สำหรับท่านแล้ว ผู้กำกับชื่อดังของ Hollywoods เหล่านี้มีลายเซ็นอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองยังไงบ้างครับ แบบว่าถ้าดูหนังแกแล้วจะเห็นเลย


Steven Spielberg
James Cameron
Martin Scorsese
Guy Ritchie
Quentin Tarantino
Christopher Nolan
Michael Bay
James Gunn
James Wan
Sam Raimi



เอาเท่าที่นึกออกก็ได้ครับ พอดีเมื่อวานไปเสพ Inglourious Basterds ไปแล้วแบบแม่งโคตรจะเควนติน

Steven Spielberg Schindler's list
ฉายาเขาก็พ่อมดแห่งฮอลีวู่ดนะ ผมว่าคนนี้เก่ง สร้างหนังสเกลใหญ่มากๆ ให้ลงตัวดูได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ
อย่างชินเล่อลิสต์กับเซฟวิ่งไพรเวตไรอันนี่แม่งหนังสเกลใหญ่จัดทำออกมาได้โคตรกลมกล่อม

James Cameron Terminator 2
นิวเคลียร์ ระเบิด เสียงซาวด์เอฟเฟกต์ ชู่ววว นี่เอกลักษณ์เลยก่อนช่วงยุค 90 อะ มีแม่งแทบจะทุกเรื่อง
อยุ่ดีๆมาทำไททานิกเฉย

Martin Scorsese Goodfellas
เขาคือเควนตินในร่างที่เก๋ากว่า การไดอะล็อก การใส่เพลง การใส่ตัวหนังสือ เควนตินน่าจะได้แรงบันดาลใจหลายๆอย่างไปเต็มๆ ที่ขาดไม่ได้ Narrator ส่วนมากต้องมีเสียงเล่าเรื่องตลอดเรื่อง หลายๆเรื่องเลย

Guy Ritchie Lock Stock and two smokiing barrels
อันดับ 1 ในใจผม ถ้าหนังปล้นยังไงก็ต้องคนนี้ เป็นคนที่เอาพวกแก๊งเล็กๆในสลัมอังกฤษมาเล่าต่อได้ดีมาก
บทสนทนาจิกกัดกวนส้นตีน เนื้อเรื่องยุ่งเหยิงอิรุงตุงนัง ตัวละคร 10 ตัวไม่เคยเจอกัน แต่ทุกคนเกี่ยวข้อง
กันหมด ปล้นแบบไม่มีแผน มีแผนแต่ไม่ตามแผน

Quentin Tarantino Once upon a time in hollywood
เหมือนมาตินสกอเซซี่ทุกอย่างแต่เพิ่มความกวนโอ๊ยเข้าไปอีก การฆ่าเน้นสะใจ บิดเบือนปรระวัติศาสตรร์เอาสะใจ
บางคนอยุ่ๆก็ตายขึ้่นมาซะงั้น

Christopher Nolan Memento
ผมชอบโนแลนกับหนังทริลเลอร์มากกว่าหนังไซไฟทริลเลอร์แฮะ เขาเขียนบทได้ไม่เหมือนใครรดี
อย่าง Memento following prestige ผมว่าคนปกติๆคิดกันไม่ได้อะอะไรแบบนี้

Michael Bay Bad boys 2
ฉากทหารเดินสโลว์โมชั่น มีแสงอาทิตย์และธงอเมริกาอยู่ข้างหลัง คือสเน่ห์ของเขาเลยสำหรับผม
มีแม่งแทบจะทุกเรื่อง ยกให้เป็นอีกเจ้าพ่อแอคชั่นเลย

James Gunn GOTG
สุดยอดผู้กำกับสายบันเทิง ผมว่าเขาทำหนังเด็กได้ดีมาก หนังตลกไรพวกนิ

James Wan The Conjuring
อึ้งกับการนำเสนอ The conjuring 1 มาก ทำหนังผีให้ไปอีกเลเวลนึงได้
แต่ก็เหมือนหมดไอเดียนำเสนอในภาคต่อๆมา

