จบแล้ว! การประชุม JBC ไทย-กัมพูชา 2 ประเทศ จับมือลงนามบันทึกการประชุม กต.ไทย เผย หารือราบรื่น-ฉันท์มิตร นัดหารือ อีกครั้ง ก.ย.นี้

วันที่ 15 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ที่โรงแรมโซฟิเทล กรุงพนมเปญ เสร็จสิ้นลงแล้ว เมื่อช่วง 14.00 น. ที่ผ่านมา โดยกระทรวงการต่างประเทศของไทย เปิดเผยว่า เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ

การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้

ขณะที่ การกระทรวงกิจการชายแดนของกัมพูชา เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่าย เห็นพ้องที่จะอนุมัติวาระการประชุม 4 หัวข้อคือ

1. การทบทวนและอนุมัติรายงานการประชุมครั้งที่ 4 ของคณะอนุกรรมการเทคนิค ร่วมกัมพูชา-ไทย (JTSC) ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2567 ณ เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา

2. การทบทวนและหารือเกี่ยวกับการแก้ไข TOR ปี 2546 เกี่ยวกับการผลิตแผนที่ภาพถ่าย Auto Photo (ขั้นตอนที่ 2 ในข้อ 4 ของ TOR)

3. การหารือและอนุมัติการส่งคณะสำรวจร่วมไปสำรวจและกำหนดแนวเขตบนพื้นดินจริงระหว่างจุดที่ตั้งที่แน่นอนของจุดผ่านแดนที่ตกลงกันไว้ (ส่วนของเส้นเขตแดนตามแนวสันปันน้ำและส่วนของเส้นตรง)

4. หารือแนวทางการวัดเขตแดนใน Sector 6 (การประชุมครั้ง ที่ 4 และการประชุมพิเศษของ JBC ในปี 2549)
ทั้งในการประชุม JBC นายฬำ เจีย ประธานฝ่ายกัมพูชา ได้ขอให้ฝ่ายไทยร่วมมือกับฝ่ายกัมพูชาในการนำข้อพิพาทชายแดน 4 พื้นที่ เข้าสู่การพิจารณาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) และยืนยันจุดยืนของกัมพูชาที่จะดำเนินการตามกฎหมาย แม้ว่าฝ่ายไทยจะปฏิเสธเขตอำนาจศาลของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ก็ตาม

นอกจากนี้ยังยืนยันว่า พื้นที่ทั้ง 4 แห่ง จะไม่เป็นหัวข้อในการหารือและการยุติข้อพิพาทภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดน ร่วมกัมพูชา-ไทย (JBC) อีกต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารข่าวของกระทรวงกิจการชายแดนกัมพูชา ยังระบุด้วยว่า นายฬำ เจีย ได้พูดถึงนโยบายของกัมพูชาที่ต้องการยึดมั่นในสันติภาพและแสวงหาพรมแดนอย่างสันติและความร่วมมือที่ดีกับฝ่ายไทย โดยยึดถือตามเอกสารกฎหมายและแผนที่ที่ตกลงกันตาม MOU 2543 ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะใช้แผนที่มาตราส่วน 1: 200,000 ตามเจตนารมณ์ของอนุสัญญาฝรั่งเศส-สยามปี 1904 และสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยามปี 1907 เพื่อดำเนินการปักปันเขตแดนและงานปักปันเขตแดน

และฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธอย่างเด็ดขาดที่จะยอมรับแผนที่ที่ฝ่ายไทยได้วาดขึ้นโดยฝ่ายเดียว และใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของข้อพิพาทเรื่องพรมแดนเรื้อรัง ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การประชุม JBC ครั้งนี้ จัดขึ้นในบรรยากาศที่เป็นมิตรและเข้าใจกัน มีการสนทนาที่เปิดกว้างและเป็นบวก

สรุปตอนนี้คือ ออฟฟิเชียลยอมเสียดินแดนแล้วเหรอครับ

สรุปยอมรับ 1 ต่อ 200000 จริงหรือปล่าวเนี้ย รอแถลงการณ์อยู่นะ

ถ้าจริงตามเอกสารฝั่งเขมรนี้ระยำมากเลยคิดได้ไงมูฟนี้ไปยอมรับ 1:200000 เสียดินแดนเป็นล้านไร่เหมือนจะเสียพื้นที่ทางทะเลบางส่วนด้วย ส่วนฝั่งไทยรอพรุ่งนี้ตามสเตปแถมแถลงแต่ละรอบมีแต่น้ำ

ถ้าโง่พอ ก้อรับกรรมของความโง่ไป อย่าหาว่า
แรงเกินกว่าเหตุละ

ทหารไม่ยอมแน่นอน 1:200000 อะ

เพิ่มความชอบธรรมให้พวกอยากรัฐประหารเข้าไปอีก ซวยแน่แม่จ๋า