่สำเร็จด้วย
และ
วิคตอร์ โยเคอเรซ ก็คือหนึ่งในลิสต์เป้าหมายลำดับรองนั้น ร่วมกับชื่ออย่างโอลี่ย์ วัตกินส์
จากข่าว ทำให้เชื่อได้ว่าในทีแรกโยเคอเรซไม่ได้อยู่ในสายตาอาร์เซน่อลมากนักครับ แต่เมื่อเบอร์ต้าเข้ามารูปการณ์ก็เปลี่ยนไป ชื่อของดาวยิงสวีดิชโดดขึ้นมาอยู่ในอันดับบน ๆ มากขึ้น
แต่ในท้ายที่สุดแล้ว เบอร์ต้าและอาเตต้าก็ได้ข้อสรุปตรงกัน ว่าเป้าหมายแรกสุดจะยังคงเป็นเชสโก้ครับ
แต่นั่นไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะกาชื่อคนอื่นทิ้งไปเฉย ๆ ครับ เพราะการทำงานสไตล์ของเบอร์ต้านั้น จะเข้าไปเจรจากับนักเตะหลาย ๆ รายเอาไว้ก่อน จะระดับความจริงจังเท่าไหร่ก็ตามแต่ เพื่อที่หากจำเป็นก็จะดำเนินการต่อได้เลย
ดังนั้นการที่จะมีข่าวออกมาว่า อาร์เซน่อลติดต่อทั้งเชสโก้และโยเคอเรซนั้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่แปลกแต่อย่างใด
คำถามต่อมาคือ แล้วทำไมอยู่ ๆ ข่าวถึงโหมขึ้นมา และยังไปคนละทิศละทางขนาดนี้ ?
⚪️⚪️⚪️
สงครามข่าวสารในการเจรจา
Spoil
ความแตกต่างในสไตล์การทำงานของเบอร์ต้าเมื่อเทียบกับเอดู มีจุดที่ต่างกันอย่างชัดเจนอยู่ครับ
เอดูนั้นจะเน้นสร้างสัมพันธ์ที่ดีในการเจรจาด้วย เรียกว่าใช้การทำงานแบบเข้าตามตรอกออกตามประตู ปฏิบัติตัวตามมารยาท รักษาน้ำใจคู่ต่อรองอย่างเต็มที่
ผลดีที่ได้คือ อีกฝ่ายจะยินดีเจรจาด้วยอย่างเต็มที่ครับ ทำให้มีโอกาสปิดดีลได้ดีขึ้น หรือต่อให้ปิดดีลกันตอนนั้นไม่ได้ แต่การสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสโมสรไว้ ก็ทำให้หากจะกลับมาดำเนินดีลกันใหม่ในรอบหน้าก็จะเริ่มต้นกันง่ายขึ้น
ตัวอย่างที่ดีคือการซื้อตัวดาบิด ราย่าเข้ามาจากเบรนท์ฟอร์ด และการกลับมาเจรจาคว้าตัวเบนจามิน เชสโก้อีกครั้งในคราวนี้ครับ แม้ในรอบแรกจะปิดดีลไม่ได้ แต่การที่เอดูสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับอีกฝ่ายไว้ คุยกับบแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ก็ทำให้อาร์เซน่อลสามารถกลับมาสานต่อได้อย่างง่ายดาย
แต่ข้อเสียคือ ถ้าอีกฝ่ายแสดงเจตนาว่าไม่เต็มใจขาย เขาก็จะไม่ค่อยตื๊อครับ อย่างเคสเชสโก้เมื่อซัมเมอร์ก่อน ที่เมื่อตัวนักเตะและต้นสังกัดแสดงเจตนาว่าไม่อยากย้ายเต็มที่ เอดูก็ไม่ได้ผลักดันต่อ เพื่อรักษาน้ำใจอีกฝ่าย ทำให้เมื่อถึงเวลาต้องกดดันให้ได้จริง ๆ บางครั้งก็ไม่ได้ผลที่ต้องการ
