โรงเรียนอินเตอร์ “ฟีเวอร์” โตสวนเศรษฐกิจ | เศรษฐกิจInsight 5 มิ.ย. 68

#เศรษฐกิจInsight #TNN16 #โรงเรียนนานาชาติ
จับตาโรงเรียนนานาชาติ "ฟีเวอร์" กลุ่มผู้ปกครองรายได้สูงพร้อมจ่าย เพื่อลงทุนด้านการศึกษาให้ลูกหลาน ค่าเทอมแพงสุด 1.1 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจการศึกษาในไทยคึกคักมีกว่า 7,500 ราย ทุนจดทะเบียนรวมกว่า 50,000 ล้านบาท และมีกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงเรียนอินเตอร์มีรายได้กว่า 7,000 ล้านบาท และโตถึงร้อยละ 28 สวนกระแสเศรษฐกิจ

โตจริง แต่ไม่ใช่คนไทยอ่ะสิ แถวที่ผมอยู่อินเดียเพียบ

ไม่แปลกที่จะฟีเวอร์ ดูสภาพสังคมตอนนี้ดิ เลือกซื้อสังคมดีๆให้ลูกตัวเองไว้ก่อน

คนรอบตัวผมที่มีลูกตอนนี้ พอถึงวัยที่เข้ารร.แล้ว มีแต่นานาชาติ อินเตอร์กันทั้งนั้น ทั้งๆที่ทั้งพ่อแม่จบรร.เอกชนดีๆมากันทั้งนั้น ทุกคนยอมกัดฟันส่งเรียนแพงๆ เหมือนซื้อสังคมให้เด็กกันแล้ว

เอาจริงๆ ถ้าการศึกษาไทยดี สังคมในรร.ดี รร.อินเตอร์ก็อาจจะไม่ฟีเวอร์กันขนาดนี้ก็ได้ เพราะหันมาดูการศึกษาไทยทุกวันนี้ดิ ไหนจะครูอีก จะมีซักกี่คนที่มีใจอยากเป็นครู พร้อมที่จะเป็นครูจริงๆอะ

แล้วกลายเป็น เด็กสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องไปเมืองนอก (ซึ่งแพงกว่าเรียนอยู่เมืองไทยแน่ๆ) อยู่เมืองไทยก้อพูดอังกฤษได้ แถมดีด้วย ไม่ใช่แค่พูดได้หรือได้พูด มันก้อมีทั้งดีและไม่ดีนะ พ่อแม่ต้องไปชั่ง นน กันเอาเอง ว่าจะส่งภาคปกติ หรือ อินเตอร์ ดี

แต่สุดท้ายยังไงเมืองไทยเด็กทุกคนก้อยังเรียนหนักอยู่ดีเมื่อเทียบกะเด็กที่เรียน ตปท

ก็ดูหลักสูตรไทนดิ โคตร old school
บ้านอื่นเค้าสอน AI เด็กแล้ว
บ้านเรายังสอนให้รักแค่3อย่างอยู่เลย

ผมก็ส่งลูกเรียนอินเตอร์ระดับกลางครับ ตอนนี้ค่าเทอมขึ้นทุกปี ปีละ 5% เป็น industry norm
บางโรงเรียนไปถึง 10%+ โรงเรียนที่อยู่ในตลาดหุ้นที่ผมดูราคาเมื่อสองสามปีก่อนที่ 500000 กลายเป็น 700000+
ใครคิดจะส่งลูกเรียนอินเตอร์ต้องคำนวณค่าเทอมไว้ +5% ไว้ทุกปีแล้วดูว่าจ่ายไหวไหม เพราะมันไม่ได้แค่ค่าเทอมที่ขึ้นรายปี แต่พอขึ้นเป็น middle school secondary school มีราคาขึ้นตามขั้นไปอีก

เป็นกระแสครับ เดี๋ยวก็เปลี่ยนไป

เรื่องนี้ผมเคยคุยกับแฟนเหมือนกันนะ ว่าสรุปแล้วตอนนี้เราควรส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติไหม เหตุผลจริงๆแล้วมันคือยังไงนอกจากว่าได้ภาษาแน่ๆ แต่สังคมดีจริงไหม

