BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Jan 2006
ตอบ: 1136
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 13:17
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
เกรด 2 ต้นๆ เหมือนกันครับ

ผมเน้นเปลี่ยนงานอย่างเดียว อัพต่อเรื่อยๆ ไม่ค่อยเน้นอะไรเท่าไหร่

แต่ทำภูมิว่าเรามีของแค่นั้นเลย มีช่วงย้ายไปเจอบริษัทงานหนักไป เลยเปลี่ยนที่อีกรอบลดเงินเดือนลงน้อย ให้สุขภาพจิตดีขึ้น
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jan 2020
ตอบ: 11091
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 13:24
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
ภาษาจีน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
Intel Core i5-13400F / MSI PRO B760M-E DDR4 / Patriot Viper Steel 32GB / GIGABYTE RTX 4060 TI WINDFORCE / NVME 1TB / PSU 650W
ออฟไลน์
แข้งลีกเอิง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 6837
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 13:27
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ พอจะบอกสายงานได้มั้ยครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1662
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 13:35
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
จากประสบการณ์ของผมคน gen y สำคัญสุดคือเลือกทำงานในอุตสาหกรรมที่ดี ที่ยังเติบโตได้ ซึ่งผมเลือกสายการเงิน ตอนโควิดโบนัสยังได้ 6+ เดือน แถม WFH ได้ด้วย

ย้ายงานบ่อยๆ สำคัญมากไปฟาร์มเงินเดือน+ประสบการณ์+ภาษา ที่เล็กๆ กลางๆ ก่อน พอเงินเดือน 70k+ ก็เริ่มมองหาบริษัทที่มั่นคง

อย่าลืมลงทุนหรือหาธุรกิจตัวเองไปด้วย ทำงานให้คนอื่นนานๆ เดี๋ยวก็หมดไฟ ตั้งเป้าเก็บสินทรัพย์ออมได้ไว้ก่อน 20m เราก็เริ่มจะมองหาการเกษียณได้ล่ะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Mar 2024
ตอบ: 447
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 13:45
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
bearberryz พิมพ์ว่า:
1 ในวิธีอัพเงินเดือนที่ไวที่สุด คือการเปลี่ยนงานนี่แหละ

ส่วนตัวท่านคิดว่าควรทำงานที่ใหม่ให้ครบอย่างน้อยกี่เดือนก่อน ค่อยหางานใหม่ฮะ?  

ส่วนตัวคิดว่าแล้วแต่ช่วงอายุเลยครับ ถ้าอายุน้อยๆ อยู่นานหน่อยเพื่อเอา Profile ก็ดี แต่ที่สำคัญสำหรับผมคืออยู่เพื่อเรียนรู้อะไรนี่แหละ อย่างที่บอกเลยครับ ถ้าอยู่แล้วรู้สึกว่าทำไปวันๆ ตัวเองวันนี้ เก่งเท่ากับตัวเองเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว รีบหางานใหม่ครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Mar 2024
ตอบ: 447
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 13:47
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
shawnmitchy พิมพ์ว่า:
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ พอจะบอกสายงานได้มั้ยครับ  

ผมคิดว่าสายงานไหนไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ครับ ไม่ได้ต้องมีตำแหน่งใหญ่เป็นผู้บริหารอะไรแบบนั้นด้วย เงินเดือนเรทผมมีเต็มตลาดเลยครับ คนรอบตัวได้เรทนี้เยอะแยะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Mar 2010
ตอบ: 1381
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 13:53
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
Henry1447 พิมพ์ว่า:
ขอออกตัวก่อนว่า กระทู้นี้ไม่ได้มาอวดว่ารวย หรือเก่งอะไรนะครับ เพราะผมเองก็ไม่ใช่คนเก่ง ไม่ได้จบเมืองนอก เกรดเฉลี่ยตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็แค่สองต้นๆ เงินเดือนปัจจุบันก็ไม่ได้เยอะที่สุดในตลาด บางคนอาจได้เงินเดือนมากกว่าผมหลายเท่าด้วยซ้ำ แต่ที่อยากมาเขียนเล่านี้ เพราะอยากแชร์ประสบการณ์จริง เผื่อจะเป็นกำลังใจให้ใครบางคนที่กำลังรู้สึกถึงทางตัน

ผม list สิ่งที่อยากเล่าเป็น Bullet แล้วให้ AI ช่วยเขียนต่อ แล้วผมมา revise อีกที ภาษาอาจจะแปลกๆไปบ้างนะครับ

