จากการทดสอบอัตราการกรอง เครื่องกรองน้ำแบบติดก๊อก 9 ยี่ห้อ มีเพียง 2 ยี่ห้อ ที่สามารถกรองน้ำได้ปริมาณ 100% ตามที่ระบุไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์โดยอัตราการกรองน้ำไม่ลดลง ได้แก่



1. Xiaomi (ปริมาณน้ำประปาที่กรองได้ 80 ลิตร)

2. Midea (ปริมาณน้ำประปาที่กรองได้ 1,200 ลิตร)

ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความสะอาดเลย ประมาณว่า "มันบอกว่ากรองน้ำได้ 100 ลิตร เออ 100 ลิตรจริงๆแฮะ ในขณะที่แบรนด์อื่นบอกว่ากรองได้ 100 ลิตร แต่เอาจริงๆแค่ 80 ลิตร" มันประมาณนี้ไม่ใช่เหรอ

สรุปคือ Xiaomi กับ Midea กรองน้ำได้ปริมาณ 100% ตามที่ฉลากระบุ แต่ยี่ห้ออื่นได้ปริมาณน้อยกว่าที่ระบุไว้

แต่ %การกรองความขุ่น (ผมเข้าใจว่าความสะอาด) Xiaomi เฉลี่ยได้แค่ 20% กับ Midea 54%

ยี่ห้ออื่นๆ

จากใจคนที่จบตรงและทำงานด้านการปรับปรุงคุณภาพน้ำนะครับ ปริมาตรน้ำที่กรองได้ไม่ใช่ประเด็นถ้าเป็นน้ำสำหรับดื่ม คุณภาพที่กรองได้ต่างหากที่เปนตัวชี้วัดว่าน้ำจะส่งผลอะไรต่อร่างกาย

To be fair นะ เครื่องกรองแต่ละตัวควรแยกประเภทออกมาว่าด้านในใช้กรองอะไร บางทีเราไม่รู้ว่าด้านในเค้าใส่กรองอะไรไป ขนาดเท่าไหร่ เลยไม่ควรเอามาเทียบกัน อย่างเช่นกรองเนี่ยก็มีหลายชนิด เช่น เซรามิก cartridge คาร์บอน เมมเบรน และขนาดก็ไม่เท่ากัน 100 50 20 10 5 1 0.1 ไมครอน ไม่อยากโทษคนที่ทำการทดลองนะ แต่อยากฝากบอกคนที่เอามาสื่อสารมากกว่า มันทำให้คนเข้าใจผิดกันไปไกล อย่างพวกกรองปกติมันไม่ได้มี brine concentrate ที่ต้องทิ้งแบบพวกกรองเมมเบรนความละเอียดสูงอย่างพวก ro หรือ nano ปริมาณน้ำมันถึงออกมาได้แบบเต็ม 100% แต่คุณภาพ ความสะอาดมันก็สู้ไม่ได้ไง

ในเวบข่าว ค่ากรองความขุ่นนี่มันบอกอะไรได้มั้ยครับ

ไม่เข้าใจ % ความขุ่น สรุปมันต้องมากหรือน้อย ถึงดี

ถ้าดูจากตารางของเมนต์ด้านบนนะครับ %turbidity ที่วัดเนี่ย ขึ้นอยู่กับน้ำที่ใช้กรองเป็นหลักครับ ถ้ามาจากน้ำประปา ค่าความขุ่นจะไม่ได้สูงอยู่แล้วครับ ขึ้นอยู่กับน้ำต้นทุนที่ใช้ผลิต โดยทั่วไปค่าความขุ่นจะอยู่ในรูปแบบของของแข็งที่ปนมาในน้ำครับ พวก particle เล็กๆ ซึ่งตามมาตรฐานน้ำดื่มเนี่ยไม่เกิน 5 NTU อยู่แล้ว และมาตรฐานการประปาก็ใช้มาตรฐานนี้ แต่.............ก็เห็นกันอยู่ว่าน้ำปราปาบางที่นี่.......ได้แต่ถอนหายใจ ถ้าน้ำจากก๊อกออกมาไม่เหลืองเป็นใช้ได้ครับ เบื้องต้นผมแนะนำนะครับ ใส่กรองตามรูปแบบนี้

กรอง 100 ไมครอน ==> กรองคาร์บอน ==> เรซิ่น ==> RO สำหรับจะเอาไปดื่ม แค่นี้ก็พอแล้วครับ

แต่น้ำ RO ดื่มมากก็ไม่ค่อยดีต่อกระดูกและฟันนะครับ อาจจะต้องทานแคลเซียมเสริมเข้าไป

สรุปเลยก็คือ %turbidity หรือ %ความขุ่นเนี่ย ส่วนตัวมองว่าไม่มีผลครับ ถ้าเปิดก๊อกมาไม่เหลือง ไม่มีตะกอนก็โอเคแล้ว แต่ถ้าเหลืองอันนี้มีผลครับ แต่ควรรู้ชนิดของกรองที่เค้าใช้ผลิตด้วย จะได้คอนเฟิร์มว่าเราใช้กรองถูกกับสิ่งที่ปนอยู่ในน้ำ ตามนี้
Catridge filter 5 - 100 ไมครอน ==> ใช้กรองพวกโคลนหรือสิ่งสกปรกในรูปแบบ physical
Carbon filter ==> ใช้กรองพวกกลิ่น สารอินทรีย์ อนินทรีย์ที่ปนมาในรูปแบบสารละลาย ยกเว้นความกระด้าง หรือหินปูนในรูปแบบสารละลาย
เรซิ่น ==> กรองความกระด้าง หรือหินปูนในรูปแบบสารละลาย ไม่ให้เป็นนิ่ว
UF ==> กรองได้ถึงพวกจุลินทรีย์ที่อยู่ในน้ำ
RO ==> ครอบจักรวาลของสิ่งที่ปนในน้ำ ถ้าเมมเบรนที่ผลิตจากเยอรมันเกรดดีๆ บางตัวกรองได้ถึงระดับ 99% แต่ๆๆๆๆๆ น้ำที่กรองได้จะหายไปครึ่งนึงของน้ำที่ฟีดเข้าไป อันนี้เป็น normal design อยู่แล้วนะ ส่วนน้ำที่ไหลออกจากช่อง brine concentrate ทิ้งอย่างเดียวนะ อย่าเอาไปกิน โคตรอันตรายต่อไต

ถ้าน้ำประปาที่บ้านไม่ได้เหลือง ไม่ได้มีผลอะไรครับ ไม่ต้องใช้ด้วยซ้ำเปลืองตัง