สวัสดีครับ ผมเขียนรีวิวนี้มาแนะนำเพื่อนๆ ที่สนใจอยากทำการขลิบครับ ตัวผมเพิ่งไปขลิบมาและได้เฝ้าดูการทำทุกขั้นตอนครับ จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้กับทุกคน เผื่อช่วยให้เรื่องของผมช่วยตัดสินใจให้กับเพื่อนๆ ว่าคุ้มค่าที่จะเจ็บตัวรึเปล่านะครับ ใครขี้เกียจอ่าน ข้ามไปด้านล่างได้เลยครับ

สาเหตุที่ผมสนใจมาขลิบ ต้องบอกก่อนว่าผมสามารถรูดลงมาเปิดได้สุดอยู่แล้วครับ สามารถดึงลงมาทำความสะอาดได้ตามปกติ แต่มันมีปัญหาตอนที่มีอะไรกับแฟนครับ หนังหุ้มปลายผมมีค่อนข้างเยอะ เวลารูดปิดมันจะเป็นติ่งเนื้อคลุมจนมิดหัวเลยครับ ทีนี้เวลามีอะไรกับแฟน เวลาผมรูดลงมารั้งตรงใต้หัว เวลามีอะไรกับมันจะปริแตก สภาพเหมือนคนปากแตกแต่เป็นตรงหนังหุ้มครับ ทำให้แสบและน้องชายจะอ่อนตัว พออ่อนตัวเวลาทำกิจกรรม มันก็จะรูดเปิดปิดๆ ไป ทำให้แผลปริ ฉีกขาด มากขึ้นครับ เป็นทีนึงต้องพักไปเป็นอาทิตย์ รู้สึกไม่แฮปปี้ครับ

ผมอ่านจากใน ss แนะนำ รพ รั*ดาท่า*ระ ก็ตามนี้ครับ ต้นเดือน พค ที่ผ่านมาผมเลยนั่งรถไปหาหมอครับ ก็เริ่มแรกก็อธิบายสาเหตุว่าทำไมมาทำ แล้ว คอนดิชั่นผมคือ วันจันทร์ผมลางานไม่ได้ และหน้างานผมบางทีต้องลงไปในไลน์บ้าง หมอเลยแนะนำให้ทำแบบขลิบไร้เลือดครับ แผลจะหายเร็วกว่า หลังจากตกลงใจจะทำก็ไปนั่งรอเรียกชื่อครับ

บอกก่อนว่ามีแต่คนพูดว่าเจ็บแค่ตอนฉีดยา งั้นของจริงเป็นยังไง ผมจะบอกให้ฟังครับ ผมก็เชื่อตามที่ทุกท่านบอก แต่ความเจ็บคนเราไม่เท่ากันครับ เริ่มแรก พยาบาลจะเริ่มโกนหมออ้อยของเราก่อน โล่งเตียนเลยครับ หลังจากนั้นก็รอหมอมา เตรียมยาชาไว้ ผมเห็นแล้วก็ใจแป้วแล้วครับ เพราะเป็นคนกลัวเข็มมาก แล้วไซริ้งนี่โคตรใหญ่ ใหญ่แบบใหญ่มาก เหมือนไซริ้งล้างจมูก พอหมอเข้ามาก็เริ่มเลยครับ ผมโดนฉีดยาชาบริเวณโคนน้องชายด้านบน 2 เข็มซ้ายกับขวา ระหว่างฉีดหมอจะแกว่งเข็มเพื่อให้ยามันกระจายด้วยครับ ทั้งเจ็บทั้งปวด หลังจากนั้น ด้านล่างน้องชายเหนือไข่ต้ม 1 จุดครับ ตรงนี้ไม่ค่อยเจ็บแล้ว สงสัยยาชาเริ่มออกฤทธิ์ พอฉีดยาเสร็จเขาก็ให้ผมนอนเฉยๆ รอยาชามันกระจายไปทั่วครับ ระหว่างนี้พยาบาลจะเดินเข้ามา เอาที่คีบ คีบบริเวณปลายหนังหุ้มครับ และถามว่ารู้สึกไหม เจ็บไหม ผมนอนรอไปได้ราวๆ 30 นาที พยาบาลคีบ ผมก็ยังรู้สึกอยู่ ยังเจ็บจี๊ดๆ อยู่ พยาบาลก็ว่าน่าจะได้ละ แต่ในใจผมคิดว่า มันไม่ชาสุดครับ ตอนเขาคีบแรงสุด ผมก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่