Sam Raimi Spiderman
คือทุกเรื่องต้องเป็นหนังผีเลยว่างั้นเหอะ มืด จั๊มสแคร์เยอะๆ ซูมแบบหมุนกล้อง บิดเบี้ยวภาพ
สไปเดอร์แมน ด๊อกเตอร์สเตรจ์ ยังมีกลิ่นอายหนังผีติดมาเยอะเลย

David Fincher Mindhunter
นุ่มลึก สุขุม ทั้งการาเขียนบท และบรรยากาศ ในการทำหนัง มืดแม่งทุกเรื่อง
ชอบดึงผู้ชมเข้าไปอยุ่ในหนังด้วย

Steven Soderbergh Ocean
ยกให้เป็นอีกหนึ่งราชาหนังปล้นเลย สไตล์ชัดเจนมาก ทรานซิชั่นซ้ายทีขวาที

Denis Villeneuve Sicario
ให้คนนี้เป็นด้านสว่างของ Fincher หนังสว่างกว่า แต่บทนุ่ม แทง บาด ลึก พอๆกันเลย
หนังจะค่อยๆทยานความระทึกขึ้นทีละนิด ทีละนิด ดึงคนเข้าไปอยุ่ในหนังได้เก่ง

Stanley Kubric Eyes Wide Shut
ผมว่าเขาคือเจ้าพ่อหนังมิศวงเลย ทุกเรื่องจะให้มวลแปลกๆ ดูจบจะอึนๆ งงๆ แต่จะรุ้สึกอึดอัดบอกไม่ถูก

zack snyder 300
พี่ชายจะ Director's cut ทุกอย่างไม่ได้นะครับ สโลว์จนผมปวดตา 55+
เป็นคนที่ใช้ Visual effects ได้คุ้มสัสๆ

เทคโนโลยี
เทคโนโลยี
พูด
แอคอาร์ต
มีสไตล์
ล้ำ
ระเบิด
ตลกร้าย
ผี สยอง
ผี สยองคัลท์

Michael Bay >> ต้องมีแสงแฟลร์ในเรื่อง ชอบถ่ายย้อนแสงไม่ว่าเรื่องไหน อย่าง transformer กับ 13 hours นี่ชัดสุด

James Gunn >> ตัวหนังสือหรือสัญลักษณ์ต้องมีขอบนูน เวลาจะสู้หรืออะไรต้องมีสโลโมชั่นก่อนเสมอ

ผมชอบ David Fincher

ขออนุญาตนอกเรื่องและแนะนำช่องหนังติดมันครับ ผมว่าย่อยความรู้หนังได้ดีเลย

เควนตินคือบทที่มีแต่บทพูดแต่ไม่น่าเบื่อเลยและจุด plot twist

.

Spielberg เป็นคนที่ทำหนังหลากหลายที่สุดแล้ว มีตั้งแต่หนังสงคราม ไดโนเสาร์ อนิเมชั่น ยันหนังรัก แล้วดีหมด เทพจัด

Guy Ritchie แกเด่นพวก หนังตลกร้าย เรื่องราววุ่นวายของแก๊งค์ๆ Snatch ,The Gentlemen ลายเซ็นต์แกเลย

Steven Spielberg Schindler's list
ฉายาเขาก็พ่อมดแห่งฮอลีวู่ดนะ ผมว่าคนนี้เก่ง สร้างหนังสเกลใหญ่มากๆ ให้ลงตัวดูได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ
อย่างชินเล่อลิสต์กับเซฟวิ่งไพรเวตไรอันนี่แม่งหนังสเกลใหญ่จัดทำออกมาได้โคตรกลมกล่อม

James Cameron Terminator 2
นิวเคลียร์ ระเบิด เสียงซาวด์เอฟเฟกต์ ชู่ววว นี่เอกลักษณ์เลยก่อนช่วงยุค 90 อะ มีแม่งแทบจะทุกเรื่อง
อยุ่ดีๆมาทำไททานิกเฉย