เบอร์ต้าต่างจากเอดูในข้อนี้ ตรงที่มีประสบการณ์มากกว่า และมีลูกเล่น ลูกล่อลูกชนมากกว่าครับ
และกรณีของเชสโก้กับโยเคอเรซในตอนนี้ ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ข่าวสารเป็นเครื่องมือในการต่อรอง
ก่อนอื่น ต้องอธิบายก่อนครับ ว่าในสถานการณ์ตอนนี้ คนที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารมีอยู่สามฝ่าย
- ฝ่ายแรกคือเบอร์ต้าและอาร์เซน่อล
- ฝ่ายที่สองคือไลป์ซิก
- และฝ่ายที่สามคือวิคตอร์ โยเคอเรซและเอเยนต์ส่วนตัว
และฝ่ายที่น่าจะมีส่วนกับการปล่อยข่าว คืออาร์เซน่อลและโยเคอเรซ ซึ่งเราจะมาดูเจตนาและสถานการณ์ของฝ่ายหลังก่อนครับ
ทางโยเคอเรซแสดงเจตนาชัดเจนว่าอยากย้ายทีมเต็มที่ และในตอนนี้ที่สัญญาใจที่เจ้าตัวอ้างว่ามีกับสโมสรนั้น สปอร์ตติ้ง ลิสบอนดันไม่ทำตาม ด้วยการยังรั้งตัวและโก่งค่าตัวสูงไปอีก เจ้าตัวก็ดูพร้อมจะแตกหักกับต้นสังกัดเพื่อย้ายทีมครับ
ตรงนี้ต้องบอกว่า เอเยนต์ส่วนตัวของโยเคอเรส นั้นคือฮาซาน เซตินคาย่ามีอิทธิพลอย่างมาก เพราะนี่คือเอเยนต์ Bad boy ที่มีอิทธิพลคนหนึ่งของวงการฟุตบอลสวีดิช และมีประวัติหนุนหลังให้นักเตะในสังกัดก่อหวอดออกลูกเกเรมาไม่น้อยแล้ว
และเซตินคาย่าคนนี้ เชื่อได้ว่ามีสายสัมพันธ์กับนักข่าวชื่อดังอย่างฟาบริซิโอ โรมาโน่ครับ จึงไม่แปลกถ้าจะคิดว่า เขาสามารถว่าจ้างให้โรมาโน่ลงข่าวเกี่ยวกับโยเคอเรซได้
ทางเซตินคาย่าน่าจะปล่อยข่าวเกี่ยวกับโยเคอเรซและอาร์เซน่อลออกมา เพื่อกดดันทางลิสบอนให้ยอมรับค่าตัวที่เหมาะสม ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณถึงอาร์เซน่อล และอาจจะรวมถึงสโมสรอื่น ๆ ที่จ้องอยู่ว่าโยเคอเรซพร้อมย้ายด้วยเช่นกัน
เพียงแต่ตรงจุดนี้ ดูเขาจะเร่งเดินเกมพลาดไปหน่อย
เพราะเป้าหมายแรกของอาร์เซน่อลยังคงเป็นเชสโก้ และจนกว่าดีลนั้นจะส่อแววล่ม อาร์เซน่อลคงยังไม่หันมาเดินหน้ากับโยเคอเรซต่อครับ
นั่นแปลว่า ถ้าทีมอื่น ๆ ทั้งยูเวนตุสและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่เดินหน้าเข้ามาแทน โยเคอเรซก็จะอยู่ในสภาพที่กลับตัวก็ไม่ได้ เพราะชนกับลิสบอนไปแล้ว แต่จะเดินหน้าต่อก็ไปไม่ถึง ถ้าหากไม่มีใครยื่นข้อเสนอที่ต้นสังกัดพอใจมาให้