พอพยาบาลไปแจ้งหมอมา หมอก็มาพร้อมอุปกรณ์ขลิบไร้เลือดครับ เป็นบ้องขาวๆ และมีไกปืน ทีนี้ก็ต้องมาเตรียมน้องชายกันก่อนครับ เขาจะวัดขนาดน้องชายเพื่อเอาฉิ่งลงไปสวมครอบครับ พอวัดเสร็จปุ๊ป จังหวะนี้เจ็บแล้วครับ อย่างที่บอก ผมคิดว่ายาชามันไม่ถึง หมอและพยาบาลร่วมใจกันใช้ที่คีบ ดึงเปิดปลายหนังหุ้มผม 4 มุม ให้นึกภาพอารมณ์หนังเอเลี่ยนอะครับ ไข่เอเลี่ยนเวลาเปิดเปลือก และใส่ฉิ่งลงไปครอบหัวน้องชาย จังหวะนี้เจ็บมากครับ เจ็บทั้งตอนดึงและตอนยัดฉิ่งลงไป ผมกำลังเจ็บ พยาบาลก็มาทายาชาแบบเจลช่วยให้อีกที แต่หมอไม่รอแล้วครับ หมอเอาอุปกรณ์ขลิบสวมลงไปและเริ่มขันเกลียว ปืนที่ด้านหลังเป็นไกปืน เป็น เกลียวขัน ยิ่งหมอขันลงไป ปลายหนังที่หุ้มของผม ความรู้สึกมันเหมือนมันขึงด้านในให้ตึง ตึงแบบไม่ให้มีเลือดไหลผ่าน ผมเข้าใจตอนนั้นเลย ทำไมเรียกว่าคลิบไร้เลือด พอมันตึงได้ที่ หมอเอามือมาสวมเข้ากับไกปืน แล้วบอกพร้อมนะ ผมกลั้นใจและหมอเริ่มสับไก รู้สึกปวดมาก ตอนนี้คือใบมีดด้านในมันคงตัดพร้อมกับเย็บแผลด้วยแม็กเรียบร้อย เผื่อทุกท่านนึกไม่ออก แม็กเย็บแผลคล้ายๆ กับแม็กเย็บกระดาษครับ เพียงแค่ตัวเล็กกว่า หมอสับไกและค้างไว้แบบนั้นประมาณ 10 นาที ก็ถอนอุปกรณ์ออก จังหวะนั้นผมเห็นเนื้อปลาหมึกหั่นแว่นผมอยู่ด้านใน และพยาบาลก็ทิ้งลงถังขยะไป

พอหมอถอนอุปกรณ์ก็ยังกุมน้องชายผมไว้อยู่ครับ อีกประมาณ 5 นาทีเหมือนไม่ให้เลือดมันไหล ก็มีเลือดบ้างครับ แต่น้อย พอถึงเวลาก็ตัดเส้น 2 สลึงครับ ผมลืมบอก ผมให้เขาตัดเส้น 2 สลึงด้วย ก่อนจะเริ่มตัดก็มีการฉีดยาชาตรงเส้นเลยครับ เจ็บเหมือนเดิม และหมอก็เริ่มตัด ตัดไปแกก็เย็บแผลไป ระหว่างตัดผมก็ร้องเจ็บ แกเลยเติมยาชาให้อีกและบ่นว่า ฉีดให้เยอะแล้วนะเนี่ย ยังเจ็บอีกหรอ เจ็บซิครับหมอ เจ็บมาก ทั้งเจ็บทั้งปวด พอหมอเย็บแผลเสร็จก็จบครับ พยาบาลก็มาพันแผลให้และสอนวิธีพันแผล ไหมที่ใช้เป็นไหมไม่ละลายนะครับ ต้องมาแกะแม็กกับตัดไหมอีก 2 อาทิตย์ รวมเวลาทั้งหมดตั้งแต่ขึ้นเตียง 1 ชม. ครับ

จังหวะลงเตียงนี่ระบบมากกครับ พอออกมานอกห้องผ่าตัด คนเพียบเลย ผมเดินพะงาบๆ เขาคงรู้ว่าทำอะไรมา 555555 แต่ตอนนั้นไม่สนใจละครับ รอเรียกชื่อและจ่ายเงิน ได้ชุดทำแผล 2 วันทำครั้งมาพอดีกับ 2 อาทิตย์ก่อนจะตัดไหมครับ ตรงนี้ผมแนะนำให้ขอเป็นทำวันต่อวันมาดีกว่าครับ เผื่อแผลไม่สะอาด เป็นหนองเป็นอะไร จะเจ็บกว่า ทำแผลทุกวันดีกว่า อีกเรื่องนึงคือ หมอไม่จ่ายยาปฏิชีวนะให้นะครับ ให้แค่ชุดทำแผลกับพารา ผมแนะนำไปปรึกษาเภสัชกรดูก็ได้ครับ ว่าถ้าอยากกินยาตัวนี้ด้วยต้องพิจารณายังไง เพราะถ้าทำแผลเองมีโอกาสจะติดเชื้อสูงกว่า เพราะห้องเรามันไม่ปลอดเชื้อ ก็กินไว้ดีกว่าครับ วันแรกผมกินพารา ก็ไม่ค่อยเจ็บไม่ปวดนะคร้บ วันถัดมาผมไปเดินงานหนังสือได้ ใช้ชีวิตได้ตามปกติเลยครับ มีเจ็บตอนแกะผ้าพันแผลและทำแผลแค่นั้นเอง