ผมเริ่มต้นทำงานด้วยเงินเดือนประมาณ 16-17k ช่วงแรกๆ เปลี่ยนงานบ่อยมาก เพราะอยากอัพเงินเดือน แต่พอไปถึงช่วงประมาณ 40k มันเริ่มตันครับ หางานต่อยากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้ตัวว่า ถ้ายังทำเหมือนเดิม เราจะไม่ไปไกลกว่านี้แล้ว

ผมเลยเริ่มเปลี่ยนวิธีคิดและทำงานแบบใหม่ ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเส้นทางสายอาชีพ และนี่คือสิ่งที่ผมอยากแชร์:

1. อย่าเกี่ยงงาน ถ้ามันทำให้เราได้เรียนรู้
ผมเคยได้งานหลายอย่างที่ไม่ใช่หน้าที่โดยตรง แต่ก็รับไว้ เพราะรู้ว่ามันช่วยให้เราเรียนรู้สกิลใหม่ๆ ที่สำคัญมากในยุคนี้ บริษัทอาจไม่เห็นคุณค่าเราทันที แต่เชื่อเถอะ ที่ใหม่ๆ ที่เราสัมภาษณ์ เขาเห็นครับ ยิ่งเราทำงานได้หลากหลาย ปรับตัวไว ยิ่งมีค่าในตลาดแรงงาน

2. เปลี่ยนงาน เมื่อรู้สึกว่าไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่แล้ว
เคยได้ยินไหมครับว่า ประสบการณ์ 10 ปี ไม่เท่ากับ ประสบการณ์ 1 ปี ซ้ำกัน 10 ครั้ง ถ้างานที่ทำอยู่ไม่มีอะไรให้พัฒนาตัวเองเลย อาจถึงเวลาต้องหางานใหม่แล้วครับ

3. เปลี่ยนงาน เมื่อเรารู้สึกว่าเราเป็นคนสำคัญของที่เดิม
ข้อนี้อาจฟังดูเห็นแก่ตัว แต่มันคือเรื่องจริงของโลกการทำงาน ถ้าเราสำคัญจริง บริษัทจะพยายามรั้งเราไว้ด้วยข้อเสนอที่ดีกว่า หรือถ้าไม่ ก็แปลว่าเราอาจไม่ได้สำคัญอย่างที่คิด ทุกอย่างคือ “ดีล” และเราก็มีสิทธิเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง

4. เลือกบริษัทที่อยู่ใน industry ขาขึ้น
เหมือนกับการซื้อหุ้นเลย ตอนย้ายงาน ผมจะเลือกดูว่าอุตสาหกรรมนี้มีแนวโน้มเติบโตไหม ถ้าใช่ โอกาสเติบโตของเราก็จะมากตามไปด้วย เพราะบริษัทที่กำลังขยายตัว มักจะมีโอกาสและตำแหน่งใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ

5. ภาษาอังกฤษสำคัญจริงๆ
อันนี้เชื่อว่าหลายคนรู้ดีอยู่แล้ว แต่ขอย้ำอีกครั้งว่ามันสำคัญมาก

ตอนนี้คิดออกประมาณนี้ครับ  


คิดว่าอายุเท่าไหร่ถึงจะเริ่มหางานที่มั่นคงครับ

ตอนนี้ผม 33 กำลังจะย้ายงาน
ประเด็นคือตอนนี้กลัวที่จะไปเพราะที่ปัจจุบันมั่นคงกว่าเยอะ แต่เงินเดือนน้อยกว่าเกือบ 30%
กลัวว่าถ้าย้ายไปแล้วจะกลับมาหางานที่มั่นคงอีกไม่ได้ครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Mar 2024
ตอบ: 447
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 14:12
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
notehahaha พิมพ์ว่า:
Henry1447 พิมพ์ว่า:
ขอออกตัวก่อนว่า กระทู้นี้ไม่ได้มาอวดว่ารวย หรือเก่งอะไรนะครับ เพราะผมเองก็ไม่ใช่คนเก่ง ไม่ได้จบเมืองนอก เกรดเฉลี่ยตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็แค่สองต้นๆ เงินเดือนปัจจุบันก็ไม่ได้เยอะที่สุดในตลาด บางคนอาจได้เงินเดือนมากกว่าผมหลายเท่าด้วยซ้ำ แต่ที่อยากมาเขียนเล่านี้ เพราะอยากแชร์ประสบการณ์จริง เผื่อจะเป็นกำลังใจให้ใครบางคนที่กำลังรู้สึกถึงทางตัน

