ทำไมการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานจึงสำคัญ
การตรวจหาโรคทางพันธุกรรมและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานช่วยในการตรวจหาโรคทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น HIV, ซิฟิลิส, หนองใน ฯลฯ การตรวจพบโรคเหล่านี้ก่อนการแต่งงานช่วยให้คู่รักสามารถวางแผนการรักษาหรือการป้องกันได้

การเตรียมความพร้อมสำหรับการมีบุตร การตรวจสุขภาพช่วยให้คู่รักสามารถทราบสถานะสุขภาพเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ของตนเอง เช่น ความสามารถในการเจริญพันธุ์ของทั้งสองฝ่าย การทราบข้อมูลเหล่านี้ช่วยในการวางแผนการมีบุตรและการดูแลสุขภาพของแม่และเด็กในอนาคต

การสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจระหว่างคู่สมรส การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานเป็นการแสดงความใส่ใจและความรับผิดชอบต่อสุขภาพของคู่สมรส การเปิดเผยสถานะสุขภาพของตนเองช่วยสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

การวางแผนชีวิตคู่ที่มั่นคง การทราบสถานะสุขภาพของทั้งคู่ช่วยในการวางแผนชีวิตคู่ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนด้านการเงิน การทำประกันสุขภาพ หรือการวางแผนการรักษาในอนาคต การมีข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คู่รักสามารถวางแผนชีวิตคู่ได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพ

การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน ช่วยให้คู่รักสามารถทราบสถานะสุขภาพของตนเองและคู่สมรสได้ และเป็นการป้องกันปัญหาสุขภาพในอนาคต การตรวจสุขภาพนี้ไม่เพียงแค่เพื่อความสบายใจ แต่ยังเป็นการแสดงความใส่ใจและความรับผิดชอบต่อคู่สมรสและครอบครัวที่จะสร้างร่วมกัน หากละเลยการตรวจสุขภาพก่อนแต่งอาจจะนำมาซึ่งโรคติดต่อได้


โรคที่สามารถแพร่ไปสู่คู่รัก
โรคเอดส์ ที่เกิดจากการติดเชื้อ HIV ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีการติดเชื้อ จะได้ป้องกันการติดต่อ หรือรีบรักษาเพื่อลดอัตราการเกิดอาการแทรกซ้อน

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส (Syphilis) ไวรัสตับอักเสบ บี การติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ผ่านการมีเพศสัมพันธ์

หนองในเทียม (Chlamydia) การติดเชื้อแบคทีเรีย Chlamydia trachomatis

HPV (Human Papillomavirus) การติดเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก


โรคที่สามารถแพร่ไปสู่ลูก
โรคเอดส์ ที่เกิดจากการติดเชื้อ HIV หากพบว่ามีการติดเชื้อ จะได้ป้องกันการติดต่อ หรือรีบรักษาเพื่อลดอัตราการเกิดอาการแทรกซ้อน

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส (Syphilis) ไวรัสตับอักเสบ บี อาจแพร่เชื้อสู่ลูกน้อยในครรภ์ จะได้ปรับพฤติกรรมเตรียมความพร้อม หรือรับวัคซีนป้องกัน

โรคโลหิตจาง หรือธาลัสซีเมีย เพื่อวางแผนสำหรับการมีบุตรในเวลาที่เหมาะสม

หัดเยอรมัน ลูกน้อยสามารถติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ และมีโอกาสสูงมากที่จะคลอดออกมาพร้อมความผิดปกติ สามารถป้องกันได้ด้วยการรับวัคซีน เพื่อการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยทั้งกับคุณแม่และลูกน้อยลูกน้อย

เครดิต: โรงพยาบาล BNH