และทางอาร์เซน่อล ยังเอาตรงจุดนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ในดีลของเชสโก้ได้อีกด้วยครับ
อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ครับ ดีลระหว่างอาร์เซน่อลกับเชสโก้นั้น มีความง่ายอยู่ เพราะนักเตะก็อยากย้าย ไลป์ซิกก็อยากขาย อาร์เซน่อลก็อยากซื้อ ปัญหาที่เหลือก็แค่ตกลงค่าตัวเท่านั้น
และตรงจุดนี้ อาร์เซน่อลถือไพ่เหนือกว่าเล็กน้อยครับ เพราะพวกเขาจัดการโน้มน้าวใจนักเตะให้มองแค่พวกเขาเรียบร้อย แปลว่าคู่แข่งที่ไหนจะเข้ามาร่วมวงก็ยาก ส่วนไลป์ซิกก็มีความหลังชนฝา เพราะกำลังต้องการเงินมาหนุนด้วย
การต่อราคาจึงเริ่มต้นขึ้น
ถ้าจำกันได้ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันจะมีกระแสข่าวออกมา ว่ามีสโมสรจากซาอุดิอาระเบียให้ความสนใจตัวเชสโก้เช่นกันครับ
ซึ่งเชื่อได้ว่า เป็นทางไลป์ซิกที่ปล่อยข่าวให้หลุดออกมา เพื่อกดดันอาร์เซน่อลว่า "มีคู่แข่งจ้องอยู่นะ ให้รีบจ่ายราคาที่พวกเขาเรียกมาเสียที"
แต่อาร์เซน่อลรู้ดีครับ ว่าถ้าต้องเลือกแล้วเชสโก้จะเลือกพวกเขาก่อนใคร ดังนั้นจึงไม่ได้เร่งรีบตาม และยังตอบโต้ด้วยการปล่อยข่าวโยเคอเรซให้หลุดออกมาบ้าง
การที่มีข่าวอาร์เซน่อลสนใจโยเคอเรซหลุดออกมา ก็จะเป็นการกดดันไลป์ซิกทางอ้อมว่า "ถ้าโก่งราคามาก ๆ อาร์เซน่อลก็มีทางเลือกไปคว้าเป้าหมายอื่นได้นะ ให้ลดราคาลงมาเสียดี ๆ"
ฟังดูอาจจะน่าหงุดหงิด ว่าทำไมไม่ยอมจ่าย ๆ เพิ่มตามที่ไลป์ซิกต้องการไปซะจะได้จบ ๆ มันก็คงแพงกว่ากันอีกไม่เท่าไหร่
แต่อาร์เซน่อลมีความจำเป็นต้องสงวนงบไว้ให้มากที่สุด เผื่อในดีลของโรดริโก้ ที่ยังจับตามองรอการตัดสินใจอยู่ครับ เพราะในดีลนี้ ถ้าจะเกิดขึ้นจริงก็ยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะใช้งบเท่าไหร่
การเล่นโป๊กเกอร์ระหว่างทั้งสองฝ่ายจึงยังนั่งจ้องตากันอยู่ในตอนนี้ครับ อยู่ที่ใครจะยอมกระพริบตาก่อนเท่านั้น
และคาดว่าคงจะยังอยู่ในสภาพนี้ไปอีกสัก 1-2 สัปดาห์ จนกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอม หรือหาจุดร่วมตรงกลางกันได้
⚪️⚪️⚪️
ทำไมยังไม่ยื่นข้อเสนอ
ข่าวอีกอัน ที่ทำให้แฟนบอลแพนิคกันสุด ๆ คือข่าวที่ว่า อาร์เซน่อลยังไม่ได้ยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการให้ใครเลย
ซึ่งข่าวนี้ดูจะเป็นความจริงครับ เพียงแต่มันไม่มีอะไรน่ากังวลเท่านั้นเอง