ผม list สิ่งที่อยากเล่าเป็น Bullet แล้วให้ AI ช่วยเขียนต่อ แล้วผมมา revise อีกที ภาษาอาจจะแปลกๆไปบ้างนะครับ

ผมเริ่มต้นทำงานด้วยเงินเดือนประมาณ 16-17k ช่วงแรกๆ เปลี่ยนงานบ่อยมาก เพราะอยากอัพเงินเดือน แต่พอไปถึงช่วงประมาณ 40k มันเริ่มตันครับ หางานต่อยากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้ตัวว่า ถ้ายังทำเหมือนเดิม เราจะไม่ไปไกลกว่านี้แล้ว

ผมเลยเริ่มเปลี่ยนวิธีคิดและทำงานแบบใหม่ ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเส้นทางสายอาชีพ และนี่คือสิ่งที่ผมอยากแชร์:

1. อย่าเกี่ยงงาน ถ้ามันทำให้เราได้เรียนรู้
ผมเคยได้งานหลายอย่างที่ไม่ใช่หน้าที่โดยตรง แต่ก็รับไว้ เพราะรู้ว่ามันช่วยให้เราเรียนรู้สกิลใหม่ๆ ที่สำคัญมากในยุคนี้ บริษัทอาจไม่เห็นคุณค่าเราทันที แต่เชื่อเถอะ ที่ใหม่ๆ ที่เราสัมภาษณ์ เขาเห็นครับ ยิ่งเราทำงานได้หลากหลาย ปรับตัวไว ยิ่งมีค่าในตลาดแรงงาน

2. เปลี่ยนงาน เมื่อรู้สึกว่าไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่แล้ว
เคยได้ยินไหมครับว่า ประสบการณ์ 10 ปี ไม่เท่ากับ ประสบการณ์ 1 ปี ซ้ำกัน 10 ครั้ง ถ้างานที่ทำอยู่ไม่มีอะไรให้พัฒนาตัวเองเลย อาจถึงเวลาต้องหางานใหม่แล้วครับ

3. เปลี่ยนงาน เมื่อเรารู้สึกว่าเราเป็นคนสำคัญของที่เดิม
ข้อนี้อาจฟังดูเห็นแก่ตัว แต่มันคือเรื่องจริงของโลกการทำงาน ถ้าเราสำคัญจริง บริษัทจะพยายามรั้งเราไว้ด้วยข้อเสนอที่ดีกว่า หรือถ้าไม่ ก็แปลว่าเราอาจไม่ได้สำคัญอย่างที่คิด ทุกอย่างคือ “ดีล” และเราก็มีสิทธิเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง

4. เลือกบริษัทที่อยู่ใน industry ขาขึ้น
เหมือนกับการซื้อหุ้นเลย ตอนย้ายงาน ผมจะเลือกดูว่าอุตสาหกรรมนี้มีแนวโน้มเติบโตไหม ถ้าใช่ โอกาสเติบโตของเราก็จะมากตามไปด้วย เพราะบริษัทที่กำลังขยายตัว มักจะมีโอกาสและตำแหน่งใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ

5. ภาษาอังกฤษสำคัญจริงๆ
อันนี้เชื่อว่าหลายคนรู้ดีอยู่แล้ว แต่ขอย้ำอีกครั้งว่ามันสำคัญมาก

ตอนนี้คิดออกประมาณนี้ครับ  


คิดว่าอายุเท่าไหร่ถึงจะเริ่มหางานที่มั่นคงครับ

ตอนนี้ผม 33 กำลังจะย้ายงาน
ประเด็นคือตอนนี้กลัวที่จะไปเพราะที่ปัจจุบันมั่นคงกว่าเยอะ แต่เงินเดือนน้อยกว่าเกือบ 30%
กลัวว่าถ้าย้ายไปแล้วจะกลับมาหางานที่มั่นคงอีกไม่ได้ครับ  

