[RE: ผมรู้สึกอดสูกับบ้านเมืองมาก โดนรุกล้ำ200 เมตร]
Pepsi Man พิมพ์ว่า:
Tony Woodsome พิมพ์ว่า:
Pepsi Man พิมพ์ว่า:
Tony Woodsome พิมพ์ว่า:
Pepsi Man พิมพ์ว่า:
Tony Woodsome พิมพ์ว่า:
มู้ล่างๆ เขาก็บอกว่าส่งกำลังไปตรึงละนี่
ประเด็นคือปล่อยให้รุกมาขนาดนี้ได้ยังไงก่อน แล้วการแอ็คชั่นกว่าจะเดิน กว่าจะสั่ง
หัวๆ ก็ไม่ออกคำสั่งอะไรสักอย่าง ความรู้สึก็ตามหัวกระทู้นั้นละ
ประเทศไหนในโลกนี้เขายอมให้ชาติอื่นรุกเข้ามาได้ขนาดนี้บ้าง ผมโครตอยากรู้เลย
คือตอนนี้เรายังไม่แอ็คชั่นอะไรจริงๆเหรอวะเพื่อนๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
รออะไรอยู่
ก็คุณถามแบบนี้ ก็ตอบตามที่ถาม ว่าส่งคนไปแล้ว
ความหมายคือ ถ้าลองทหารไทยล้ำเข้าแดนเขาบ้าง 200 เมตร ผมว่าเขาไม่มารอคำสั่งตรึงกำลังอะไรพวกนี้หรอก
แต่ก็นั้นละ แล้ว รมว ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้ล้ำอีก ล่าสุดยอมรับว่าล้ำ แต่พื้นที่ไม่มีคน ถือว่าไม่บุกไทยอะไรนั้นอีก ตามข่าวที่ตีออกมา อ่านละปวดกะโหลกชิหัย
แล้วคุณอยากให้มันเป็นแบบไหนครับ สมมติคุณมีอำนาจสั่งการ
ก็ตามหลักสากลชาวโลกเขาทำกันมั้ง
เตือน ถ้าไม่ออกก็ต้องเข้าปะทะ จนเขาต้องถอยไป
คุณอาจจะแย้งผมก็ได้นะว่ามันจะมีปัญหาบลาๆ แต่ทั้งโลกเขาก็ต้องทำแบบนี้หมดไหม
นี้ถ้าจะล้ำเข้ามาอีกซัก 10 กิโล ได้ไหมถ้างั้น
Spoil
การรุกล้ำแดนของประเทศเพื่อนบ้าน ถึงแม้จะเพียง 200 เมตร ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและอาจนำไปสู่ความตึงเครียดระหว่างประเทศได้ วิธีที่ประเทศต่าง ๆ ปฏิบัติการเมื่อเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นอยู่กับบริบท เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ความรุนแรงของการรุกล้ำ ความตั้งใจ (เจตนาหรืออุบัติเหตุ) และสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง โดยทั่วไป การตอบสนองอาจแบ่งได้เป็นขั้นตอนดังนี้:
การตรวจสอบและยืนยัน:
ประเทศที่ถูกรุกล้ำมักจะเริ่มด้วยการตรวจสอบข้อเท็จจริงผ่านหน่วยงานด้านความมั่นคง เช่น กองทัพหรือหน่วยลาดตระเวนชายแดน เพื่อยืนยันว่ามีการรุกล้ำจริง และอาจใช้ภาพถ่ายดาวเทียมหรือโดรนเพื่อเก็บหลักฐาน
การสื่อสารทางการทูต:
ประท้วงอย่างเป็นทางการ: ประเทศที่ถูกรุกล้ำจะส่งจดหมายประท้วงไปยังรัฐบาลของประเทศที่รุกล้ำผ่านกระทรวงการต่างประเทศ หรือเรียกตัวแทนทางการทูตของประเทศนั้นมาชี้แจง
เจรจา: หากเป็นการรุกล้ำโดยไม่เจตนา (เช่น ทหารหลงทาง) มักจะมีการเจรจาเพื่อถอนกำลังและแก้ไขสถานการณ์อย่างสันติ
การแจ้งเตือน: หากการรุกล้ำเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีข้อพิพาท อาจมีการแจ้งเตือนให้ถอนกำลังภายในระยะเวลาที่กำหนด
การตอบสนองทางทหาร (ถ้าจำเป็น):
การเพิ่มกำลังป้องกัน: ประเทศอาจส่งกองกำลังไปยังพื้นที่เพื่อปกป้องอธิปไตยและป้องกันการรุกล้ำเพิ่มเติม
การเผชิญหน้าโดยตรง: ในบางกรณี อาจมีการเผชิญหน้ากับกองกำลังที่รุกล้ำเพื่อผลักดันให้ถอนตัว แต่จะพยายามหลีกเลี่ยงการใช้กำลังถึงขั้นรุนแรง
การยิงเตือน: หากการรุกล้ำยังดำเนินต่อไป อาจมีการยิงเตือน (เช่น ยิงขึ้นฟ้า) เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการปกป้องดินแดน
การยกระดับสู่เวทีระหว่างประเทศ:
หากการเจรจาล้มเหลว ประเทศอาจนำเรื่องนี้ขึ้นสู่เวทีระหว่างประเทศ เช่น องค์การสหประชาชาติ (UN) หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบหรือตัดสิน
อาจขอให้ชาติพันธมิตรหรือองค์กรภูมิภาค (เช่น ASEAN ในกรณีเอเชีย) เข้ามาไกล่เกลี่ย
บริบทเฉพาะ:
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ: ถ้าสองประเทศเป็นพันธมิตรหรือมีความสัมพันธ์ที่ดี ปัญหานี้อาจได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วผ่านการเจรจา
พื้นที่พิพาท: หากการรุกล้ำเกิดในพื้นที่ที่มีข้อพิพาทด้านพรมแดน การตอบสนองอาจเข้มข้นขึ้น เช่น การระดมกำลังทหารหรือการยื่นข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการ
ขนาดของการรุกล้ำ: การรุกล้ำ 200 เมตรอาจดูเล็กน้อย แต่ถ้ามีเจตนาทางยุทธศาสตร์ (เช่น การตั้งด่านหรือยึดพื้นที่) อาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น
ตัวอย่างจากทั่วโลก:
อินเดีย-จีน (ข้อพิพาทชายแดน): ในพื้นที่ลาดักข์ อินเดียและจีนเคยเผชิญหน้ากันจากการรุกล้ำชายแดนในพื้นที่พิพาท โดยทั้งสองฝ่ายมักส่งกองกำลังไปยังจุดที่เกิดเหตุและเจรจาผ่านช่องทางทูตและทหาร
เกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้: การรุกล้ำเขตปลอดทหาร (DMZ) มักนำไปสู่การตอบโต้ทันที เช่น การยิงเตือนหรือการประท้วงอย่างรุนแรง เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างสองชาติ
ไทย-กัมพูชา (กรณีปราสาทพระวิหาร): ในอดีต การรุกล้ำในพื้นที่พิพาทนำไปสู่การปะทะเล็ก ๆ และการนำเรื่องขึ้นสู่ศาลโลกเพื่อตัดสิน
สรุป: การตอบสนองต่อการรุกล้ำแดน 200 เมตรขึ้นอยู่กับบริบทและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยทั่วไปจะเริ่มจากการตรวจสอบและเจรจาทางการทูตเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง แต่หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น อาจมีการใช้กำลังทหารหรือยกระดับสู่เวทีระหว่างประเทศ การรักษาความสงบและการสื่อสารที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความขัดแย้งที่บานปลาย
ผมอ่านจากสิ่งที่คุณอ้างอิงมา
การสื่อสารทางการทูต:
ประท้วงอย่างเป็นทางการ: ประเทศที่ถูกรุกล้ำจะส่งจดหมายประท้วงไปยังรัฐบาลของประเทศที่รุกล้ำผ่านกระทรวงการต่างประเทศ หรือเรียกตัวแทนทางการทูตของประเทศนั้นมาชี้แจง
เจรจา: หากเป็นการรุกล้ำโดยไม่เจตนา (เช่น ทหารหลงทาง) มักจะมีการเจรจาเพื่อถอนกำลังและแก้ไขสถานการณ์อย่างสันติ
การแจ้งเตือน: หากการรุกล้ำเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีข้อพิพาท อาจมีการแจ้งเตือนให้ถอนกำลังภายในระยะเวลาที่กำหนด
การตอบสนองทางทหาร (ถ้าจำเป็น):
การเพิ่มกำลังป้องกัน: ประเทศอาจส่งกองกำลังไปยังพื้นที่เพื่อปกป้องอธิปไตยและป้องกันการรุกล้ำเพิ่มเติม
การเผชิญหน้าโดยตรง: ในบางกรณี อาจมีการเผชิญหน้ากับกองกำลังที่รุกล้ำเพื่อผลักดันให้ถอนตัว แต่จะพยายามหลีกเลี่ยงการใช้กำลังถึงขั้นรุนแรง
การยิงเตือน: หากการรุกล้ำยังดำเนินต่อไป อาจมีการยิงเตือน (เช่น ยิงขึ้นฟ้า) เพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการปกป้องดินแดน
การยกระดับสู่เวทีระหว่างประเทศ:
หากการเจรจาล้มเหลว ประเทศอาจนำเรื่องนี้ขึ้นสู่เวทีระหว่างประเทศ เช่น องค์การสหประชาชาติ (UN) หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบหรือตัดสิน
อาจขอให้ชาติพันธมิตรหรือองค์กรภูมิภาค (เช่น ASEAN ในกรณีเอเชีย) เข้ามาไกล่เกลี่ย
คุณอยากให้เราแอ็คชั่นข้อไหนเป็นพิเศษ