เค้าอาจจะอยากให้ไปกิน a la carte
พอมีเป็นครบๆมันไปแย่งตลาดกับกลุ่มปกติของตัวเองมั้ง

ทำราคาถูกคือน่าจะต้องการไปแย่งจากลูกค้าบุฟเฟตที่อื่น

ทาง MK เค้าอาจมอง target group ของเค้าเป็นกลุ่มที่กิน buffet ก็ได้นะครับ อย่างบ้านผมจะที่ช่วงอายุอยู่ในวัยเกิน 35 กับต่ำกว่า 10 เวลาไปกินร้านนอกบ้านก็จะไม่ค่อยมอง buffet ละ เพราะคิดว่ากินไม่คุ้ม (พออายุเยอะแล้วจะกินได้น้อย กิน buffet ไม่คุ้ม ถ้าช่วงเด็กๆ นี่ buffet นี่มาเลย ไม่กลัว)

ซึ่งถ้าอยากกินสุกี้ก็ไป mk นี่แหละ เพราะมีของบางอย่างที่ชอบกิน แต่ถ้าไม่รู้จะกินอะไร mk จะไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆ เพราะมองว่าของเค้าค่อนข้างแพงมาก เทียบกับร้านอาหารประเภทอื่นตามห้าง บ้านผมกิน mk ทีนึง พอหารออกมาแล้วจะตกหัวละประมาณ 400 - 500 บาท แต่ถ้ากินร้านอื่นจะตกที่ประมาณหัวละ 300 บาท

ส่วน buffet mk นี่ เห็นแล้วก็ยังไม่รู้สึกอยากไปกินเท่าไหร่ เพราะของที่อยู่ใน buffet ก็ไม่ค่อยมีของที่ชอบกินปกติ แต่ผมคิดว่าโปรนี้ mk ทำออกมาดึง target group ใหม่ มากกว่าจะทำมาให้ target group เดิมของเค้า

นะเตง

700 ไป กินบุฟเฟ่ต์​พรีเมี่ยม ดีกว่า mk เยอะเลยครับ

Mk Gold ศาลาแดงไง ผมกินประจำ500กว่าบาทมั้ง แต่ไม่มีเป็ดอยากกินสั่งเพิ่มเอา

มันมีอยู่แล้วนิ เคยกินที่ฟิวเจอร์

ตอนนี้เอาทีมการตลาด มาเก็ตติ้งออกยกทีมก่อนเลยดีกว่า เอา director ทีมออกไปด้วยเลย คิดแต่ละแคมเปญ หัวจะปวด จะทำก็ไม่กล้าทำสุด จะทำก็ไม่มองจุดยินตัวเอง บางทีก็เหมือนลืมดูมันไม่จำเป็นต้องไปตะครุบทุกกลุ่มกำลังทรัพย์ก็ได้ ลดขนาดองค์กรลงหน่อยก็ดี ถ้ามันอยู่ไม่ไหวบางสาขาเล็กๆ ก็ลดจำนวนลงมาแล้ว เอาตรงนั้นที่ยุบมาลงคุณภาพอาหารหรือไลน์อาหารในบุฟเฟ่ที่ลูกค้าเรียกร้องหน่อยไหม?

คือเรื่องพวกนี้ ลุกค้าบ่นมาหลายปีแล้วนะ แต่ไม่เคยเห็นทำการตลาดที่มันตอบหรือแก้ตามปัญหาของลูกค้าจริงๆเลย เหมือนคิดเองเออเองทุกอย่างมาหลายปีแล้ว ตามกระแสนั่นนี่ไปเรื่อยๆแล้วเป็นไงบ้าง มีอะไรที่ปังบ้าง?

