ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเผยจากสื่อไหนซักสื่อนี่ละ ฟังมาละลืม ประมาณว่า รายรับเยอะ ถ้าไม่ได้ใช้จ่ายหักลบกัน

ก็โดนภาษีอ่วมเหมือนกัน ก็เลยเปิดรับดีลผ่อนหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น ฟริมปง เวียร์ต โบนิเฟส และ คอสซูนู

จะว่าไปก็ลืมคิดมุมนี้เหมือนกันแฮะ แถมบางดีลขอให้ผ่อนก็ได้เพิ่มอีกนิดหน่อยด้วย เพราะ เอาเข้าจริง

เลเวอร์ประเมิณไว้ว่าสมมติว่าขาย 4 คนนี้ได้รวมๆ 250 ล้านยูโรเนี่ย โดนภาษีหนักแน่ แล้วปกติทีมอย่างเลเวอร์

เขาไม่ได้ซื้อนักเตะเป็น 100 ล้านซะหน่อย ก็เข้าใจได้เหมือนกันแฮะ ก็ว่าทำไมดีลฟริมปง 30++ ล้าน มันก็ยังให้ผ่อน

Edit : รายละเอียดจริงๆผมก็ไม่รู้แฮะ จากนักข่าวก็ประมาณนี้ แต่ความเป็นจริงผมก็บ่ฮู้คือกัน


เนื้อหาก็เอามาจาก Bild(โดย Axel Hesse น่าจะ Tier ต้นๆเลเวอเลย) เขาบอกไว้แบบนี้ครับ

The report also clarified the reason why the transfer fee is spread over five seasons, and why it makes sense for Bayer Leverkusen.
# รายงานยังอธิบายถึงเหตุผลที่ค่าตัวถูกแบ่งจ่ายในระยะเวลา 5 ปี และว่าทำไมมันจึงเป็นผลดีต่อไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

“The fact that the total amount is spread over several years is more of an advantage than a disadvantage for B04,” the journalist added.”
# การที่จำนวนเงินทั้งหมดถูกแบ่งจ่ายออกเป็นหลายปีนั้น ถือเป็นข้อได้เปรียบมากกว่าข้อเสียสำหรับ B04 (เลเวอร์คูเซ่น) นักข่าวกล่าว

“If the entire sum were to be paid as a one-off payment, they would have to invest all of the money this year – or pay tax on the surplus at the end of the year and then transfer it to Bayer AG in the form of a profit transfer.”
# หากได้รับเงินทั้งหมดเป็นก้อนเดียวในปีนี้ พวกเขาจะต้องรีบนำเงินไปลงทุนทั้งหมดในปีนี้ – หรือไม่ก็ต้องเสียภาษีจากส่วนที่เป็นกำไร ณ สิ้นปี และจากนั้นต้องโอนผลกำไรส่วนนี้ไปยังบริษัท Bayer AG (บริษัทแม่) ในรูปแบบของ ‘การโอนผลกำไร

“Because sales totaling around €250m are pending this summer, the income will be spread over several years through installment payments and additional payments. This was already the case with the sale of Kai Havertz five years ago.”
# เนื่องจากมีการขายนักเตะรวมกันมูลค่าประมาณ 250 ล้านยูโรในซัมเมอร์นี้ รายได้จึงจะถูกแบ่งออกเป็นหลายปี ผ่านการผ่อนชำระและโบนัสเพิ่มเติม เช่นเดียวกับกรณีที่ขาย ไค ฮาแวร์ตซ์ เมื่อ 5 ปีก่อน

ref : https://www.daveockop.com/latest-news/bild-reveal-full-financials-behind-florian-wirtz-transfer/

บางทีที่ช้า อาจจะเพราะเลเวอร์ติดต่อหาตัวแทนหลายคน เพื่อเอาค่าตัวที่ต้องจ่ายมาคำนวณให้ใกล้เคียงกับค่าผ่อนก็เป็นได้

เอาจริงๆมันไม่ช้าหรอกครับ ดีลแพงขนาดนี้ จบได้ก่อนพรีซีซั่นตั้งนาน แค่ข่าวมันมาแบบรวดเร็ว แล้วเราก็คาดหวังกัน

เพราะ ใจนักเตะมันมา มันก็เลยเหลือแต่เกมเจรจาราคาระหว่างตัวแทนสโมสร สำหรับผมไม่ได้ช้านะ แต่ในมุมแฟนบอล

