ตอนนี้ที่มีข้อมูลเผยว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ระบาดหนัก โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นวัยเรียน

ผมก็มองว่าจริงนะ เพราะคอนเทนต์แนว 18+ ของเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ที่เปิดขายเปิดให้ชมตามแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะ 1-1 2-1 ไปถึง 5-1 แทบจะมีอะไรกันแบบไม่ป้องกันเลย ยังไม่รวมการเปลี่ยนตัวละครที่บ่อยอีก

เลยอยากถามว่า คิดว่ามีเหตุผลอะไรที่ทำให้เด็กรุ่นใหม่ กลัวโรคติดต่อน้อยลง เพราะถ้าย้อนไป 20กว่าปีที่แล้วกระแส HIV แรงมากจนคนส่วนใหญ่กลัวและมีการรณรงค์กันมากด้วย

อะไรที่เป็นเหตุจูงใจให้คนกล้าที่จะทำ ทั้งๆที่พวกเขาน่าจะรู้ดีอยู่เเล้วว่าเสี่ยงอะไร

1. ความตื่นตัวเรื่อง HIV ลดลง
ในอดีต (ยุค 80s–2000s) การระบาดของ HIV มีความรุนแรงและเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง คนจำนวนมากเสียชีวิต และยังไม่มีทางรักษา

ปัจจุบัน HIV กลายเป็น “โรคเรื้อรังที่ควบคุมได้” ด้วยยาต้านไวรัส (PrEP, ART) ทำให้คนรุ่นใหม่มองว่า "ไม่ถึงตาย" หรือ “แค่กินยาก็อยู่ได้”

ส่งผลให้ความรู้สึกเร่งด่วนหรือความกลัวลดลง

2. การเข้าถึงคอนเทนต์ 18+ ง่ายขึ้น และชินชา
การเปิดขายคลิปส่วนตัว หรือคอนเทนต์วาบหวิวใน OnlyFans, Twitter ฯลฯ ทำให้เรื่องเพศถูกมองว่า “เป็นเรื่องธรรมดา”

หลายคลิปที่ไม่ใช้ถุงยาง ส่งผลให้ผู้ชมซึมซับว่าการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันเป็น “พฤติกรรมปกติ” (social norm shift)

3. การขาดการเรียนรู้เรื่องเพศแบบรอบด้าน
หลายโรงเรียนยังคงสอนเรื่องเพศในแบบ “ปลอดภัยไว้ก่อน = ห้ามมี” แทนที่จะสอนให้รู้จัก "การป้องกันที่ถูกต้อง"

ขาดการพูดเรื่องสุขภาพทางเพศอย่างเปิดเผย ทำให้วัยรุ่นต้องไปหาความรู้เองจากสื่อลามก ซึ่งมักไม่แสดงพฤติกรรมที่ปลอดภัย

4. แรงกระตุ้นจากโซเชียลมีเดีย และการยึดติดกับการยอมรับ
การมี “แฟนคลับ” หรือ “ยอดซัพพอร์ต” อาจสร้างแรงกดดันให้วัยรุ่นเปิดเผยเนื้อหาทางเพศโดยไม่ได้คิดถึงผลกระทบด้านสุขภาพ

บางคนต้องการความรัก/การยอมรับในทันที มากกว่าความปลอดภัยในระยะยาว

5. เข้าไม่ถึงการป้องกันหรือบริการสุขภาพ
บางคนยังอายที่จะซื้อถุงยาง หรือไม่รู้ว่าจะขอ PrEP หรือพบแพทย์ได้ที่ไหน

ระบบสนับสนุน เช่น คลินิกสุขภาพทางเพศ หรือคำปรึกษาเรื่องเพศ ยังไม่ได้อยู่ในชีวิตประจำวันของวัยรุ่นส่วนใหญ่

6. การเปลี่ยนทัศนคติของสังคมต่อเรื่องเพศ
สังคมเริ่มเปิดกว้างเรื่องเพศมากขึ้น แต่ไม่ได้เปิดให้เท่ากับเรื่อง “ความรับผิดชอบต่อการมีเพศสัมพันธ์”

เกิดความเข้าใจผิดว่า “ความเสรีทางเพศ = ทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องป้องกัน”

สดได้ให้ยายเลี้ยง

ไม่ฉลาดพอ

ถ้าฉลาดพอจะคิดได้เอง โรคติดต่อและท้อง เปลี่ยนชีวิตคนๆนึงได้เลย

1. ความตื่นตัวเรื่อง HIV ลดลง
ในอดีต (ยุค 80s–2000s) การระบาดของ HIV มีความรุนแรงและเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง คนจำนวนมากเสียชีวิต และยังไม่มีทางรักษา

ปัจจุบัน HIV กลายเป็น “โรคเรื้อรังที่ควบคุมได้” ด้วยยาต้านไวรัส (PrEP, ART) ทำให้คนรุ่นใหม่มองว่า "ไม่ถึงตาย" หรือ “แค่กินยาก็อยู่ได้”

