การต่อสัญญานักเตะตัวเอง มันไม่ต้องทำตอนตลาดซื้อขาย ตอนนี้มุ่งซื้อขายก่อนเดี๋ยวตลาดปิด

อ่านแล้วก็เพลินดีครับ แต่ผมเห็นด้วยกับอีกท่าน และคิดว่า FSG ก็น่าจะคิดแบบเดียวกันว่าการใช้ให้หมดสัญญาแล้วปล่อยฟรีคุ้มกว่าทางด้านบัญชี เหมือนที่อีกท่านยกตัวอย่างว่าสมมติดิอาสค่าเหนื่อย 75k เหลือสัญญาสองปี สมมติขายได้ 50m เอาไปซื้อตัวใหม่ที่ฝีเท้าระดับดิอาส 50m หรือมากกว่า ค่าเหนื่อยต้องระดับ 150k++ แน่ๆ เท่ากับเราเสียเงินเพิ่มขึ้นเพื่อได้ประสิทธิภาพเท่าเดิม เอาเวลาสองปีระหว่างรอดิอาสหมดสัญญา ไปสเก๊าท์หานักเตะที่เหมาะสมทั้งด้านราคาและค่าเหนื่อย ยังไงก็หาได้อยู่แล้ว ด้านภาพลักษณ์ในตลาดผมว่าสโมสรไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ เพราะระบบหลังบ้านเราค่อนข้างจะดี รู้จังหวะว่าควรซื้อตัวไหนในราคาไหน ลองแลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ

จากที่ทีมซื้อเวียตซ์น่าจะบ่งบอกแล้วว่า fsgก็ค่อนข้างทะเยอทะยานในเรื่องฟุตบอลพอสมควร ผมเลยไม่คิดว่าเค้าจะมองแค่ความคุ้มค่าทางบัญชีเพียงอย่างเดียวครับ ยังไม่รวมที่เคยเอาจริงจะเซ็นไคเซโด้ จู๊ด ชูอาเมนี่ และข่าวที่หลุดออกมาว่าเวียตซ์อาจได้รับค่าเหนื่อยสูงถึง3แสนกว่าปอนด์เกือบเทียบเท่าฟานไดค์กับซาล่าห์ ผมก็มองว่าเรื่องค่าเหนื่อยที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นปัญหาขนาดนั้นสำหรับนักเตะที่จะมายกระดับทีมได้

ทีนี้จากที่ยกตัวอย่างกันเรื่องดิอาซ เข้าใจว่าทีมไม่ควรเปลี่ยนถ่ายเยอะเกินไป ควรคีพนักเตะไว้เพื่อให้ต่อยอดได้ แต่ผมมองว่าดิอาซเก่งและมีบทบาทก็จริงกับการลุ้นแชมป์ แต่ผมยังคิดว่าสล็อตไม่ได้มองดิอาซเป็นนักเตะที่ขาดไม่ได้หรือเป็นแกนของทีมในระยะยาวขนาดนั้น (ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้ชอบเท่าไหร่ การจ่ายบอลวิชั่นแกเฉยๆสำหรับผม) ผมเลยมองว่าใช้ไปอีก1 ปีแล้วขาย หรือขายเลยในซัมเมอร์นี้ถ้าได้ราคาดี ดูจะเป็นตัวเลือกทึ่fsg จะเลือกมากกว่าครับ(ในกรณีที่ไม่ต่อสัญญา) >> สรุปเรื่องดิอาซ ผมไม่คิดว่าเค้าจะมาคำนึงถึงเรื่องแค่ยิบย่อย ผมว่าแค่มันยังไม่ได้ราคาขายที่อยากได้แค่นั้นแหละครับ

ทีนี้ถ้าต่อสัญญาแล้วให้ค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นเท่านึง ซึ่งเป็นค่าเหนื่อยที่ค่อนข้างเหมาะสม และผมคิดว่าควรทำเพราะอย่างน้อยเป็นการตอบแทนนักเตะ perceptionที่โลกฟุตบอล(นักเตะ เอเยนต์)มีต่อเราก็คือ เราแฟร์ ไม่ใช่กดๆราคาค่าเหนื่อยตอนเซ็นพอใช้คุ้มละก็ถีบหัวส่งขายทำกำไรไม่ใยดี >> ผลลัพธ์คือมีผลต่อการจูงใจนักเตะที่จะเซ็นนักเตะในอนาคต