ก็ยอมรับว่า ใจร้อนเหมือนกัน(หมายถึงผมเองเนี่ย)

อันนี้มั่วละ ปกติตามหลักบัญชีมันต้องรับรู้รายได้ปีนี้แล้วตั้งลูกหนี้ไว้ครับ รายได้ปีนี้มันจะไปรับรู้ปีหน้าได้ยังไง

นิวยาย่า แซมบี้โลคอนก้า เอาไปเลย 10 M จ่ายภาษีอะไรให้หมดเลย ครับ เฮียวีโก

ตามหลักบัญชีไม่น่าใช่แหละฮะ (ตามเมนต์บนเลย) กำไรก็เท่าเดิมอ่ะ จะผ่อนกี่รอบก็ตาม (มีผลแค่กระแสเงินสดในมือ)

วิธีเลี่ยงได้อย่างเดียวคือการใส่เงื่อนไข add-on เช่น ซื้อขายตามค่าตัวเบื้องต้น 80 ล้าน แล้วใส่เงื่อนไขเพิ่มเข้าไป

ถ้าเตะครบ 10 นัด ได้ add-on อีก 10 ล้าน จนคราบ 20-30 นัดก็ว่าไป..มูลค่าทางบัญชีก็จะรับรู้รายได้เบื้องต้น 80 ล้านแค่นั้น

ที่เหลือก็ไปเพิ่มตอนที่แต่ละเงื่อนไขผ่าน ว่าไปตกอยู่ที่ปฏิทินปีไหน ก็ทดเป็นรายได้ปีนั้นไปแล้วค่อยคิดเรื่องกำไร/ภาษี

ปกติเค้าไม่มานั่งรอเงินผ่อนกันหรอกครับ เค้าเอาหนี้ไปขายให้สถาบันการเงินแล้วรับเงินสดมาเลย

ไอ้ส่วนเกินที่ได้มาก็เอาไปจ่ายดอกเบี้ยแหละครับ

เคยอ่านสายบัญชีพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน

แบบหนี้ในวงการฟุตบอลนี่ตรรกะวิธีคิดต่างจากสามัญสำนึกเรื่องการเงิน


ยกตัวอย่างค่าตัวคุนย่า 62.5 ล้านปอนด์ แบ่งชำระ 3 งวดใน 3 ปี

วิธีคิดก็เหมือนการรูดบัตรเครดิตซื้อของ 60 ล้าน + ดอกเบี้ย 2.5 ล้าน อะไรประมาณนี้

เห็นพูดเรื่องบัญชีกัน ผมสงสัยนิดนึงงับ ถ้านักเตะถือเป็นสินทรัพย์ของสโมสร เงินที่ได้จากการขายมันจะไม่ได้นับเป็นรายได้ แต่รายได้จะมาจากกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์หรือเปล่า เพราะงั้นการแบ่งจ่ายก็ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องกำไรอยู่แล้ว เพราะสโมสรต้องรับรู้รายได้ตัวกำไรจากการขายเป็นรายได้ของปีนั้นๆเต็มๆ แค่จะมีลูกหนี้ผุดขึ้นมาแทนที่จะเป็นเงินสด

ผมว่ามันดูช้าเพราะว่ามีข่าวตลอดครับ พอเห็นการอัปเดทแทบทุกวันมันเลยรู้สึกว่าเมื่อไหร่จะปิดดีลได้ ทั้งที่เอาจริง ๆ ดีลระดับ 100+ ล้านปอนด์ ตลาดเปิดไม่กี่วันก็จะเสร็จละ พอลองมองดูอีกทีผมว่าเร็วจังแฮะ

ผมว่าตอนนี้ทุกอย่างดูช้าไปหมดเพราะข่าวมันไวกับเยอะขึ้นกว่าเดิมมาก ปกติดีลดำดินส่วนใหญ่มันก็น่าจะมีการพูดคุยกันมาพักนึงก่อนปล่อยข่าว เลยดูเหมือนเร็ว ลองเปลี่ยนดีลนี้เป็นปิดข่าวแล้วโผล่มาอีกทีตอนตกลงสัญญาเสร็จแล้ว + กับที่เราตกลงส่วนตัวกับนักเตะเรียบร้อยก่อนอยู่แล้วด้วย ก็จะกลายเป็นแบบเห้ย เร็วจัดตลาดเปิดไม่กี่วันเอง