เพราะสไตล์การดีลของอาร์เซน่อลเมื่อไม่มีคู่แข่ง จะใช้วิธีเจรจาต่อรองกับคู่ค้า จนกว่าจะได้ตัวเลขที่พอใจทั้งสองฝ่ายก่อน แล้วค่อยยื่นข้อเสนอที่คุยกันมาแล้วเข้าไปทีเดียว ไม่ได้ยื่นเข้าไปหลาย ๆ รอบ
ดังนั้นการยังไม่ยื่นข้อเสนอเข้าไปก็ยังไม่ได้น่ากังวลครับ เดี๋ยวเขาเจรจากันคืบหน้า ก็จะยื่นเข้าไปเอง
⚪️⚪️⚪️
สรุปแผนการในตลาดของอาร์เซน่อล
วิเคราะห์คาดการณ์จากข่าวทั้งหมด แผนการในตลาดคร่าว ๆ ของอาร์เซน่อล และสถานการณ์การดำเนินงานในปัจจุบัน น่าจะอยู่ประมาณนี้ครับ
- มาร์ติน ซูบิเมนดี้ ✅️
- ผู้รักษาประตูสำรอง : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ✅️
- กองหน้า
เป้าหมายหลัก : เบนจามิน เชสโก้ = กำลังเจรจา
เป้าหมายสำรอง : วิคตอร์ โยเคอเรซ, โอลี่ย์ วัตกินส์
- ปีกซ้าย
เป้าหมายหลัก : นิโก้ วิลเลี่ยมส์ = เจ้าตัวอยากไปบาซ่า และด้านการเงินน่าจะสู้ไม่ไหว
เป้าหมายอื่น ๆ : เจมี่ กิตเท่นส์, แบร็ดลี่ย์ บาโคล่า, แอนโทนี่ย์ กอร์ดอน, ราฟาเอล เลเอา
- Joker : โรดริโก้ = รอการตัดสินใจของนักเตะหลังคุยกับอลอนโซ่
- แนวรับ : เซนเตอร์ที่เล่นได้ดีทั้งสองฝั่ง โดยเน้นขวาเป็นหลักเพื่อทดแทนซาลิบา แต่ดูแล้วน่าจะรอดูงบที่เหลือหลังเคลียร์การเสริมแนวรุกแล้ว
เป้าหมายที่จับตาอยู่ : มาร์ค เกฮี, อุสมาน ดิโอมันเด่, คริสเตียน มอสเคร่า
- กลางรับอีกคนเพื่อมาสำรองซูบิเมนดี้ ในกรณีไม่ต่อสัญญาปาร์เตย์ : ลูเซียง อากูเม่
นอกเหนือจากนี้ก็จะเป็นพวก Market Opportunities โอกาสที่มาแบบไม่ได้วางแผน ถ้าเกิดมีนักเตะที่น่าสนใจอยู่ในข่ายที่คว้าตัวมาได้ หรือราคาคุ้มสุด ๆ ครับ อย่างตอนนี้มีเตโอ เอร์นันเดซคนหนึ่งที่น่าสนใจมาก ๆ
เข้าใจว่าตอนนี้มันดูเชื่องช้า และข่าวก็สับสนสุด ๆ แต่อยากให้ใจเย็น ๆ กันไว้ครับ ตลาดเพิ่งเปิดมาได้ไม่กี่วันเอง 5555
ถ้าจะรอดูความคืบหน้าแบบเป็นเรื่องเป็นราวจริง ๆ รอช่วงสิ้นเดือนหรือต้นเดือนหน้าไปเลยดีกว่าครับ
ระหว่างนี้ก็ใจร่ม ๆ อ่านข่าวแบบไม่เครียดไปเรื่อย ๆ ดีกว่าครับ 5555 ตราบใดที่ดีลหลัก ๆ เรียบร้อยก่อนช่วงพรีซีซั่น ให้นักเตะใหม่ได้เข้ามาปรับตัวกับทีมในช่วงอุ่นเครื่องก็ถือว่าทำได้ตามเป้าแล้ว
จะปิดดีลได้ตั้งแต่วันที่ 18 หรือรอจน 30 ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ครับ
เก็บแรงไว้ลุ้นตอนบอลเริ่มเตะดีกว่าครับ 55555
=======
Cr.