นึกตัวอย่างว่าตอนที่เราเรียนโรงเรียนเอกชนดีๆสมัยก่อนแบบคน Gen Y ธรรมดา เรารู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เราเติบโตมาได้ทุกวันนี้จนมาถึงวัยกลางคนคือการเห็นเพื่อนๆ ยาก ดี มี จน ในแต่ละระดับที่เราสามารถ blend เข้ากับเพื่อนๆทุกคนได้จริงๆ ซึ่งเด็กๆตอนยุคนั้นมันก็จะมีวิธีสร้างความแตกต่างกันเองได้เองเช่น บางคนอยากให้ตัวเองเด่นขึ้นด้วยกีฬา ดนตรี หรือถ้าเด็กนิสัยไม่ดีซึ่งมันก็คงมีทุกสังคม มันก็จะไป way ชกต่อย หาเรื่องเพื่อน บลาๆๆ ซึ่งอินเตอร์มันก็มีแหละ

ทีนี้พอมาพูดถึงเรื่องค่าเทอม ถ้าอ้างอิงโรงเรียนอินเตอร์ที่ฮิตๆตอนนี้มันก็คงเป็นพวก 3 ภาษา ไทย จีน อังกฤษ เอาจริงๆไทยนี่ตัดไปก่อนก็ได้ เพราะว่าภาษาไทยนี่เข้าโรงเรียนหลานบอกเค้าไม่ได้คุยกันเลย กลายเป็นต้องมาจ่ายเงินเรียนภาษาไทยเป็นวิชาเสริมตอนเลิกเรียนถ้าใครต้องการด้วยซ้ำ
ค่าเทอมพวก ไทย-สิงคโปร์อยู่ประมาณปีละ 300,000 แล้วมันก็จะขึ้นทุกปี ปีละ 5% พอเข้าชั้นโตหน่อย อันนี้เริ่มมีค่าแลป ค่าทัศนศึกษา ซึ่งก็จะบานไปอีก

เอาจริงๆอย่างที่บอกมัคงต้องประเมิณตัวว่าไหวไหม ก้อนเค้กนึงที่เป็นรายรับเข้ามา เราควรตัดเป็นค่าเทอมลูกกี่เปอร์เซนต์ ผมคิดว่ายังไงก็ไม่ควร 20% ส่วนที่เหลือเอาไปเป็นการศึกษานอกโรงเรียนไป พาลูกไปเที่ยวต่างประเทศ พาลูกเรียนพิเศษ เรียนกีฬา

ผมอาจจะคิดผิดนะ คนส่วนใหญ่ที่ส่งเค้าอาจจะเหลือ แต่ในฐานะที่ทำธุรกิจของตัวเองค่อนข้างรู้เลยว่าเศรษฐกิจมันไม่ได้ดีมาก มันสวนทางกับค่าใช้จ่ายเกินไปถ้าต้องกัดฟัน ส่งลูกเรียนแพงๆ แพงกว่าที่เราเคยเรียนมาและเติบโตมาทุกวันนี้ได้ถึง 10 กว่าเท่า ซึ่งผมก็ไม่ค่อยเข้าใจว่ากันฟันทำไม

อีกอย่างผมคิดเสมอว่า อะไรที่มันโตเร็วๆ รากฐานมันอาจจะไม่แข็งแรง การเติบโตของโรงเรียนอินเตอร์ในช่วง 4-5 ปีนี้ก็เช่นกัน หวังว่ามันจะไม่เกิดฟองสบู่ เพราะเด็กมันจะเกิด culture shock การปรับเปลี่ยนโรงเรียนถ้าดีขึ้นก็ดีไป แต่ถ้าแย่ลงเด็กบางคนมันรับไม่ไหว

ผมก็กัดฟันให้ลูกเข้าอินเตอร์นะค่าเทอม4แสน บอกเลยจุกๆ ต้องกัดฟันจ่ายทีเดียวทั้งปีเพื่อได้

ส่วนลด15,000 ผมกลับลูกพูดอังกฤษไม่ได้ อย่างน้อยได้อังกฤษก็ไปอยู่ตปทได้ เพราะหมด

หวังกับประเทศนี้แล้ว ถ้าได้ภาษาดียังไงก็มีทางเลือก2 3 4 ผมไม่เสี่ยงกับโรงเรียนที่ใช้ภาษาไทย

เป็นหลักหรอก

ไม่มีกิจการ/ธุรกิจ รองรับให้ลูกบอกเลย โอกาสขาดทุนสูงปรี้ด(วัดจากเงินที่ลูกจะหาได้ในอนาคต)