Martin Scorsese Goodfellas
เขาคือเควนตินในร่างที่เก๋ากว่า การไดอะล็อก การใส่เพลง การใส่ตัวหนังสือ เควนตินน่าจะได้แรงบันดาลใจหลายๆอย่างไปเต็มๆ ที่ขาดไม่ได้ Narrator ส่วนมากต้องมีเสียงเล่าเรื่องตลอดเรื่อง หลายๆเรื่องเลย

Guy Ritchie Lock Stock and two smokiing barrels
อันดับ 1 ในใจผม ถ้าหนังปล้นยังไงก็ต้องคนนี้ เป็นคนที่เอาพวกแก๊งเล็กๆในสลัมอังกฤษมาเล่าต่อได้ดีมาก
บทสนทนาจิกกัดกวนส้นตีน เนื้อเรื่องยุ่งเหยิงอิรุงตุงนัง ตัวละคร 10 ตัวไม่เคยเจอกัน แต่ทุกคนเกี่ยวข้อง
กันหมด ปล้นแบบไม่มีแผน มีแผนแต่ไม่ตามแผน

Quentin Tarantino Once upon a time in hollywood
เหมือนมาตินสกอเซซี่ทุกอย่างแต่เพิ่มความกวนโอ๊ยเข้าไปอีก การฆ่าเน้นสะใจ บิดเบือนปรระวัติศาสตรร์เอาสะใจ
บางคนอยุ่ๆก็ตายขึ้่นมาซะงั้น

Christopher Nolan Memento
ผมชอบโนแลนกับหนังทริลเลอร์มากกว่าหนังไซไฟทริลเลอร์แฮะ เขาเขียนบทได้ไม่เหมือนใครรดี
อย่าง Memento following prestige ผมว่าคนปกติๆคิดกันไม่ได้อะอะไรแบบนี้

Michael Bay Bad boys 2
ฉากทหารเดินสโลว์โมชั่น มีแสงอาทิตย์และธงอเมริกาอยู่ข้างหลัง คือสเน่ห์ของเขาเลยสำหรับผม
มีแม่งแทบจะทุกเรื่อง ยกให้เป็นอีกเจ้าพ่อแอคชั่นเลย

James Gunn GOTG
สุดยอดผู้กำกับสายบันเทิง ผมว่าเขาทำหนังเด็กได้ดีมาก หนังตลกไรพวกนิ

James Wan The Conjuring
อึ้งกับการนำเสนอ The conjuring 1 มาก ทำหนังผีให้ไปอีกเลเวลนึงได้
แต่ก็เหมือนหมดไอเดียนำเสนอในภาคต่อๆมา

Sam Raimi Spiderman
คือทุกเรื่องต้องเป็นหนังผีเลยว่างั้นเหอะ มืด จั๊มสแคร์เยอะๆ ซูมแบบหมุนกล้อง บิดเบี้ยวภาพ
สไปเดอร์แมน ด๊อกเตอร์สเตรจ์ ยังมีกลิ่นอายหนังผีติดมาเยอะเลย

David Fincher Mindhunter
นุ่มลึก สุขุม ทั้งการาเขียนบท และบรรยากาศ ในการทำหนัง มืดแม่งทุกเรื่อง
ชอบดึงผู้ชมเข้าไปอยุ่ในหนังด้วย

Steven Soderbergh Ocean
ยกให้เป็นอีกหนึ่งราชาหนังปล้นเลย สไตล์ชัดเจนมาก ทรานซิชั่นซ้ายทีขวาที

Denis Villeneuve Sicario
ให้คนนี้เป็นด้านสว่างของ Fincher หนังสว่างกว่า แต่บทนุ่ม แทง บาด ลึก พอๆกันเลย
หนังจะค่อยๆทยานความระทึกขึ้นทีละนิด ทีละนิด ดึงคนเข้าไปอยุ่ในหนังได้เก่ง