ทีนี้มันเกิดเรื่องขึ้น 1 อาทิตย์ก่อนจะถึงวันตัดไหมครับ ผมสังเกตว่าตรงแผลเย็บไหมมันเหมือนเป็นน้ำหนองเหลืองๆ อ่อน เลยต้องนั่งรถไปให้พยาบาลดูครับ แต่ปรากฎว่ามันเป็นเพราะผมทำความสะอาดแผลไม่ค่อยดีครับ พยาบาลอธิบายว่า มันเป็นเนื้อเยื่อที่รอหลุดออกตอนทำแผล ถ้าเราเช็ดทำความสะอาดแรงๆ มันก็จะหลุดออกไปเองครับ แต่ผมเจ็บมาก ผมทำแค่ซับๆ แผลและใส่ยาแค่นั้นครับ หมอมาดูเลยให้ตัดไหมออกตรงแถวๆ ที่เป็นเนื้อเยื่อออกบางส่วน และพยาบาลก็ใช้ที่คีบกับมีดผ่าตัดเลาะออกให้บางส่วน จังหวะนี้ก็เจ็บๆ ปวดๆ อีกแล้ว ทำสดไม่มียาชาครับ

พอถึงวันแกะแม็กเย็บและตัดไหม ด้านบนที่ผมบอกผมทำความสะอาดไม่ค่อยดี เช็ดไม่แรง แม็กมันเลยอยุ่ครบเลยครับ มีบางตัวบิดๆ งอๆ และมีบางตัวอยู่ในแผลเส้น 2 สลึงด้วยครับ แผลเส้น 2 สลึงจะหายช้ากว่าแผลแม็กเย็บครับ แต่หมอพิจาณาแล้วตัดไหมได้ และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพยาบาล พยาบาลอธิบายว่า แม็กอยู่ครบแบบนี้ต้องฉีดยาชารอบตำแหน่งเลย เพราะแกะแม็กค่อนข้างเจ็บ ตอนนี้อารมณ์เหมือนฉีดยารอบแผลเหมือนพิษสุนัขบ้า แต่เป็นตรงน้องชาย ผมหน้าถอดสีละ แต่ก็ต้องทำ พยาบาลฉีดไปได้ครึ่งไซริ้ง ผมก็บอกว่าไม่ไหว มันเจ็บและปวดมาก พยาบาลอีกคนเลยเข้ามาดู แกว่าฉีดตรงแผลเส้นไปแล้ว ตรงนี้น่าจะเจ็บตอนดึงออก ตรงอื่นแผลมันแห้งแล้ว จะลองแกะแม็กเลยไหม ถ้าทนได้ก็ไม่ต้องฉีด ผมที่กลัวเข็มอยู่แล้วจึงบอกว่า ลองแกะดูเลยครับ ผมว่าผมทนเจ็บแม็กได้กว่าทนฉีดยา ปรากฎว่าแกะแม็ก เจ็บน้อยกว่าครับ อาจจะเป็นเพราะยาชาที่ฉีดไปบางส่วนด้วย เลยบอกพยาบาลว่า แกะทั้งแบบนี้เลยครับ ไม่ต้องฉีดยาแล้ว พอแกะแม็กเสร็จก็ตัดไหม ตัดไหมไม่ค่อยเจ็บแล้วครับ เพราะโดนยาชาไปด้วยส่วนนึง พอตัดเสร็จก็ไปรอจ่ายเงิน เป็นอันเสร็จครับ มหากาพย์ขลิบของผม