ก็เหมือนพนักงานบริษัทแหละครับ ใครก็อยากทำงานให้บริษัทที่มีการจ่ายผลตอบแทนดี สวัสดิการดี มีโบนัส มีการตอบแทน (โดยเฉพาะกรณีที่คนนั้นเป็น assetของสโมสรยิ่งต้องดูแลดี) ซึ่งผมให้คะแนนfsgที่ต่อสัญญาซาล่าห์กับฟานไดจ์ เรียกว่าได้ใจทุกๆคน(ถึงแม้ว่าผมจะเฉยๆกับซาล่าห์ก็ตาม) แล้วก็ประกาศให้โลกรู้ว่า ถ้าคุณมาหงส์ คุณเป็น key player คุณอยู่ยาวจนจะกลายเป็นlegend เราอัพเงินให้คุณนะ แบบนี้ต่อไปคนจะเซ็นเข้ามาใหม่ๆก็เห็นว่า อืมม มีเหตุมีผลที่เค้าขอ startค่าเหนื่อยที่เท่านี้ก่อนเพราะเดี๋ยวอยู่ไปต่อสัญญาขออัพก็ได้ เนี่ยมันคือความคุ้มค่าทางด้านอื่นด้วย และเผลอๆคุ้มค่าทางบัญชีในอนาคตด้วย

ทีนี้มาดูperception ถ้ามีการปล่อยให้นักเตะคีย์แมน อายุน้อย หมดสัญญาย้ายฟรีสองครั้งสามครั้งมันจะเป็นยังไง มันก็จะมีทีมจ้องแต่รอของฟรีจากเราน่ะสิครับ จากโมเมนตั้มกำลังจะกลายเป็นทีมtop tierที่ใครๆก็อยากอยู่ด้วย กลายเป็นทีมที่นักเตะไม่อยากต่อสัญญา เสียนักเตะสำคัญฟรีเป็นประจำกลายเป็นเป็นแบรนดิ้งเลยนะ ผมไม่เห็นทีมชั้นนำเค้าทำกันเท่าไหร่( ในทางกลับกันเคยเห็นเราไปแต๊บคนสำคัญของทีมอื่นมาฟรีๆแล้วเก่งมั๊ย? อาจจะมีแต่นึกแทบไม่ออก ก็เพราะมันเกิดขึ้นน้อยไง)

ในมุมนักเตะก็คิดอ๋อถ้าอยากย้ายก็แค่เตะถ่วงแล้วรอย้ายฟรี ~ไม่เสียหายกว่าหรอครับในระยะยาว.. กลับกันถ้าเขี้ยวๆเรื่องสัญญามาจับเข่าคุยกันหาโซลูชั่น ถ้ายูจะย้ายงั้นเรามาเซ็นminimum released clause หรือ เงื่อนไขอะไรซักอย่างที่เป็นinnovation ทางกฎหมายจะดีกว่ามั๊ย

สำหรับผมกรณีเทรนท์เป็นเรื่องเสียหมาในตลาดนักเตะเลยนะ การย้ายไปร่วมทีมคู่แข่ง no.1ในยุโรปแบบฟรี และเป็นลูกหม้อของทีมแบบนี้ ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือ ได้แค่เศษตังค์หลังตู้ปลอบใจ ถ้าให้ชัดลองจินตนการว่าไปแมนยูแบบนี้ โอเคหรอ แล้วถ้าเกิดขึ้นซ้ำๆ จะโอเคกันใช่มั๊ย

>> กลับมาที่พ้อยของผมในการเม้นท์ ก็คือ ผมไม่คิดว่าfsg จะปล่อยให้ย้ายฟรีในเคสอื่นๆนับจากนี้ ในกรณีที่เป็นนักเตะอายุน้อย เป็นคีย์แมน โพเทนเชี่ยลสูง มีราคาแต่ปล่อยสัญญาหมด มันได้ไม่คุ้มเสียในระยะยาว ผมเชื่อว่าfsgต้องคุยกันเรื่องนี้อยู่ละ main ideaผมมีแค่นี้หวังว่าคงเข้าใจกัน อธิบายไปหมดละ