จากจดหมายถึงทีมรัก สู่ตำนานผู้สร้าง OKC Thunder — เรื่องราวของ Sam Presti

ในปี 1994 เด็กหนุ่มวัย 16 ปี ผู้เป็นแฟนบอยของ Boston Celtics ตัดสินใจเขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงทีมรัก
เนื้อหาในจดหมายสะท้อนความห่วงใยและเจ็บปวดที่เขามีต่อสถานการณ์ของทีมในช่วงยุคตกต่ำ
เขาเรียกร้องให้ทีม "รีบิวด์ใหม่" เคลียร์เพดานเงินเดือน และปล่อยตัวผู้เล่นที่ไม่คุ้มค่าเหนื่อยออกไป

เขามองว่า ผู้เล่นรุ่นเก๋าไม่ควรได้รับสัญญาแพงเกินความเหมาะสม
เช่นกรณีของ Robert Parish ที่ในวัย 40 ปี ยังได้รับสัญญามูลค่า 6 ล้านเหรียญ ซึ่งเทียบเท่ากับค่าตัวของ Michael Jordan ในเวลานั้น
หรือ Sherman Douglas พอยต์การ์ดของทีม ซึ่งรับค่าเหนื่อย 2.3 ล้านเหรียญเท่ากับระดับของ John Stockton และ Gary Payton
— ซึ่งต่างเป็นซูเปอร์สตาร์ในยุคนั้น

ในจดหมายฉบับนั้น เขาแนะนำให้ทีมดราฟท์ Jason Kidd ขึ้นมาเป็นผู้นำแฟรนไชส์คนใหม่
เด็กหนุ่มจากมหาวิทยาลัย California ที่พาทีมโนเนมเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของ NCAA
Kidd ยังคว้าแชมป์ระดับรัฐถึง 3 สมัยในช่วงมัธยม — เขาคือความหวังใหม่ที่อาจเป็นคำตอบของยุคมืดของ Celtics

เวลาผ่านไป เด็กหนุ่มคนนั้นโตขึ้น และเริ่มต้นทำงานใน NBA
เขาเริ่มจากบทบาทเล็ก ๆ ในทีม San Antonio Spurs ในฝ่ายสเกาต์และวิเคราะห์เกม ก่อนจะได้เป็นผู้ช่วย GM
ภายใต้การดูแลของโค้ช Gregg Popovich หรือ “ปู่ป๊อป” ซึ่งเป็นเสมือนอาจารย์คนแรกของเขา



Popovich เคยกล่าวถึงเขาว่า

“Sam Presti เป็นหนึ่งในคนที่ฉลาดที่สุดที่ผมเคยร่วมงานด้วย
เขาฉลาดเกินวัย ลึกซึ้ง ซื่อสัตย์ และคุณจะสัมผัสได้ทันทีว่า วันหนึ่งเขาจะต้องได้บริหารทีมของตัวเอง”

แซมมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ Spurs ดราฟท์ Tony Parker ในปี 2001
แม้ Parker จะทำผลงานได้ย่ำแย่ในช่วงเทรนนิ่งแคมป์ แต่ความมั่นใจของแซมกลับไม่สั่นไหว
จนในงานรีไทร์ของ Parker เขาได้กล่าวถึง Presti และ RC Buford ว่า

“พวกนายล้ำยุคมาก ที่เดิมพันกับฉัน ทั้งที่เล่นแย่มาก ๆ ตอนซ้อมกับสเปอร์สครั้งแรก ผมแย่มากจริง ๆ”



ในปี 2007 Sam Presti วัยเพียง 29 ปี ได้รับแต่งตั้งให้เป็น GM ของ Seattle SuperSonics
และกลายเป็นผู้จัดการทีมอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ NBA
ในวันรับตำแหน่ง เขากล่าวว่า

“หน้าที่ของผมคือคิดในสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อองค์กร
ในแนวทางที่สามารถรักษาไว้ และดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน”

6 ปีต่อมา ทีมเปลี่ยนชื่อเป็น OKC Thunder และสามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ NBA ได้
โดยมีแกนหลักเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่อายุยังไม่เกิน 23 ปี ได้แก่
Kevin Durant (23), Russell Westbrook (23), และ James Harden (22) — ซึ่งภายหลังกลายเป็นผู้เล่นระดับ MVP กันทั้งหมด



แซม ไม่เคยละเลยการให้โอกาสผู้เล่นที่ไม่มีชื่อเสียงมาก่อน
อย่าง Luguentz Dort และ Alex Caruso ที่แม้จะไม่ได้ถูกดราฟท์ แต่เขาก็ให้พื้นที่พิสูจน์ตัวเอง
โดยเฉพาะ Caruso ที่เคยกล่าวว่า Sam Presti เป็นหนึ่งในคนที่เปลี่ยนมุมมองเขาที่มีต่ออาชีพนี้อย่างสิ้นเชิง

ในปี 2020 หลังยุคของ Westbrook สิ้นสุดลง
แซมหยิบจดหมายฉบับเก่าที่เขาเคยเขียนไว้ในวัย 16 มาอ่านอีกครั้ง
และเขียนจดหมายตอบกลับ “ถึงตัวเองในปัจจุบัน”



เขาทบทวนหลักการเดิม —

“ที่สุดแล้ว ทีมต้องสร้างขึ้นมาใหม่
พวกเขาต้องการแกนหลักที่แข็งแกร่ง และจุดเริ่มต้นคือพอยต์การ์ดที่มีความสามารถในการควบคุมทีม”



แหละจุดเริ่มต้นของ OKC thunder dynasty ครั้งใหม่..

ผลงานที่ผ่านมาการตัดสินใจดราฟตัวผู้เล่น

Kevin Durant
Russell Westbrook
James Harden
Serge Ibaka
Steven Adams
Domantas Sabonis
jeff green
rggie jackson

พบกันใหม่ตอนหน้าจุดเริ่มต้นการีบิวยุคใหม่ ถ้าได้แชมป์นะไม่ได้ก็ไม่เขียนละ

จริงๆบทสัมภาษณ์ของผู้เล่นที่พูดถึงแซมมีเยอะครับแต่มันซ้ำซากพูดเหมือนกันหมด

ใจสลายกับอินเตอร์มารอบหนึ่งละ OKC ไม่แชมป์คงใจสลายจริงๆแต่ยังดูบาสเยอะกว่าบอลละกันตอนี้

ตั้งแต่ KD ย้ายออกไป ผมก็อยากให้ทีมนี้ได้แชมป์มาตลอดเลย สงสารแฟน OKC จริงๆ

น่าจะพลาดยากแล้ว ปีนี้ (ไม่ได้เจิม) องค์ประกอบของ OKC ตั้งแต่ หัวยันหางดีจริงๆ ไม่ได้สร้างแค่ผู้เล่นนะ โค้ชก็สร้างเองมากับมือจริงๆ

ถึงจะตั้งคำถามกับวิธีการเล่นบ้าง แต่ ปีนี้ ทุกอย่าง ส่งให้ OKC ถึงฝั่งที่รอ

จริงๆ ถ้า Pacers ได้ก็มีอีกเรื่องราวของทีม ที่ไม่จ่ายภาษีเหมือนกัน เป็นทีมที่สร้างมาดี กันทั้งคู่เลย

ไม่กี่ปีก่อนยังมีสิทธิ์ดราฟมหาศาล
แป๊บเดียวเอง จะแชมป์ละ

โค้ชคนนี้ก็ปั่นเองกับมือจริงๆเอามาจาก G ลีค ใครจะไปคิดว่าจะทำทีมได้ดี