ส่งผลให้ความรู้สึกเร่งด่วนหรือความกลัวลดลง

2. การเข้าถึงคอนเทนต์ 18+ ง่ายขึ้น และชินชา
การเปิดขายคลิปส่วนตัว หรือคอนเทนต์วาบหวิวใน OnlyFans, Twitter ฯลฯ ทำให้เรื่องเพศถูกมองว่า “เป็นเรื่องธรรมดา”

หลายคลิปที่ไม่ใช้ถุงยาง ส่งผลให้ผู้ชมซึมซับว่าการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันเป็น “พฤติกรรมปกติ” (social norm shift)

3. การขาดการเรียนรู้เรื่องเพศแบบรอบด้าน
หลายโรงเรียนยังคงสอนเรื่องเพศในแบบ “ปลอดภัยไว้ก่อน = ห้ามมี” แทนที่จะสอนให้รู้จัก "การป้องกันที่ถูกต้อง"

ขาดการพูดเรื่องสุขภาพทางเพศอย่างเปิดเผย ทำให้วัยรุ่นต้องไปหาความรู้เองจากสื่อลามก ซึ่งมักไม่แสดงพฤติกรรมที่ปลอดภัย

4. แรงกระตุ้นจากโซเชียลมีเดีย และการยึดติดกับการยอมรับ
การมี “แฟนคลับ” หรือ “ยอดซัพพอร์ต” อาจสร้างแรงกดดันให้วัยรุ่นเปิดเผยเนื้อหาทางเพศโดยไม่ได้คิดถึงผลกระทบด้านสุขภาพ

บางคนต้องการความรัก/การยอมรับในทันที มากกว่าความปลอดภัยในระยะยาว

5. เข้าไม่ถึงการป้องกันหรือบริการสุขภาพ
บางคนยังอายที่จะซื้อถุงยาง หรือไม่รู้ว่าจะขอ PrEP หรือพบแพทย์ได้ที่ไหน

ระบบสนับสนุน เช่น คลินิกสุขภาพทางเพศ หรือคำปรึกษาเรื่องเพศ ยังไม่ได้อยู่ในชีวิตประจำวันของวัยรุ่นส่วนใหญ่

6. การเปลี่ยนทัศนคติของสังคมต่อเรื่องเพศ
สังคมเริ่มเปิดกว้างเรื่องเพศมากขึ้น แต่ไม่ได้เปิดให้เท่ากับเรื่อง “ความรับผิดชอบต่อการมีเพศสัมพันธ์”

เกิดความเข้าใจผิดว่า “ความเสรีทางเพศ = ทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องป้องกัน”

ปี 2025 แทนที่จะสติปัญญาดีขึ้น กลายเป็นพอสนใจเข้าถึงสื่อลามกอนาจารได้ กลับไม่สนใจความรู้เรื่องของการป้องกัน ความเสี่ยง ล้มเหลวหมดทั้งภาคการศึกษา สาธารณสุข สถาบันครอบครัว

เหลือจะเชื่อ ผมเอาแต่บ่นเป็นตาแก่วัย 34 ในสายตาของเด็กวัยรุ่นแล้วล่ะ

ความรู้ ความน่ากลัวของโรคมันลดลงมั้ง

ยา PEP สำหรับผมนี่มีผลนะ กินก่อนมีเพศสัมพันธ์มันทำให้มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใส่ถุงได้ ผมก็ใช้บ่อยนะช่วงนึงเพราะตอนนั้นเหมือนแพ้ถุงยางใส่แล้วหดเลยหมอเลยแนะนำยาตัวนี้ให้กิน ช่วยได้แต่ถ้าจะไปทำกับใครที่ไม่ใช่แฟนตัวเองถุงยางดีสุดครับ เพราะมันป้องกันทุกโรคเลยถุงยางเนี่ย

เพราะเด็กยุคนี้ไม่ทันยุคเอดส์ระบาด ทำให้ไม่ใส่ใจเท่าไร
แต่ก็ยังกลัวเรื่องท้องอยู่

ยาฟรี รักษาฟรี ทั้งยาป้องกัน ยารักษาhiv ยารักษาโรคติดต่ออื่นๆ

ลองต้องเสียตังเอง หมดตัวเพราะค่ารักษา ไม่มีตังก็ตายไป กลัวกันแน่นอน

เดินตามรอยพ่อ

คำตอบโครตดี กระทืบไลค์

ผมดูคลิปคอนเท้นต์ onlyfans พวกที่ชวน fc มารุมแล้วสด ผมนี่หดเลย

ไม่เกี่ยวรุ่นนี้ รุ่นผม20กว่าปีก่อน ก็เน้นใส่สด เพื่อนรอบตัว การใส่สดแล้วมาคุยกัน ว่าเสร็จข้างนอกแบบนี้แล้วไม่ท้องคือเรื่องเท่ แต่ผมไม่เคยป้องกันตลอด panicตั้งแต่เด็กแล้ว มันคือความรู้ล้วนๆ ผู้ปกครอง พ่อแม่ต้องสอนเน้นๆเลย อันนี้เรื่องจริง

ผมว่าทุกรุ่นนั่นแหละ แค่เน็ตมันไวขึ้นเลยรู้กันมากขึ้น

ชีวิตผมนะ มีแฟน สาวชอบให้สดทุกคน ใส่ถุงก็บ่นเหมือนกันว่ามันไม่ค่อยฟิน