----------------------------------------------------
ผมให้คะแนนนะครับ
ความเจ็บปวด 100/10 ผมเจ็บมาก แต่ผมกลัวเข็มด้วย เลยไม่รู้เพื่อนๆ จะเป็นเหมือนผมไหม
ความสวยงาม 10/10 แผลสวยมากครับ ตอนหาย เหมือนพระเอกหนังโป๊ฝรั่งเลย สะอาดและไม่มีกลิ่น
หมอ 7/10 หมอแกทำดีตามมาตรฐานครับ แต่ผมเจ็บเลยหักคะแนนแก 555555
พยาบาล 10/10 ครับ พี่พยาบาลมือเบาดีครับ ช่วยให้ผมเจ็บน้อยลงเยอะ
ราคา 9/10 ผมให้หมอเขียนว่าเป็นการรักษาแผลฉีกขาด เลยเอาไปเบิกประกัน บ. ได้ครับ ค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด 11,000 บาทครับ (ขลิบ+ตัดเส้น 8,500 ดูแผลหนอง 1000 แกะแม็กตัดไหม 1,500)
ควรทำไหม 8/10 ละกัน ถ้าท่านทนเจ็บได้ ผมว่าไปทำดีกว่าไม่ไปเยอะเลย

ถ้าให้ผมแนะนำ ตอนผมขลิบเสร็จ ผมคิดว่าไม่น่ามาเจ็บตัวเลย แบบอยากย้อนเวลาไป 1 ชม. ก่อนทำมาก
แต่ตอนตัดไหมและแผลหาย 1 อาทิตย์แล้ว แนะนำให้ไปทำครับ ยืมคำพูด ทอมครูสหน่อย มันก็แค่ความเจ็บปวด 55555
ยังไม่ได้ลองใช้งานนะครับ กลัวแผลฉีกขาดแล้วต้องไปหาหมอใหม่ ไม่อยากทำแผลแล้วครับ แต่ตอนนี้แข็งตัวได้ไม่เจ็บปวด ลองลูบๆดูเสียวเหมือนเดิมครับ ใครบอกว่าทำแล้วอึดขึ้น ผมว่าน่าจะไปไวกว่าเดิมนะครับ แต่ของแบบนี้ฝึกกันได้ ส่วนความใหญ่ ผมว่าใหญ่กว่าเดิมนิดนึงนะ สงสัยเพราะหนังผมเยอะตอนแรก แล้วมันไปรั้งไว้ทำให้เลือดไปคั่งไม่ดี

เขียนซะเข้าถึงความเจ็บปวดที่กราเจี้ยวเลยครับ

หวาดเสียวจัดครับ

อ่านแล้วเสียวหรรมเลยครับ

งั้นที่พี่โน๊ตอุดมเล่าก็คงจริง ที่ว่าขลิบเสร็จไปนอนตายอยู่บ้านเป็นสัปดาห์
ผมอ่านแล้วผมไม่ทำแน่ๆ เว้นแต่ว่าจะมีปัญหาและหมอแนะนำให้ทำ
เกิดมาพร้อมกันก็ต้องอยู่ไปด้วยกันจนสุดทาง

เล่าขนาดนี้ผมแม่มกลัวเลยเนี่ย

โห มันดูน่ากลัวแท้

อ่านไปมือสั่นไป

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ทำเอาหนักใจเหมือนกัน
ผมเองก็คล้ายๆกัน ถ้าไม่แข็งก็รูดหนังลงมาทำความสะอาดได้ปกติแต่ถ้าแข็งขึ้นมามันจะรูดได้ถึงแค่ใต้หัวเห็ดติดอยู่แค่นั้นแล้วมันรัดแน่นด้วย เวลามีไรกับแฟนเลยจะใช้เวลานานมากไม่ได้เพราะถ้าใช้เวลานาน หลังจากเสร็จกิจเวลาไปฉี่ผมจะแสบท่อปัสสาวะทุกครั้ง เส้นสองสลึงผมก็ยังไม่ขาดเหมือนกัน

ผมก็กลัวเข็มเหมือนกันอีก ชั่งใจอยู่เลยว่าจะเอายังไงดี ใจนึงก็อยากทำแต่พอเจอท่านบรรยายเรื่องฉีดยาชาเยอะๆทำเอาผมกลัวเลย

ปล. หนังหุ้มของท่านที่เอาออก เอาออกไปเยอะมั้ยครับ ยังมีหนังหุ้มอยู่บ้างรึเปล่าหรือเอาออกไปหมดเลย ผมนึกภาพไม่ออก

อ่านละรู้สึกตุ่ยๆเลย

คุณถือว่าโชคดีนะ ไปขลิบตอนที่เทคโนโลยี อุปกรณ์มันดีแล้ว. ของผมไปทำมาเมื่อ 20ปีก่อน เลือดสาดดด หมอใช้แค่ผ้าปิดหน้า กับฉีดยาชา.. แต่ตอนนี้ตัดหนังหุ้มปลายนี้ยังรู้สึกเลยว่าตัดไปกี่ฉับ ตัดไปถึงตรงไหน.