ผมคิดว่ายุคนี้ไม่มีงานที่มั่นคงเหมือนรุ่นพ่อแม่เราแล้วครับ บริษัทต้องปรับตัวอยู่ตลอด พนักงานก็ต้องปรับตัวอยู่ตลอดเหมือนกัน ยุคก่อนพออายุถึงจุดนึง ความมั่นคงคือเหมือนนั่งบนโซฟา สบายๆ รอ retire แต่ผมว่ายุคนี้ ความมั่นคงคือการปั่นจักรยานครับ ต้องไปข้างหน้าเรื่อยๆเพื่อให้ไม่ล้ม หยุดปั่นเมื่อไหร่คือไม่มั่นคงแล้ว ฟังดูเศร้า แต่จากประสบการณ์คนรอบตัว มันบอกแบบนั้นจริงๆครับ บริษัทใหญ่ๆพอรายได้ไม่โต ตอนนี้สิ่งที่เค้าทำคือ cost optimization เพราะต้นทุนต้องถูกที่สุดเพื่อให้แข่งขันได้ แปลว่าใครที่ไม่ perform พร้อมโดน lay-off เสมอครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 167
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 14:20
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
ที่ผมเรียนรู้มา จากอายุงานประมาน12ปี อายุปัจจุบัน35 เงินเดือนเฉพาะฐาน 98k
1. ย้ายงานช่วยได้จริง แต่อย่างต่ำควรที่ละ2-3ปี เพราะต่อให้คุณโตในบริษัท มันก็ยากมากที่จะโตแบบก้าวกระโดด ได้ทุกๆ2-3ปี ยกเว้นคุณเป็นTop Potential 1% ของบริษัท
2. เวลาย้ายงานใจเย็นๆ ขั้นต่ำอย่างน้อย20% +- ปัจจุบัยต่างๆ ให้ดี เช่น wfh การเดินทาง สวัสดิการต่างๆ เก็บข้อมูลจากคนรู้จัก ถามเค้าเยอะๆ ให้มั่นใจว่าปรับตัวและเติบโตได้
3. ภาษาอังกฤษและปริญญาโทเป็นพื้นฐานไปแล้ว รวมถึงปัจจุบันเรียนพวก Coursera เพิ่มเติม ที่เกี่ยวกับสายอาชีพ แปะไปในlinked resume ด้วย ต้องพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ
4. เลือกบริษัทให้ดี ส่วนตัวผมเอง จะไม่เลือกบริษัทอย่าง ปูน หรือ ปตท เพราะส่วนมากจะดันจากอายุงาน(ปัจจุบันไม่แน่ใจ) แต่บริษัทต่างชาติหรือสตาทอัพส่วนมากดันจากผลงาน
5. ดวงล้วนๆ ได้นายดี ผลักดัน เสนองานให้ เพื่อนร่วมงานดี ทุกอย่างมันจะออกมาดีเอง
6. การพรีเซนต์เสนอหน้า เป็นสกิลที่จำเป็นมากๆ คุณทำงานเก่ง แต่ไม่มีคนเห็นก็เป็นได้แค่ตัวปิดทองหลังพระ ถ้าเสนอหน้าเป็น พรีเซ้นเก่ง วิเคราะห์ได้ละเอียด มั่นใจในการตอบคำถาม โตไวแน่นอน

สุดท้าย ส่วนมากเงินเดือนที่สูงขึ้น แลกมาด้วยความรับผิดชอบ เวลางานที่มากขึ้น อยุ่ที่ชีวิตการทำงานคุณเองว่าจะbalanceยังไง ถ้ามีลูก ยัติดเรื่องfinancialอยุ่ ก็ต้องพยามไปเรื่อยๆ ส่วนตัวผมเริ่มbalanceชีวิตมากขึ้นแล้ว เพราะตัวผมมองว่างานเป็นแค่ส่วนเล็กๆของชีวิต และปัจจุบันภาระไม่ได้เยอะมาก อยากดูแลสุขภาพตั้งแต่ตอนนี้ ดีกว่าไปซ่อมตอนแก่ มันจะไม่ทัน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Nov 2010
ตอบ: 10361
ที่อยู่: บนเนินสีเขียวๆ
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 14:50
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
notehahaha พิมพ์ว่า:
Henry1447 พิมพ์ว่า:
ขอออกตัวก่อนว่า กระทู้นี้ไม่ได้มาอวดว่ารวย หรือเก่งอะไรนะครับ เพราะผมเองก็ไม่ใช่คนเก่ง ไม่ได้จบเมืองนอก เกรดเฉลี่ยตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็แค่สองต้นๆ เงินเดือนปัจจุบันก็ไม่ได้เยอะที่สุดในตลาด บางคนอาจได้เงินเดือนมากกว่าผมหลายเท่าด้วยซ้ำ แต่ที่อยากมาเขียนเล่านี้ เพราะอยากแชร์ประสบการณ์จริง เผื่อจะเป็นกำลังใจให้ใครบางคนที่กำลังรู้สึกถึงทางตัน

