ผมไปดู สถิติมันโดดมากเลย

ปีที่แล้ว คนไข้ HIV รายใหม่ 8000 ราย

เป็น ช รัก ช ไปแล้ว 6000 ราย

แล้ว 5 เดือนแรกของปีนี้ แค่มหาสารคามที่เดียว 136 คนเข้าไปแล้ว เป็นผู้ชายไป 120 คน

Spoil

 

ปกติถ้าคิดจะสด พวกนี้อย่างน้อยก็ต้องออน Prep มั้ยล่ะ

งงว่าทำไมถึงปล่อยจอยกันแบบนั้น ไม่กลัวโรคเลยเหรอ

เขาตั้งใจแพร่เชื้อไหมแบบนี้ หรือตัวต้นเรื่องแกก็ไม่รู้ว่าเป็น

เกิดจากเซ็กซ์หมุ่แหละ + ปีสองปีมานี่ มีค่านิยมว่าเอดส์รักษาได้แล้วไม่ต้องกลัว ฯลฯ เลยอย่างที่เห็น

อีกกระทู้นึงตอบไว้ได้ดีมากเลยครับ
สรุปง่าย ๆ สามข้อ

1. ไม่กลัวเพราะเห็นใคร ๆ ก็สดกันในสื่อออนไลน์
2. ไม่กลัวเพราะคิดว่ามียาต้าน แต่บางคนก็ไม่เข้าใจวิธีใช้
3. ไม่กลัวเพราะประมาท อ่านจากในเนตว่าติดยาก แต่ลืมไปว่ามีโรคอื่นอีก

พอไม่รับเลือดพวกนี้ก็ทำทรงมาโวยวาย

พวกคลิป 18+ ที่ออกมาทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ผมว่า 99% ไม่ใส่ถุงอะ ยังงงว่าทำไมไม่กลัวกันบ้างเลยหรือ?

แล้วเห็นตามทวิตพวกผช.ที่ทำแอ็คล็อคไล่สดกับผญ.เต็มไปหมดไม่เว้นวัน คำถามคือน้องผญ.

ทำไมกล้าให้สดได้ขนาดนี้ทั้งๆที่แอ็คนี้แม่มสดกับทุกคน จะบ้า

ตีกระบี่เซฟกว่าหาฟรีซะแล้วเดี๋ยวนี้

ก็ ช-ช มันไม่ท้อง ร้อยทั้งร้อยยังไงมันก็สดกันอ่ะ

ใช่ครับพี่จักรกลฯ พวกนี้แม่งมั่วไม่พอ เผลอๆรู้ว่าตัวเองติด แทนที่จะรักษา แต่ตั้งใจไปแพร่ให้คนอื่น

ไม่น่าจะให้ยาพวกนี้นะ ถือว่าธรรมาชาติคัดสรรคไป

ไปกินร้านอาหารหรือร้านเหล้าสมัยนี้บอกตรงๆว่า ผมตรงใจพอสมควร กับการที่ในร้านมีกลุ่มชายรักชาย เยอะขึ้นมาก ในร้านเดี๋ยวนี้จะมี หญิง 50% เกย์ 25% ชาย25% โดยประมาณ

เหยียดเหรอครับ จะเพศไหนก็ติดโรคได้ทั้งนั้น

ผมทำงานดูแลเรื่องคลินิกยาต้านฯมาสิบกว่าปี รู้สึกว่าการชูนโยบายPrep อาจเป็นการทำผิดพลาดครั้งใหญ่ของWHOก็ได้(ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะครับ พูดได้แต่ในนี้ ไปพูดในที่ประชุมคงโดนถล่มยับจากผู้ใหญ่)

เพราะช่วงหลัง ๆ มานี้ เหมือนมีการใช้Prep ผิดวัตถุประสงค์ไปมาก จากเดิมใช้ในคู่สามีภรรยาที่มีผลเลือดต่างเป็นหลัก กลายเป็นมาใช้ในกลุ่มที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใส่ถุงยางซะงั้น

โดยหลักการการป้องกันมันก็ดีครับ แต่พอรู้ว่าป้องกันไวรัสได้ ความที่คนใช้ไม่อาจคุมกิเลสได้ เลยทำให้โรคอื่นที่ไม่ใช่HIV แต่ตามมาด้วยเงียบ ๆ เบ่งบานกันใหญ่เลย

ใส่ถุงสิไอ้งั่ง