-ลงทุนผ่าน DR
ข้อดีคือ กำไรส่วนต่างราคาไม่เสียภาษี
ปันผล หักภาษี ณ ที่จ่าย 10% (ไม่รวมต่อแรกจากอเมริกา 15% เท่าที่เข้าใจนะ โดน 2 เด้ง)

-ซื้อหุ้นอเมริกาโดยตรง ในบัญชีลงทุนต่างประเทศ
กำไรตอนนำกลับเข้าประเทศต้องยื่นภาษีเงินได้ ของปีนั้นๆ โคตรเซ็ง ภาษีอย่างโหด
ปันผล อเมริกาหัก ณ ที่จ่าย 15% แต่ที่ไทยยื่นเครดิตภาษีได้ ไม่เสีย 2 เด้ง

พอดีผมสนใจ QQQM19 อยู่ ซึ่งเป็น DR ของ บล.หยวนต้า เทรดได้ในกระดานหุ้นไทย โดนค่าธรรมเนียมรายปี (TER) แค่กองแม่ ไม่เหมือนกองทุนรวมที่โดน 2 เด้ง

มีใครเคยถือหุ้นนอกผ่าน DR แชร์กันหน่อยครับ

ผมอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจเลยไม่ซื้อ
ผมไม่รู้ว่าเค้าเก็บค่าธรรมเนียมยังไง เก็บแต่ค่าเทรด?
บางเจ้าเก็บจากปันผล เช่น dr จาก ktb

ส่วนวิธีการเอา"กำไร"กลับไทยแบบถูกกฏหมายและไม่เสียภาษีมีเยอะมาก
แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่ ลองศึกษาดูดีๆ เช่น เอากลับปีที่รายได้น้อย, ใช้ options/inverse etf ช่วย

ผมเต็มปลอก กองจีน หุ้นเมกา เดวนี้เมกาดีอย่าง เทรดกลางคืนได้ ไม่หลับไม่นอนกันแล้ว แทงเสียๆ

ผมซื้อ DRx ก่อนมันเปลี่ยนมาเป็น DR

ซื้อพวก 7 นางฟ้ากับหุ้นดังๆที่พอรู้จัก ตั้งแต่ก่อนทรัมป์ประกาศ Tariff

ตอนนี้ก็มีตัวบวกเยอะอยู่ MA MSFT NFLX NVDA TSLA แต่ตัวลบก็มี AAPL AMZN BRKB GOOG

DR มันยังมีไม่ครบเท่าไหร่ มีแต่หุ้นใหญ่ๆ ถ้ามีซื้อผ่าน DR เหมือนจะดีกว่า แต่มันต้องแยกพอร์ตกับ Dime เลย ปวดหัวพอสมควร

ผมเคยซื้อขาย
Bydcom80
Pingan80
Lvmh01
Fuevfvnd01
E1vfvn3001
Thaibev19

เวลาหุ้นไทยแย่ๆ ผมก็หาพวกDRเล่นแทนครับ

แนะนำหน่อยครับท่าน พอดีผมอยาก DCA ยาวๆ ยันเกษียณครับ

กลัวว่าจะเอาเงินกลับไทยลำบาก เสียภาษี Max ที่ฐาน 35%

ส่วนใหญ่เค้าวางแผนกันประมาณนี้
1. ยกกลับเฉพาะเงินต้น เช่น เอาออก 1 ล้านบาท ก็เอาเข้าแค่ 1 ล้านบาท ฉะนั้น จดให้ดีว่าทุนจริงๆ คือกี่"บาท"

2. ใช้ inverse etf ช่วย เช่น ซื้อ $PSQ คู่กับ QQQM19 เวลา PSQ ลง 10% เรา QQM19 เราจะขึ้น 10%
แบบนี้ที่ต้องเสียจะเป็น spread and brokerage fee 2 ข้าง ประมาณ 0.5-1%
ข้อจำกัดคือ จะเอากลับไม่ได้ทั้งจำนวน, ถ้าหุ้นลงพอร์ตต่างประเทศจะโตขึ้นอีก และ liquidity limitation ตาม volume ของ DR เป็นคอขวด

3. ยกออกตอนปีนั้นไม่มีรายได้ (เกษียณแล้ว) ปีละ
310,000 จะไม่เสียภาษี
360,000 จะเสียปีละ 0.7%
410,000 จะเสียปีละ 1.2%
460,000 จะเสียปีละ 1.6%
510,000 จะเสียปีละ 2.5%

150,000 แรกไม่เสีย บวกหักค่าใช้จ่าย 100,000 บาท และค่าลดหย่อนส่วนบุคคล 60,000 บาท

4. ถ้าเงินเยอะมาก จะมีตัวเลือกหลากหลาย เช่น

- โอนเงินเข้าบัญชี บินไปเปิดบัตรเครดิต แล้วใช้บัตรเครดิตนั้นใช้จ่ายเลย
ลองไปศึกษาดูว่าประเทศไหนบ้าง รับ non-PR เปิดบัญชี แล้วขั้นต่ำเท่าไหร่ ใช้อะไรบ้างเปิดบัญชี
- โอนเงินเข้าแบงค์ในสิงคโปร์แล้วบินไปถอนเงินสด
- ใช้ประกันชีวิตช่วย เงินได้ปลอดภาษีหลังเกษียณ
- บินไปอยู่ประเทศอื่น 7 เดือน กำไรที่จะเอากลับประมาณ 10-20 ล้านก็คุ้มแล้ว (แล้วแต่ประเทศที่แพลนจะไปอยู่)

หลายวิธีก็มีข้อจำกัดแต่ละอย่างกันไป ลองศึกษาดูเล่นๆ ไปก่อนก็ได้
อีก 20-30 ปี กฎอาจะเปลี่ยนไปเยอะจนไม่ต้องใช้แล้วก็ได้ครับ อย่าไปกังวลมาก

ข้อสำคัญคือ ระยะยาวๆ แล้วเงินต้นเราไม่โดนกินจาก fee on capital
อีกทั้งเรายัง"เลือก" ค่าเงินตอนโยกเงินกลับได้อีก เป็นตัวคูณนิดๆ สำหรับคนลงทุนระยะยาวๆ

ปล. ไทยกับอเมริกามีอนุสัญญาภาษีซ้อน ตาม https://www.rd.go.th/2664.html
ฉะนั้นเราสามารถขอใบรับรองว่าเงินปันผลก้อนนั้นถูกหักภาษี 15% ไปแล้ว แล้วนำเงินนั้นกลับเข้าไทย (คือต้องแลก usd เป็น thb จำนวน"เท่ากับ"ปันผลก้อนนั้น) แล้วนำไปยื่นภาษีอีกรอบเพื่อนำมาคำนวนเครดิตปันผลได้ (ในกรณีเงินได้เสียภาษีไม่ถึงขั้น 15%)
ฉะนั้นได้ปันผลมา "จด" usd ให้ดีๆ ว่าก้อนไหนเสียภาษีไปแล้ว ก้อนไหนยังไม่เสีย เพราะมันจะปนกันมั่วไปหมดครับ