ช่วง 1 สัปดาห์ หลังผ่าตัดผมไม่ทำแผลเองเลยครับกลัวเน่า ไปโรงหมอให้พยาบาลทำตลอด. วันแรกพยาบาลอาชีพทำให้ วันต่อมาพยาบาลอาชีพเรียกนักเรียนพยาบาลชุดฟ้ามาทำให้ตลอด ผมทั้งอาย ทั้งเจ็บ ทั้งแข็ง เรียกได้ว่าน้องชายผม ผ่านมมือพยาบาลมาเป็นสิบก็ว่าได้.

มีประสบการณ์โดนหมาจรจัดกัดสองครั้ง ต้องฉีดยากันพิษสุนัขบ้าเข้าแผลโดยตรง ต้องขอบอกว่าเจ็บเฮียๆครับ ขนาดตอนนั้นก็โตพอสมควร แต่ไอหมาเวรก็กัดจมเขี้ยว แผลลึก ตอนโดนเข็มแทงเข้าแผลสดๆ ผมร้องแบบไม่มีเสียงออกมา น้ำตาไหลพรากต่อหน้านักศึกษาแพทย์สาวจุฬาที่มาดูเคสผมกลุ่มใหญ่ ผมอ่านเรื่องท่านไปจิกเกร็งไปด้วยแทน เพราะผมเข้าใจเลยว่าแม่งเจ็บแค่ไหน

ส่วนตัวผมอยากนะ แต่คงไม่ไป เพราะไม่ได้มีปัญหาการใช้งานครับ รูดลงได้สุด ตอนแข็งเต็มที่ดูก็เหมือนคนขลิปมาแล้ว ใช้งานได้ไม่เจ็บ

ตอนก่อนทำผมก็กลัวเหมือนท่านนิละ แต่พอทำเสร็จผ่านไป1เดือน แผลหาย เวลามีอะไรกับแฟนนี่ดีกว่าเดิมเยอะเลย ช่วงแรกๆหลังขลิบนี่โครตฟิน มันเสียวหัวโครตๆ เวลาแฟนโม้กให้นี่อย่างฟิน แต่พอเวลาผ่านไป หัวเริ่มด้าน
ก็กลับมาอึดแทน บางทีก็ยังเสียวนะถ้าเจอคนทำเก่งๆ

ผมก็เป็นคล้ายๆท่านเลย ตอนไปทำ(แบบธรรมดาหมอถือมีดกรีด)แทบไม่รู้สึกเจ็บ แต่ตอนยาชาหายเหมือนคนพิการไปอาทิตย์นึงได้เลย ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าช่วงนั้นผมกินข้าวยังไงอยู่ยังไง(ผมอยู่คนเดียว) อาบน้ำลำบากมากไปทำแผลก็โดนพยาบาลด่าหาว่าแผลเปียกมั่งไรงี้555 วันแรกจะร้องอ่ะเนื่องจากโดนพันผ้าแน่นจนเหมือนเลือดไม่ไหลจนหรรมกลายเป็นสีดำผมนึกว่าของผมเน่าแล้ว ทำแผลคือยอมไปทำที่นั่นเลยถึงจะโดน300บาทต่อครั้งแต่ก็เหมือนให้เค้าเช็คไปในตัวว่ามันยังดีอยู่ ไป3-4ครั้งเลยจนถึงวันนัดดูแผล

ตอนผมทำมีปัญหานิดหน่อยด้วยคือผมกลัวว่าหลังจากทำแล้วถ้ามันแข็งผมจะเจ็บ เลยมีการเอาน้ำออกก่อน2-3วันติดก่อนทำเพื่อไม่ให้แข็งง่ายหลังจากทำ สรุปคือวันไปทำทั้งแอร์เย็นทั้งอายพยาบาลทำให้มันหดเล็กมากเท่านิ้วก้อยได้มั้ง หมอก็ทำได้ยากขึ้นใช้เวลานานขึ้น ทำให้ตัดได้ไม่ค่อยสวยอ่ะคือมีหนังด้านในมันกลับออกมาด้านนอก รอยเย็บมันร่นออกมาด้านนอกเห็นเป็นหนังสองสี

ทุกวันนี้ก็ปกติดี แต่ถ้ามีลูกคงให้ทำแต่เกิดเลยไม่ให้โตมาแล้วค่อยมาเจออะไรแบบนี้แน่ๆ

อ่านละหำหดเลยครับ