ผม list สิ่งที่อยากเล่าเป็น Bullet แล้วให้ AI ช่วยเขียนต่อ แล้วผมมา revise อีกที ภาษาอาจจะแปลกๆไปบ้างนะครับ

ผมเริ่มต้นทำงานด้วยเงินเดือนประมาณ 16-17k ช่วงแรกๆ เปลี่ยนงานบ่อยมาก เพราะอยากอัพเงินเดือน แต่พอไปถึงช่วงประมาณ 40k มันเริ่มตันครับ หางานต่อยากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้ตัวว่า ถ้ายังทำเหมือนเดิม เราจะไม่ไปไกลกว่านี้แล้ว

ผมเลยเริ่มเปลี่ยนวิธีคิดและทำงานแบบใหม่ ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเส้นทางสายอาชีพ และนี่คือสิ่งที่ผมอยากแชร์:

1. อย่าเกี่ยงงาน ถ้ามันทำให้เราได้เรียนรู้
ผมเคยได้งานหลายอย่างที่ไม่ใช่หน้าที่โดยตรง แต่ก็รับไว้ เพราะรู้ว่ามันช่วยให้เราเรียนรู้สกิลใหม่ๆ ที่สำคัญมากในยุคนี้ บริษัทอาจไม่เห็นคุณค่าเราทันที แต่เชื่อเถอะ ที่ใหม่ๆ ที่เราสัมภาษณ์ เขาเห็นครับ ยิ่งเราทำงานได้หลากหลาย ปรับตัวไว ยิ่งมีค่าในตลาดแรงงาน

2. เปลี่ยนงาน เมื่อรู้สึกว่าไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่แล้ว
เคยได้ยินไหมครับว่า ประสบการณ์ 10 ปี ไม่เท่ากับ ประสบการณ์ 1 ปี ซ้ำกัน 10 ครั้ง ถ้างานที่ทำอยู่ไม่มีอะไรให้พัฒนาตัวเองเลย อาจถึงเวลาต้องหางานใหม่แล้วครับ

3. เปลี่ยนงาน เมื่อเรารู้สึกว่าเราเป็นคนสำคัญของที่เดิม
ข้อนี้อาจฟังดูเห็นแก่ตัว แต่มันคือเรื่องจริงของโลกการทำงาน ถ้าเราสำคัญจริง บริษัทจะพยายามรั้งเราไว้ด้วยข้อเสนอที่ดีกว่า หรือถ้าไม่ ก็แปลว่าเราอาจไม่ได้สำคัญอย่างที่คิด ทุกอย่างคือ “ดีล” และเราก็มีสิทธิเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง

4. เลือกบริษัทที่อยู่ใน industry ขาขึ้น
เหมือนกับการซื้อหุ้นเลย ตอนย้ายงาน ผมจะเลือกดูว่าอุตสาหกรรมนี้มีแนวโน้มเติบโตไหม ถ้าใช่ โอกาสเติบโตของเราก็จะมากตามไปด้วย เพราะบริษัทที่กำลังขยายตัว มักจะมีโอกาสและตำแหน่งใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ

5. ภาษาอังกฤษสำคัญจริงๆ
อันนี้เชื่อว่าหลายคนรู้ดีอยู่แล้ว แต่ขอย้ำอีกครั้งว่ามันสำคัญมาก

ตอนนี้คิดออกประมาณนี้ครับ  


คิดว่าอายุเท่าไหร่ถึงจะเริ่มหางานที่มั่นคงครับ

ตอนนี้ผม 33 กำลังจะย้ายงาน
ประเด็นคือตอนนี้กลัวที่จะไปเพราะที่ปัจจุบันมั่นคงกว่าเยอะ แต่เงินเดือนน้อยกว่าเกือบ 30%
กลัวว่าถ้าย้ายไปแล้วจะกลับมาหางานที่มั่นคงอีกไม่ได้ครับ  