Stanley Kubric Eyes Wide Shut
ผมว่าเขาคือเจ้าพ่อหนังมิศวงเลย ทุกเรื่องจะให้มวลแปลกๆ ดูจบจะอึนๆ งงๆ แต่จะรุ้สึกอึดอัดบอกไม่ถูก

zack snyder 300
พี่ชายจะ Director's cut ทุกอย่างไม่ได้นะครับ สโลว์จนผมปวดตา 55+
เป็นคนที่ใช้ Visual effects ได้คุ้มสัสๆ

ให้ zach อีกคน สโลเยอะมากฉากสู้ โดยเฉพาะ justice league ฉบับ uncut

ขอแถม wes anderson ครับท่าน เป็นอีกคนที่ลายเซนต์ชัดมาก

สปีลเบิร์ก-แสงสปอร์ตไลท์ หุ่นยนต์ เด็ก อะไรที่รียูเนี่ยนให้ทัสใจคน
คาเมรอน-เทคโนโลยีจัดๆลํ้าๆ กับมุมกล้องแบบหนังฟิล์ม แกจะมีมุมที่แกชอบอะ
ปู่มาร์ติน-ที่มั่นใจได้คือบท แกจะต้องเขียน และเล่าเอง
กาย ริชซี่-ความสับกล้องแบบมันส์ๆ ไม่ว่าหนังจะเล่ายังไง แต่การตัดต่อสับกล้องนี่มันส์ตลอด
เควนติน-บทหนังที่คาดเดาไม่ได้ กับบทพูดกวนตีนๆ ใครไม่ชอบก็จะดูผ่านๆ แต่คนชอบจะฟังบทพูดตลอด และเอ็นจอยกับมัน
โนแลน-วิทยาศาสตร์ ความลํ้าหน้า อ้างอิงความจริง และทำให้มันดูสมจริงมากที่สุด
เบย์-ระเบิด มันส์ กระชากคนดู และต้องมีมุมกล้องเอียงๆเสริมความมันส์
กันส์-ความทัสใจ ตลกร้าย เล่นกับอารมณ์ของคนดู กันส์จะจัดวาง mood ของคนดูได้ดี+โปรดักชั่นงานดี
เจมส์ วาน-หนังผีหนังสยองเท่านั้น
แซม ไรมี่-ความเป็นออริจินัลที่ผสมความสยองลงไป จะต้องมีเลือดหน่อย และฉากที่ให้เห็นความกลัว ความสยองในแบบเขา

Steven Spielberg = ใช้เทคโนโลยีเก่งอย่างกับร่ายเวทมนต์ ฉายาพ่อมด

James Cameron = เก่งเทคนิคพิเศษ สตูดิโอไว้ใจงบเยอะ รายได้ดี

Martin Scorsese = เจ้าพ่อหนังมาเฟียหรือแก็งเตอร์

Guy Ritchie = งานตัดต่อมีเอกลักษณ์ กวนๆสไตล์อังกฤษ

Quentin Tarantino = บทคำพูดที่เชือดเฉือน สร้างคาแลคเตอร์นักแสดงน่าจดจำ

Christopher Nolan = เทพๆๆๆๆ

Michael Bay = เจ้าพ่อหนังระเบิดภูเขา เผากระท่อม สโลว์โมชั่นทั้งเรื่อง แสงแฟลชแย้งตา ถ่ายภาพกล้องสั่นเวียนหัว ดูหนังแกต้องพกยาดมไปด้วย

James Gunn = หนังฮีโร่ที่มีมุกตลก งานภาพสดใส

James Wan = ผู้ปลุกกระแสหนังผี ฉากจั๊มสะแกไม่เหมือนใคร

Sam Raimi = น่าจะเปรียบเสมือนอาจารน์เจม วาน กำกับหนังผีแล้วมาทำหนังซุปเปอร์ฮีโร่ แกเก่งเรื่องแสดงหนังด้วย

พอล กรีนกลาส

ถ้าเรื่องแฟลร์ ผมว่า JJ Abrams คือโคตรพ่อโคตรแม่แห่งแฟลร์
ทำกี่เรื่องแม่มก็แฟลร์ทุกเรื่องจนแบบ ต้องใช้เยอะขนาดนี้เลย ?