มีอยู่แล้วผมกินประจำด้วย สาขาศาลาแดง 470บาท มั้ง กินปลากับเนือวัวก็คุ้มแล้วของเหมือนที่ขายเลย

กลุ่มครอบครัวที่ว่ามันน้อยลงเรื่อยๆ คนสมัยนี้ไม่ได้อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่แล้ว และmkก็ไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆด้วยซํ้า ค่าเช่าเพิ่มทุกปี คู่แข่งเพิ่มทุกปี ตลาดที่ตัวเองวางเป้าไว้หดลงเรื่อยๆ มันคือรอวันตาย

ผมมองว่าmkสามารถทำทั้งบุฟเฟ่และอลาคาตได้พร้อมกัน แบรด์อื่นๆก็ทำได้ mk มีบริษัทโลจิสติกส์ของตัวเองถ้าแค่นี้ทำไม่ได้ผมว่าไม่ใช่ละ ของหมดอันนั้นข้ออ้างเฉยๆ หรืออาจจะบริหารจัดการห่วยเอง

ถ้า 500-700 ต้องมีพวกซูชิ ซาซิมิแล้ว ราคานี้ไปกินร้านที่มีอยู่แล้วร้านอื่นตอบโจทย์กว่า
ถ้า จะทำแบรนด์เพิ่มเพื่อเล่นตลาดล่าง ก็ต้องไปทำนอกห้อง ถ้าทำในห้างก็มีแต่ตายเพิ่ม เจอค่าเช่าเข้าไปไม่คุ้มหรอก
จะไปแบบบุฟเฟ่พรีเมี่ยมก็ไม่ได้(สินค้าน้อย) จะลงบุฟเฟ่ตลาดล่างก็ไม่ไหว(เพราะสถานที่)
อาจจะต้องถึงเวลายอมรับว่าเอ็มเคสุกี้ไปไกลกว่านี้ไม่ได้แล้ว
มีแต่แตกไลน์เพิ่ม ทำแบรนด์นอกห้าง หรือแบรนด์พรีเมี่ยมเพิ่มไปเลย
คนที่ไม่เคยมีคู่แข่งมานาน จู่ๆมาเจอคู่แข่งก็สะดุดแบบนี้แหละ แต่เงินเหลือๆขนาดนั้น เดินต่อได้ไม่ยากหรอก

ตัว 899 ดีเลยครับถ้าเทียบกับราคาเรทนี้ของเจ้าอื่นติดตรงสาขาน้อยไปหน่อย เวสเกตกับรังสิต คนแน่นเกือบตลอดนะสำหรับบุฟที่ทำมาก่อนอยู่แล้ว

ไม่อยู่เป็นครอบครัว แล้วเด็ก 5-6 ขวบนี่เอาไปทิ้งไว้ไหน คือต่อให้ไปฝาก
ญาติที่ ตจว เลี้ยง อค. ก็เป็นทางเลือกที่จะเป็นมื้อกึ่งพิเศษได้ง่ายด้วย
เพราะสาขาครอบคลุมกว่า

ส่วนเรื่อง บฟ + อลค. มันทำได้แค่บางสาขาครับ มันทำทุกสาขาไม่ได้
แต่ที่เลือกเสริฟ อลค ก่อน มันหลักการง่ายๆเลย คือ อลค ร้านยังไม่ได้เงินลูกค้า
แต่ บฟ ร้านได้เงินจากลูกค้าแล้ว เพราะงั้นลำดับความสำคัญมันต้องให้กับ
อลค. ก่อน ซึ่งถ้าเกิดเหตุการแบบนี้เขาเรียกว่าเติมของไม่ทันนั่นแหละ

เดี๋ยวมันก็เปลี่ยนชื่อแบรนด์อีก 5555+

โครตจริง น่าหาทีมการตลาดใหม่ทำแต่ละอย่างโครตแปลก จะลงมาเล่นตลาดนี้สู้เปิดแบรนใหม่ดีกว่า เพราะลดเกรดวัตถุดิบลง จะพาแบรนหลักเสียไปด้วย เพิ่มสาขา mk gold ให้มากขึ้น ดีกว่า ยิ่งต่างจังหวัดนี้ไม่มีเลย

ทำอยู่แล้วนิ




ผมไปกินตอนยุคก่อนทำเต็มตัว // หัวละ 440 แล้วพอมาทำเต็มตัวก็เริ่มต้น 499 แล้วก็ 6-7-8 ร้อยประมาณนี้จำตัวเลขไม่ได้