อะไรคือมั่นคงหรอครับ
บริษัทใหญ่ บริษัทกำไรดี บริษัทผูกขาด หรือแบบไหนทำให้เราคิดว่ามั่นคงครับ
ส่วนตัวผมว่าไม่มีที่ไหนมั่นคง บริษัทใหญ่ไม่ล้ม แต่ไล่เราออกได้ครับ วันนี้มีกำไรไม่ได้การันตีว่าวันหน้าจะมี วันนี้เราสำคัญไม่ได้แปลว่าวันหน้าเราจะยังสำคัญอยู่ (อันนี้ส่วนตัวนะ ผมก็ทำงาน บ.ใหญ่มาตลอด)

สรุปว่า ผมคิดว่าไม่มีที่ไหนมั่นคง ความมั่นคงของผมคือเงินเก็บ มีมากผมยิ่งสบายใจ
แล้วความสบายใจของคุณคืออะไรครับ ตอบคำถามนี้ก่อนจะตัดสินใจอย่างอื่นนะ
การย้ายงานไม่ผิด การไม่ย้ายก็ไม่ผิดครับ จังหวะ เวลา ความต้องการแต่ละคนไม่เหมือนกัน ค่อยๆคิดครับผม
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Apr 2009
ตอบ: 7483
ที่อยู่: Philadelphia
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 15:23
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
ถ้า 10 ปีตอนนี้ ผมประมาณ 3.6x
ถ้าไม่ย้ายงานก็คงไม่ถึงน่าจะประมาณ 2.5x

จะเป็น Specialist or Generalist ก็ต้อง perform ให้ได้ Proactive คิดเองเป็น Leadership นำคนที่ไม่ใช่ทีมตัวเองได้, analytics or critical thinking ตั้งคำถาม ถามให้ถูก(ไม่ใช่ถูกใจคนนะ) เห็นด้วยเลย ภาษา เป็นแต้มต่อเสมอ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Apr 2007
ตอบ: 11929
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 15:25
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
เข้ามาบอกว่า "ภาษา" สำคัญจริงๆ คุณอาจจะเก่ง รู้เยอะ แต่สื่อสารไม่ได้ นี่ก็จบ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Mar 2010
ตอบ: 1381
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 15:31
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
Vyse พิมพ์ว่า:
notehahaha พิมพ์ว่า:
Henry1447 พิมพ์ว่า:
ขอออกตัวก่อนว่า กระทู้นี้ไม่ได้มาอวดว่ารวย หรือเก่งอะไรนะครับ เพราะผมเองก็ไม่ใช่คนเก่ง ไม่ได้จบเมืองนอก เกรดเฉลี่ยตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็แค่สองต้นๆ เงินเดือนปัจจุบันก็ไม่ได้เยอะที่สุดในตลาด บางคนอาจได้เงินเดือนมากกว่าผมหลายเท่าด้วยซ้ำ แต่ที่อยากมาเขียนเล่านี้ เพราะอยากแชร์ประสบการณ์จริง เผื่อจะเป็นกำลังใจให้ใครบางคนที่กำลังรู้สึกถึงทางตัน

ผม list สิ่งที่อยากเล่าเป็น Bullet แล้วให้ AI ช่วยเขียนต่อ แล้วผมมา revise อีกที ภาษาอาจจะแปลกๆไปบ้างนะครับ

ผมเริ่มต้นทำงานด้วยเงินเดือนประมาณ 16-17k ช่วงแรกๆ เปลี่ยนงานบ่อยมาก เพราะอยากอัพเงินเดือน แต่พอไปถึงช่วงประมาณ 40k มันเริ่มตันครับ หางานต่อยากขึ้นเรื่อยๆ จนรู้ตัวว่า ถ้ายังทำเหมือนเดิม เราจะไม่ไปไกลกว่านี้แล้ว

ผมเลยเริ่มเปลี่ยนวิธีคิดและทำงานแบบใหม่ ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเส้นทางสายอาชีพ และนี่คือสิ่งที่ผมอยากแชร์:

1. อย่าเกี่ยงงาน ถ้ามันทำให้เราได้เรียนรู้
ผมเคยได้งานหลายอย่างที่ไม่ใช่หน้าที่โดยตรง แต่ก็รับไว้ เพราะรู้ว่ามันช่วยให้เราเรียนรู้สกิลใหม่ๆ ที่สำคัญมากในยุคนี้ บริษัทอาจไม่เห็นคุณค่าเราทันที แต่เชื่อเถอะ ที่ใหม่ๆ ที่เราสัมภาษณ์ เขาเห็นครับ ยิ่งเราทำงานได้หลากหลาย ปรับตัวไว ยิ่งมีค่าในตลาดแรงงาน

