1. ของผมตอนออกทุกคนในบริษัทก็รู้แยู่แล้วว่าสายนี้มันโตต่อไม่ได้ ถ้าคนไม่ออกและงานลดลงอย่างมาก ก็ตอบ exit interview ไปว่า ไปที่ใหม่เปลี่ยนสาย ได้เจออะไร challenge มากกว่าเดิม (คือผมค่อนข้างจะเป็นตัวtop ของแผนกอยู่แล้ว ไปอบรมไทยเทศผ่านมาหมด เค้ากลัวจะไปคู่แข่ง)
2. อันนี้จริง เพราะว่าก่อนย้ายไปที่ใหม่ผมก็รู้จัก พี่ เพื่อนที่เคยเรียน เคยทำงานที่เดียวกันมาแต่คนละแผนกอยู่แล้ว ส่วนหัวหน้าก็เป็นรุ่นพี่ในบริษัทที่เราเพิ่งออกมานั้นแหละ แกก็ไปถามไรเสร็จสับ (อันนี้มารู้ทีหลังตอนเข้ามาแล้ว)

Exit Interview จริง ๆ แล้วควรทำแบบไม่ลงชื่อไม่ระบุตัวตนด้วยซ้ำ ( ถ้า HR อยากได้ข้อมูลจริง ๆ นะ )

พูดถึงจุดด้อย ที่พิจารณาแล้วมันด้อยจริง แบบไม่ให้ร้ายครับ ใช้สติคิดเตรียมข้อมูลเรียบเรียงชุดคำให้ดีก่อนครับ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคนที่ได้งานใหม่เพราะทนหัวหน้า Toxic ไม่ไหว ได้งานใหม่ดีกว่าเดิมหัวหน้าดีกว่าเดิม และแถมแจ็คพอตได้เจอเพื่อนเก่าสมัยประถมอีก
ปล.หัวหน้าเก่งมากนะในทางของตัวเอง ส่วนในทางอื่น ก็ไม่ได้เก่งเท่าไร แต่ยึดติดยึดมั่นใจชุดความคิดตัวเองเกินไป ใครอยู่ด้วยก็ออกหมด ตั้งแต่มีลูกน้องมาไม่เคยทำให้ลูกน้องอยากลาออกเพราะหัวหน้าแย่ซักครั้ง พึ่งเคยเจอคนที่วิธีการทำงานร่วมกับคนอื่นแย่จนทำให้คนอยากลาออกได้

แล้วแต่เลเวล แล้วแต่วงการ ถ้าใหม่ๆ ไม่ค่อยรู้อะไรมากส่วนใหญ่ผมก็พูดเงิน เรื่องเบเนฟิต

ส่วนสูงๆ แล้วผมไม่พูดให้ เพราะปัญหาองค์กรไทยส่วนใหญ่มันเหมือนช้างในห้อง
มีอยู่แต่เลือกไม่พูดกันมากกว่า ด้วยเพราะเกรงใจคนนู้นคนนี้
ทำไมต้องพูดเพื่อให้ตัวเองเสียในวงการ แต่องค์กรที่จะออกได้ประโยชน์ด้วย

ตอนผมออกส่วนใหญ่ผมจะบอกว่าเงินขึ้นน้อย และขึ้นช้าเกินไป ผมอยากได้ไวกว่านี้
ทั้งที่ตอนออกล่าสุดมามันขึ้นปีละ 5% แถมกำลังจะโปรโมทด้วย แต่ด้วยความมันเป็นจูเนียร์เลเวล
ปรับจาก 35k เป็น 38-40k ก็ยังน้อยสำหรับผมแหละ เลยออกมาย้ายสายไปเลย

ออกมาสวยๆพอครับ

วงการทำงานผมพยายามไม่สร้างศัตรูเลย

พี่ที่ทำงานเก่าผม อัด Vendor ซะเละเลยตอนนั้น

สักพักหัวหน้า Vendor ที่แกอัด แม่งมาเป็นหัวหน้าแกเฉย

ยังไงละทีนี้มองหน้ากันไม่ติด สุดท้ายพี่ที่ผมรู้จักแกลาออกเลย อยู่ยาก

นี่แหละที่มาของวงการนี้มันแคบ

ส่วน exit interview เขียนไปแบบกลางๆ พอครับ ใครจะไปรู้ในอนาคตท่านอาจจะต้องกลับมาทำบ. เดิมอีก

จัดแค่เรื่องของบริษัทก็พอครับ เรื่องส่วนบุคคลอาจจะละเว้นไว้

เวลาผมตอบ ผมพูดปัญหาแท้จริงตลอดนะแล้วก็ยังไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่คุณสามารถเลือกได้นะว่าคุณจะใส่ความเห็นในแบบที่พูดกลางๆหรือกล่าวโทษไปที่ใคร เช่น

หัวหน้า Toxic เขียนไปว่า เรากับหัวหน้านิสัยการทำงานเข้ากันไม่ได้ หรือเราไม่สามารถเติบโตภายใต้หัวหน้างานคนนี้ได้


แนะนำว่าทำแบบนี้นะครับ เราจะได้บอกทั้งปัญหาที่แท้จริงและไม่สร้างศัตรูไปพร้อมกัน สุดท้ายถ้า HR อยากแก้จริงเค้าจะไปทำการบ้านต่อเองอ่ะว่าที่เราพูดหมายถึงยังไง

สำหรับผม ที่เป็น it consultant มา12ปี ใช้คำว่าวงการมันแคบได้เปลืองจัดๆ แต่มันแคบจริง ย้ายไปไหนๆ รุ้กันหมดทั้งวงการ

ส่วนเรื่อง exit interview อันนี้แล้วแต่เลยครับ แต่ผมคิดว่าทำไปมันก้ไม่ได้มีประโยชน์อะไร เพิ่งเคยเจอเคสเดียวคือเคสของน้องในหมุ่บ้าน ทำexit interview แต่ไม่ได้ทำให้ hr แต่ทำให้กับหัวหน้าสายงานที่อยุ่ ตปท

สุดท้ายคือ hr โทรมา offer ให้แล้วก้ยกเลิกการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลออก แต่น้องมันก้ไม่อยากทำต่อแล้วก้ปฏิเสธไป

เป็นผม จะเลีย ยกย่องจนกว่าจะออก

พูดความจริง ก็คงเหมือนเดิม

Exit interview มีไว้เพื่อประโยชน์ของบริษัทครับ ไม่ใช่เพื่อเรา

Exit Interview เอาจริงๆ เราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทละ

พูดกลางๆค่อนไปทางดีหน่อย ไว้ป้องกันตัวเองในอนาคต

ใส่เต็มครับ ไม่สนห่าอะไรทั้งนั้น ออกมาแล้วไม่กลับไปไม่สนใจว่าข้างหน้าจะเป็นใคร

เรามีฝีมืออยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ครับ ไม่พอใจก็ลาออกไปอัพเงินที่ใหม่ ไม่ได้ยึดติดกับใคร

จะไปสนทำไมว่าวงการมันแคบหรือกว้างทำงานของตัวเองให้ดีก็พอ

Exit Interview นี่ไม่ควรจะมี คือจะมารู้อะไรตอนจะออก ตอนที่มีปัญหาทำไมไม่ถาม
นี่เลยเป็นสาเหตุที่ต้องมี one on one กับหัวหน้าบ้าง กับHRบ้าง