คิดว่านะครับ

ถ้าลงลึกลงไปก็คือใช่ครับ สมมุติว่าซื้อมา 60 ล้าน ใน สามปี แปลว่า อีก 2 ปีข้างหน้า 40 ล้าน แต่จริงๆแล้ว 40 ล้านตอนนี้ อาจจะไม่ใช่แล้วในอนาคต โคตรสมองบวม

คือสำหรับผมมันไม่ได้ช้าหรอกครับ

ผมจะสื่อว่าจริง ๆ ดีลนี้คุยกันจบไปนานแล้วหรือเปล่า แค่ดึงเวลาเพื่อให้เลเวอร์หาตัวแทนได้ก่อน

ตัวนักเตะเองก็ยืนยันเป็นมั่นเหมาะ ทั้งปฏิเสธเรื่องเบอร์ 10 ทั้งพยักหน้า บลา ๆๆ น่าจะมั่นใจว่าชัวร์แล้ว

ปล.ดีลเคอร์เคซ ก็เช่นกัน

สโมสรระดับนี้ งบกำไรน่าจะอยู่ในเกณฑ์เสียภาษีสูงอยู่แล้วมัง ไม่น่าขยับขั้นบันได ผมไม่รู้โครงสร้างภาษีนิติบุลตลเมืองนอก แต่เดาว่าก็คงโดนขั้น max แล้ว

จริงๆถ้าผ่อน แล้วได้เงินมากขึ้น รวมแล้วได้กำไรมากขึ้น ตรงนี้มากกว่าที่เป้นประโยชน์ที่แท้จริง

มั่วหรือไม่อันนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ผมไม่รู้เลยว่าโครงสร้างกระบวนการต่างๆมันเหมือนหรือต่างกันมั้ย

เนื้อหาก็เอามาจาก Bild(โดย Axel Hesse น่าจะ Tier ต้นๆเลเวอเลย) เขาบอกไว้แบบนี้ครับ

The report also clarified the reason why the transfer fee is spread over five seasons, and why it makes sense for Bayer Leverkusen.
# รายงานยังอธิบายถึงเหตุผลที่ค่าตัวถูกแบ่งจ่ายในระยะเวลา 5 ปี และว่าทำไมมันจึงเป็นผลดีต่อไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

“The fact that the total amount is spread over several years is more of an advantage than a disadvantage for B04,” the journalist added.”
# การที่จำนวนเงินทั้งหมดถูกแบ่งจ่ายออกเป็นหลายปีนั้น ถือเป็นข้อได้เปรียบมากกว่าข้อเสียสำหรับ B04 (เลเวอร์คูเซ่น) นักข่าวกล่าว

“If the entire sum were to be paid as a one-off payment, they would have to invest all of the money this year – or pay tax on the surplus at the end of the year and then transfer it to Bayer AG in the form of a profit transfer.”
# หากได้รับเงินทั้งหมดเป็นก้อนเดียวในปีนี้ พวกเขาจะต้องรีบนำเงินไปลงทุนทั้งหมดในปีนี้ – หรือไม่ก็ต้องเสียภาษีจากส่วนที่เป็นกำไร ณ สิ้นปี และจากนั้นต้องโอนผลกำไรส่วนนี้ไปยังบริษัท Bayer AG (บริษัทแม่) ในรูปแบบของ ‘การโอนผลกำไร

“Because sales totaling around €250m are pending this summer, the income will be spread over several years through installment payments and additional payments. This was already the case with the sale of Kai Havertz five years ago.”
# เนื่องจากมีการขายนักเตะรวมกันมูลค่าประมาณ 250 ล้านยูโรในซัมเมอร์นี้ รายได้จึงจะถูกแบ่งออกเป็นหลายปี ผ่านการผ่อนชำระและโบนัสเพิ่มเติม เช่นเดียวกับกรณีที่ขาย ไค ฮาแวร์ตซ์ เมื่อ 5 ปีก่อน

ref : https://www.daveockop.com/latest-news/bild-reveal-full-financials-behind-florian-wirtz-transfer/

ไปอ่านมาละ เขาน่าจะหมายถึงตัวเงินนะ ถ้าได้รับก้อนใหญ่ก้อนเดียวมาปีนี้ จบปีก็ต้องโอนเงิน(จำนวนที่เหลือ/ใช้ไม่หมด)นั้นให้บริษัทแม่ และก็ไม่มีประโยคไหนที่บอกว่าไว้ลดหรือเลี่ยงภาษีนะ