2. เปลี่ยนงาน เมื่อรู้สึกว่าไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่แล้ว
เคยได้ยินไหมครับว่า ประสบการณ์ 10 ปี ไม่เท่ากับ ประสบการณ์ 1 ปี ซ้ำกัน 10 ครั้ง ถ้างานที่ทำอยู่ไม่มีอะไรให้พัฒนาตัวเองเลย อาจถึงเวลาต้องหางานใหม่แล้วครับ

3. เปลี่ยนงาน เมื่อเรารู้สึกว่าเราเป็นคนสำคัญของที่เดิม
ข้อนี้อาจฟังดูเห็นแก่ตัว แต่มันคือเรื่องจริงของโลกการทำงาน ถ้าเราสำคัญจริง บริษัทจะพยายามรั้งเราไว้ด้วยข้อเสนอที่ดีกว่า หรือถ้าไม่ ก็แปลว่าเราอาจไม่ได้สำคัญอย่างที่คิด ทุกอย่างคือ “ดีล” และเราก็มีสิทธิเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง

4. เลือกบริษัทที่อยู่ใน industry ขาขึ้น
เหมือนกับการซื้อหุ้นเลย ตอนย้ายงาน ผมจะเลือกดูว่าอุตสาหกรรมนี้มีแนวโน้มเติบโตไหม ถ้าใช่ โอกาสเติบโตของเราก็จะมากตามไปด้วย เพราะบริษัทที่กำลังขยายตัว มักจะมีโอกาสและตำแหน่งใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ

5. ภาษาอังกฤษสำคัญจริงๆ
อันนี้เชื่อว่าหลายคนรู้ดีอยู่แล้ว แต่ขอย้ำอีกครั้งว่ามันสำคัญมาก

ตอนนี้คิดออกประมาณนี้ครับ  


คิดว่าอายุเท่าไหร่ถึงจะเริ่มหางานที่มั่นคงครับ

ตอนนี้ผม 33 กำลังจะย้ายงาน
ประเด็นคือตอนนี้กลัวที่จะไปเพราะที่ปัจจุบันมั่นคงกว่าเยอะ แต่เงินเดือนน้อยกว่าเกือบ 30%
กลัวว่าถ้าย้ายไปแล้วจะกลับมาหางานที่มั่นคงอีกไม่ได้ครับ  


อะไรคือมั่นคงหรอครับ
บริษัทใหญ่ บริษัทกำไรดี บริษัทผูกขาด หรือแบบไหนทำให้เราคิดว่ามั่นคงครับ
ส่วนตัวผมว่าไม่มีที่ไหนมั่นคง บริษัทใหญ่ไม่ล้ม แต่ไล่เราออกได้ครับ วันนี้มีกำไรไม่ได้การันตีว่าวันหน้าจะมี วันนี้เราสำคัญไม่ได้แปลว่าวันหน้าเราจะยังสำคัญอยู่ (อันนี้ส่วนตัวนะ ผมก็ทำงาน บ.ใหญ่มาตลอด)

สรุปว่า ผมคิดว่าไม่มีที่ไหนมั่นคง ความมั่นคงของผมคือเงินเก็บ มีมากผมยิ่งสบายใจ
แล้วความสบายใจของคุณคืออะไรครับ ตอบคำถามนี้ก่อนจะตัดสินใจอย่างอื่นนะ
การย้ายงานไม่ผิด การไม่ย้ายก็ไม่ผิดครับ จังหวะ เวลา ความต้องการแต่ละคนไม่เหมือนกัน ค่อยๆคิดครับผม  


ความมั่นคงเท่าที่ผมมองก็ในมุมที่เรามี room ให้ไป perform หรือไม่
อย่างตอนนี้สถานการณ์เศรษฐกิจค่อนข้างแย่ แต่ฝ่ายงานที่ผมจะย้ายไปดันไปเป็นฝ่ายที่วัดผลงานด้วยรายได้
อีกอย่างคือเป็นบ.เล็ก ถ้าเทียบกับบ.อื่นในตลาดคืออยู่เกือบท้ายเลยครับ
แล้วอีกอย่างคืออยู่ไกลบ้านมากๆ แล้วก็จะกลับมาเข้า 5 วันอีก

ซึ่งบ.ปัจจุบันก็เป็นบ.ที่เราค่อนข้างอยู่ตัวแล้ว เป็นอันดับต้นๆในสายธนาคาร
บวกกับงานที่ผมทำไม่ได้วัดผลจากรายได้เท่าไหร่ เป็นแนว Project
อยู่ใกล้บ้าน แล้วก็เข้าแค่ 2 วันต่อวีค
แต่ที่ผมไม่ชอบคือหัวหน้าที่ประเมินครับ คือเค้าเป็นคนที่ไม่ค่อยมองภาพรวมเท่าไหร่
ทำให้เวลาประเมินแล้วเค้าก็จะเอาแต่คนที่เค้าทำงานด้วยมากกว่าให้ได้ประเมินดีๆ ประมาณนี้ครับ
แถมเค้า Freeze คนและตำแหน่ง ผมเลยแทบไม่มีโอกาสขึ้นเลยในช่วงปีสองปีนี้
แต่ไม่ใช่ว่าผมประเมินได้แย่นะครับ แต่แค่ผมไม่ได้ดีที่สุดแค่นั้นเลย (ก็คือได้ B+ ไม่ A)

ส่วนความสบายใจของผมก็คือเงินแหละครับ เพียงแต่พอเป็นแบบนี้แล้วมันเลยทำให้ผมรู้สึกคิดหนักครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Mar 2020
ตอบ: 7586
ที่อยู่: บ้าน
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 15:45
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
เรื่องความมั่นคง ผมว่ามันต้องดูด้วยว่าเรา measure against อะไรด้วยครับ คือเงินดีก็จริง แต่ไม่มั่นคงก็มีนะครับ สตาร์ทอัพหลายที่กล้าจ่ายค่าตัวสูงๆแต่สุดท้ายไม่รอดผมก็เห็นมาแล้วหลายคน เพื่อนผมก็เคยลาออกจากบ.ที่มั่นคงมากๆ ไปหาเงินที่มากขึ้น 60% แต่สุดท้ายสองปี บ.นั้นก็ปิดตัวลงไป

ผมมองว่าความมั่นคง => อนาคตในการเติบโต เพราะเหมือนที่อีกความเห็นบอก ความมั่นคงคือการขี่จักรยานที่เราอยู่กับที่ไม่ได้ ที่ๆมั่นคงคือที่ๆมีโอกาสให้เราได้เขยิบขยายไปข้างหน้า หรือสร้าง skill set ใหม่ๆให้กับตัวเองเพื่อไปข้างหน้าต่อได้ เพื่อที่ต่อให้อะไรจะเกิดขึ้น เรายังมีที่ทางจะไปต่อเพื่อ counteract สิ่งที่มันอาจจะเกิดขึ้นครับ

ผมเองปีนี้ 42 แล้วล่ะ ทำงานมาเกือบ 20 ปีละ ที่ปัจจุบันเพิ่งที่ๆ 5 (ถ้ารวม contract ด้วยอันนี้คือที่ๆ 6) เงินเดือนและตำแหน่งก็เรียกได้ว่าเหมาะสมกับความสามารถแล้ว(มั้ง) แต่ถ้าให้ตอบจริงๆ ผมว่าความมั่นคงแม่มไม่มีอยู่จริงครับ มันเป็นอะไรที่ dynamic ครับ อะไรที่ดูมั่นคงวันนี้ อีก 5 ปีข้างหน้าอาจจะไม่มั่นคงก็ได้ ดูการเติบโตของ AI ก็ได้ว่ามันมี impact ต่องานที่เคยมั่นคงขนาดไหน ฉะนั้นอันนี้เป็น false illusion ครับ

สุดท้าย ถ้าเราไม่หยุดเรียนรู้ พยายามพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ
สกิลที่ติดตัวเรานั่นแหล่ะครับคือความมั่นคง

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
"Your energy introduces you before you even speak."
"Be the same person privately, publicly, personally."
"Science explain people, but could not understand them."
“Keep a little fire burning, however small, however hidden.”
"Nullum magnum ingenium sine mixtura dementiæ fuit”
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Jun 2015
ตอบ: 1643
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 17, 2025 18:06
[RE: แชร์ประสบการณ์ทำงาน 15 ปี เงินเดือนเพิ่มมากกว่า 10 เท่า]
คหสต.ผม สายงาน IT, network, security

สำหรับ job hopper แนะนำว่าขั้นต่ำต่อที่ควรนะสัก 3 ปีนะ
ถ้าแค่ 1-2 ปีนี่ ผมไม่คิดจะมองมาเข้าทีมเลย เสียเวลา
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel