BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status: The brain always enslaved the heart.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 758
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed May 28, 2025 07:37
eFootball Ver.4.4.0 เรื่องเล่าจากคนเล่นเกมส์ EP.3
"แทคติคใหม่ของคอนเต้ ที่ทำให้นาโปลีเป็นทีมที่หยุดไม่อยู่ หากมาอยู่ในเกมส์ eFootball Ver.4.4.0 นี้ จะเป็นอย่างไร !!?? "

คอนเต้เป็นที่รู้จักกันดีในด้านแทคติกเกมส์รับ และเกมส์โต้กลับที่รวดเร็ว ,ประสบความสำเร็จมากมายทั้งจากทีมยูเวนตุส เชลซี และ อินเตอร์มิลาน, เกมส์การเล่นของเขาส่วนใหญ่จะเป็นการขึ้นเกมส์จากทางข้าง ใช้วิงแบ็คสองข้างที่ดุดัน เดินเกมส์ไปแดนบนและมองหาผู้เล่นตัวรุกในกรอบเขตโทษ, แต่ที่ นาโปลี สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นแบบเดิมกลับไม่เกิดขึ้น เหมือนกับว่าคอนเต้ ได้คิดค้นแทคติกใหม่โดยเปลี่ยนจาก "การโถมโจมตีจากด้านข้าง" กลายเป็น "เกมส์ที่มีผู้เล่นกระจุกอยู่ตรงกลาง" แทน ,ไม่มีแล้วการสร้างโอกาสจากบอลครอสซิ่งเยอะๆ มีแต่การต่อบอลตรงๆในแนวดิ่งเข้าแดนกลาง และการใช้ผู้เล่นหลายๆคนวิ่งทะลุแนวรับคู่แข่ง, การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างแบบนี้ทำให้นาโปลี กลายเป็นทีมที่น่าจับตามองทีมนึงในยุโรปอย่างไม่ต้องสงสัย, แล้วอะไรหล่ะที่ทำให้คอนเต้ คิดเปลี่ยนแทคติคที่เค้าถนัด อย่างการโถมโจมตีจากด้านข้าง ? แล้วการที่ใช้ผู้เล่นหลายๆคนคอยซับพอร์ตรอบๆตัว ลูกากู มันทำให้ตัวลูกากูดูอันตรายขึ้นกว่าที่เคยจริงหรือ ? (หนึ่งในข้อความที่ผมเอามาจาก Video หลักอันเป็นที่มาของกระทู้นี้ ตัววิดีโอจะโพสต์ไว้ด้านล่างครับผม)
--------------------------------------------------------------------------------

ขออนุญาตแจ้งก่อนว่าผมได้ทำการคัดลอกข้อความเกือบทั้งหมดในวิดีโอนึง ซึ่งพูดเกี่ยวกับแทคติคของ คอนเต้ในฤดูกาลนี้กับ นาโปลี ไว้เพื่อนำมาทำเป็นข้อมูลการทำทีมและแทคติคการเล่น ในเกมส์ eFootball Ver.4.4.0 เท่านั้นนะครับ ไม่ได้เอาไปสร้างทีมที่เป็นผู้เล่นจริงใดๆทั้งสิ้น นั่นเพื่ออาจเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ไปลองศึกษาทีมที่ตนชอบ จนอาจสร้างเป็นรูปแบบแทคติคและนำมาแบ่งปันเพื่อนๆบอร์ดSSในอนาคตได้ โดยตัวผมเองไม่มีความรู้ด้านการโค้ชชิ่งหรือประสบการณ์การเล่นเกมส์ระดับสูงใดๆเลย แต่ถ้าบทความของผมพอจะเป็นบันไดให้เพื่อนๆนำไปต่อยอดแล้วกลายเป็นคนเก่งกว่าเดิมได้ ผมจะยินดีมากๆ ครับ
--------------------------------------------------------------------------------


นาโปลีนั้นมีฤดูกาลที่ดูจะขึ้นสุดลงสุดนะครับ ฤดูกาลที่แล้วจบที่ 10 ไม่ได้ไปเล่นถ้วยยุโรป ทั้งๆที่ฤดูกาลก่อนหน้านั้น ทีมพึ่งคว้าสคูเดตโต้ ถ้วยแชมป์ลีกไปเอง การที่คอนเต้เข้ามาคุมทีมในปีนี้จึงตามมาด้วยความคาดหวัง เพราะเจ้าตัวไปที่ไหนมักมีถ้วยแชมป์มาประดับให้ทีมเสมอ,แต่สิ่งที่เราสังเกตได้จากมุมคนภายนอก การทำทีมที่นาโปลีของคอนเต้ ไม่ใช่สิ่งที่เราคุ้นเคยเลย และสิ่งแตกต่างสิ่งแรกคือ ฟอร์เมชั่นการเล่นของทีมนั่นเอง

ตลอดการคุมทีมของคอนเต้ เราจะคุ้นเคยว่าเขามักจะใช้ฟอร์เมชั่นหลัง3 โดยอาจใช้ 3-5-2 หรือ 3-4-2-1 ใช้ผู้เล่นวิงแบ๊คที่มีความเร็วสูงที่สามารถวิ่งขึ้นลงได้ตลอด 90 นาที เมื่อคราวต้องตั้งรับ พวกเขาจะปรับมาเล่นเป็นแผงหลัง 5 คน และจะทิ้งผู้เล่นที่มีความเร็วไว้แดนบนเพื่อเกมส์สวนกลับ ในขณะที่ ถ้าได้ครองบอล ทีมจะเริ่มขึ้นเกมส์ทางด้านปีก เนื่องจากจะมีพื้นที่เยอะและสามารถเปิดข้ามฝากได้หากโดนคู่แข่งกดดันเข้ามา ขณะเดียวกันก็มองหาพื้นที่ว่างในกรอบเขตโทษเพื่อเข้าไปครอสบอลไปยังพื้นที่สุดท้ายหน้าปากประตู นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ วิคเตอร์ โมเสส และ มากอส อลอนโซ่ ถูกเลือกเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของเชลซีในปีที่พวกเค้าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วย แล้วทำไมที่ สเปอร์มันไม่สำเร็จหล่ะ วิงแบ๊คตอนนั้นคือ เอเมอร์สัน กับ เรกีรอน ที่มีปัญหาทั้งการขึ้นเกมส์ และเกมส์รับ นั่นอาจเป็นสาเหตุครับ

ในฤดูกาลนี้ หลังจากแพ้คู่แข่ง 0-3 นัดเปิดฤดูกาล คอนเต้รู้ได้ทันทีว่าเค้าจะใช้งาน แมคโทมิเนย์ กับ ลูกากู โดยให้เพื่อนๆ ขยับเข้ามาเล่นไกล้ๆสองคนนี้, ฟังแล้วอาจเหมือนการเปลี่ยนแปลงแบบเล็กน้อย, คอนเต้เปลี่ยนมาใช้แบ็คโฟร์ และโฟกัสเปลี่ยนจากการขึ้นบอลทางปีก มาเป็นขึ้นบอลแดนกลางแบบชัดเจน, โดยใช้ผู้เล่นปีกนี่แหละหุบเข้ามาเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก สิ่งนี้ทำให้เกิดการกระจุกรวมกันและถ่ายบอลไปมากลางสนามได้อย่างรวดเร็ว โดยมีผู้เล่นหลายคนที่พร้อมวิ่งทะลุแนวรับเพื่อไปสร้างสรรค์โอกาสทำประตู โดยต่อไปจะทำการพูดถึงว่า
" การกระจุกรวมตัวกันตรงกลาง " มันถูกสร้างขึ้นยังไง เพราะว่ารูปแบบฟอเมชั่นมันมีการเปลี่ยนแปลงขณะอยู่ในสนามเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาอยู่ในสถานะแบบใดในตอนนั้นนั่นเอง

>>>ขั้นตอนแรก Build Up Shape จะถูกวางไว้ที่ 2-4-2-2 โดยใช้ ควิชา กับ โปเลนติโน่หุบมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางด้านบน โดยปล่อย แมคทอมกับลูกากูไว้ด้านบนสุดสำหรับเก็บบอลยาว โดยสองคนสามารถกันตัวรับอีกฝ่ายได้ด้วยโดยใช้ความแข็งแกร่งของทั้งคู่ นั่นทำให้ฟอร์เมชั่นนี้มีผู้เล่นมิดฟิลด์ถึง 2 ชั้น และยังเป็นเส้นทางหลักในการผ่านบอลเวลาทำเกมส์ขึ้นมาอีกด้วย , เมื่อเป็นเช่นนี้ บอลที่ไปถึงวิงแบ็ค แล้วกำลังจะทำการจ่ายบอลให้กับผู้เล่นตัวรุกที่หุบมาจากปีกอย่าง ควิชา และ โปเลนติโน่ นั้นได้ผลดียิ่งขึ้น เพราะผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจะไปกระจุกรวมแย่งบอลจากวิงแบ็ค โดยทำให้อีกฝากนึกว่างนั่นเอง

ตัวอย่างจำลองการวางหมากผู้เล่น ,ลักษณะมิดฟิลด์ 2 ชั้น และ เส้นทางการขึ้นเกมส์ ส่วนที่ว่าฟอร์เมชั่นไม่ตรงกัน ในข้อย่อยถัดไปจะอธิบายเพิ่มเติมอีกทีครับ

Spoil



 


>>>ขั้นตอนที่สอง เมื่อนาโปลีทำการคุมเกมส์ได้ในระดับนึงแล้ว คุณจะเริ่มเห็นผู้เล่นเริ่มโรเทชั่นกันขึ้นไปแดนบน สมมุติ ถ้าคุณเล่นแผงรับ 4 คน วิงแบ็คคุณจะขึ้นเติมได้ลำบาก เพราะมันจะเหลือที่ว่างข้างหลังให้คู่แข่งสวนกลับได้ แต่กลับกัน ถ้าเป็นการขึ้นเกมส์จากแดนกลางหล่ะ เราก็หมดกังวลเรื่องด้านข้างไป และถึงแม้คู่แข่งจะสามารถประกบตัวผู้เล่นแดนกลางได้ทุกคน พอเป็นแบบนั้น คอนเต้จะใช้แทคติค Lavolpian exit ที่ถูกสร้างขึ้นโดย โค้ช Ricardo Lavolpe ที่ให้ผู้เล่นมิดฟิลด์ดรอปลงไปเล่นเป็นตำแหน่งระหว่างกองหลังสองคน ทำให้มีพื้นที่การเล่นกว้างขึ้น และสามารถดันวิงแบ๊คขึ้นไปรุกได้เต็มตัวด้วย แทคติคนี้เป็นแทคติคที่ เป็ป กวาดิโอล่า ชอบใช้ สมัยคุมทีมบาซ่า แต่ในปัจจุบันนั้นถูกพบเห็นได้น้อยแล้ว
ข้อดีของนาโปลีคือ ทั้งอังกุสซ่าและลาบอตก้า สามารถถอยไปเล่นตำแหน่งที่ว่าได้อย่างหายห่วง แล้วแต่ว่าใครจะสลับลงไปตามสถานการณ์ ทีนี้แผงหลังจะกลายเป็น 3 คน และตรงกลางจะเป็น ฟอร์เมชั่นรูปทรงไดม่อนนั่นเอง โดยที่เมื่อใดก็ตามที่วิงแบ็คดันขึ้นสูง ทั้งควิชาและโปเลนติโน่ก็จะหุบเข้าตรงกลาง จากนั้นถึงจะเริ่มกระบวนการ "การที่ผู้เล่นมากระจุกรวมตรงกลาง" ขึ้นนั่นเอง (ในคลิปจะอธิบายไว้ละเอียดครับ เค้าจะยกตัวอย่างแมทที่นาโปลีเจอกับยูเวนตุสไว้ หรือถ้าภาษาบ้านๆผมคือ มันวนกันตรงกลางจนผู้เล่นตรงข้ามหลุดตำแหน่งได้ง่ายๆเลย ทำให้เกิดช่องให้ผู้เล่นตัวรุกวิ่งสอดได้อย่างสนุกสนานเลยหล่ะ) ทำให้เห็นถึงเหตุผลว่าเพราะอะไรคอนเต้ถึงได้เลือกเปลี่ยนแทคติคดั้งเดิมของตนเอง เพราะการผสมผสานระหว่าง Target Man อย่างลูกากู เล่นคู่กับตัวสอดเข้าไปในกรอบเขตโทษอย่างแมคทอม เหล่านี้ทำให้ทั้งคู่ใช้ส่วนที่ทั้งคู่ถนัดได้ในทุกๆเกมส์การแข่งขันนั่นเอง
ของผมจะใช้ไรจ์การ์ด เพราะว่าเค้าเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวรับ และถอยลงมาเล่นเซนเตอร์ได้นั่นเองครับ

ตัวอย่างจำลองแผนของนาโปลีเมื่อกำลังทำเกมส์บุก มีการถอยมิดฟิลด์มาเป็นเซนเตอร์แบ็คแล้วดันวิงแบ๊คขึ้นไปดังเช่น individual setting ต่อไปนี้ครับ โดยผมจะให้แผนนี้เป็นแผนหลักของผม (Offensive) นะครับ ให้ทุกท่านมาร์กจุดนี้ไว้ด้วย

Spoil


 


การเคลื่อนที่ของแมคทอมคือมักจะถอยต่ำลงมาตำแหน่งแทนควิชา ในขณะที่ลูกากูมักจะไม่ค่อยขยับไปไหนแต่ใช้การที่เค้าเป็นเป้าของบอลที่จะมาถึงในแดนกลาง ใช้ร่างกายบังบอลแล้วส่งกลับไปให้เพื่อนที่เติมขึ้นมาแทน สองประตูต่อไปนี้ทำให้เห็นว่าระบบนี้เป็นอันตรายต่อคู่แข่งมากแค่ไหน , ลูกากูเก็บบอลไว้กับตัวรอให้เพื่อนวิ่งทะลุแนวรับไป นั่นเพราะว่าการกระจุกตัวในแดนกลางนี้ นาโปลีสามารถโจมตีพื้นที่ว่างระหว่างฟูลแบ็คกับกองหลังได้ เมื่อสามารถดึงคู่แข่งให้หลุดจากตำแหน่งได้แล้วเราก็ใช้การตักบอลข้ามหัวคู่ต่อสู้ไปที่ช่องว่างดังกล่าวเพื่อสร้างสรรค์โอกาสในการทำประตู ซึ่งนาโปลีทำได้บ่อยครั้งในฤดูกาลนี้
จะเห็นว่าผมใช้กองหน้าสองคนที่มีความเร็ว สูงใหญ่ เพื่อให้ไกล้เคียงกับแผนของนาโปลีครับ
ระบบนี้ช่วยทำให้ลูกากูเล่นได้ดีขึ้นซึ่งแตกต่างกับฤดูกาลก่อนหน้านั้น คือแทนที่จะเป็นเป้าหลักในการวางบอล ความสามารถของเขาที่สามารถ Hold ball ไว้กับตัว และคืนบอลให้ตัวที่จะวิ่งสอดเข้าไปหลังแนวรับคู่แข่ง ทำให้เจ้าตัวอาจจะทำประตูได้น้อยกว่าแอสซิสต์ซะอีก ใน ซีซั่นนี้ และเขายังคงทำได้ดีต่อเนื่องและอาจไปได้ถึง 11 แอสซิสต์เหมือนปีที่เค้าโชว์ฟอร์มได้ดีกับอินเตอร์มิลานอีกด้วย (แน่นอนปีนั้นเค้าอยู่กับคอนเต้), ผลงานการเข้าทำที่นาโปลี ณ ตอนนี้เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดจากทีมของคอนเต้จริงๆ การครอสซิ่งในหนึ่งเกมส์ลดลงอย่างเห็นได้ชัดถ้าเปรียบเทียบกับตอนคุมอินเตอร์มิลาน ในขณะที่การจ่ายบอลทะลุช่องและการจ่ายตัดหลัง เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในเกมส์การเล่นแทน แต่การวิเคราะห์แผนของคอนเต้ยังไม่จบ ถ้ายังไม่ได้พูดถึงเรื่องเกมส์รับของทีมที่ถ้าเกิดว่ารูปแบบเกมส์บุกยังไม่เข้าที่ ตามที่คาดไว้ เกมส์รับและเกมส์สวนกลับที่น่ากลัวก็ยังคงเป็นซิกเนเจอร์ประจำตัวของคอนเต้อยู่ดี

>>>เมื่อนาโปลีต้องตั้งรับ พวกเค้าจะเปลี่ยนฟอร์เมชั่นเป็น 5-3-2 อย่างรวดเร็ว โดยใช้โปเลตติโน่ขยับลงมาเป็นแบ็คขวา ส่วนดิลอเรนโซ่ขยับไปเล่นเป็นเซนเตอร์แบ็ค แมคทอม ลงมาปิดพื้นที่ตรงกลาง ร่วมกับอังกุซซ่ากับลาบอตก้า, นาโปลีไม่ใช่ทีมที่จะกดดันในแดนคู่แข่งตอนเสียบอล แต่จะใช้การเปลี่ยนฟอร์เมชั่นอย่างรวดเร็วนี้เพื่อตั้งรับโดยเน้นการตัดบอลด้วยแดนกลางนั่นเอง ขยับจากข้างนึงไปอีกข้างนึงทั้ง องคาพยพ เพื่อให้แน่ใจว่าคู่แข่งจะไม่สามารถจ่ายบอลได้ง่ายๆในแดนกลาง และทิ้งควิชากับลูกากูไว้แดนบนสำหรับเกมส์โต้กลับหากกองหลังแย่งบอลได้, สิ่งนี้ยังคงเป็นข้อได้เปรียบของทีมเนื่องจากคู่แข่งต้องทิ้งผู้เล่นไว้อย่างน้อย 3 คน เพื่อจะได้คอยแย่งคอยซ้อนหากบอลมาถึง2ตัวดังกล่าว และทำให้คู่แข่งยากที่จะทำเกมส์บุกด้วย เนื่องจากหลังดันขึ้นมาไม่ได้, เมื่อนาโปลีได้บอลกลับ พวกเค้าแค่ต้องพาบอลขึ้นไปข้างหน้า และจะมีควิชา ที่คอยถ่างออกข้างรอรับบอลอยู่ โดยมีลูกากูอยู่อีกฝั่ง และยังมีแมคทอมที่เติมขึ้นมาจากแดนกลางอีกด้วย

ตัวอย่าง การวางฟอร์เมชั่นขณะเกมส์รับครับ โดยจะใช้ซาเนตติ ลงมาเป็นเป็นเซนเตอร์แบ็ค กองกลางอย่างลาห์มลงมาเป็นเป็นฟูลแบ๊คและ กุลลิทก็ลงมาเล่นเป็นกองกลางคอยช่วยรับครับผม โดยผมจะให้แผนนี้เป็นแผนรองของผม (Sub-Tactic หรือ Defensive)ครับ
Spoil



*หมายเหตุ ซาเน็ตติสามารถเพิ่ม Ovr ตำแหน่งนี้ได้อีกนะครับ หาก Trained position  


*ผมเลือก Selection Contract จากกิจกรรมล่าสุดเป็น Oddo นะครับ เนื่องจากเจ้าตัวสามารถ Trained ให้เล่นตำแหน่ง CB ได้ สามารถสลับกันลงกับ Zanetti ได้ครับ


--------------------------------------------------------------------------------

วิดิโอต้นฉบับข้อความผมทั้งหมดครับ



สถิติ
ข้อมูลตอน D.4 เป็น D.3 ครับ เก็บสถิติได้ดังนี้ (นัดแรกที่ชนะ0-3เป็นแผน แอต.มาดริดที่ค้างมาจากกระทู้ที่แล้วครับ แต่นั่นแหละมันไม่เวิร์ค นัดที่เหลือเป็นแผนจากกระทู้นี้หมดเลย)

Document
Spoil


 


ข้อมูลตอนเล่นใน D.3 จำนวน12นัดครับ


Document
Spoil



 


*จุดโต้กลับแผนนี้ที่ผมเจอคือ การที่เราบุกอยู่แล้วอีกฝ่ายได้บอลคืน ถ้าเขาไม่ได้รีบส่งบอลไปแดนหน้าหรือรีบเลี้ยงไปแดนหน้า เขาจะเห็นช่องค่อนข้างง่าย แล้วเราก็แย่งหรือตัดบอลยากครับ พบได้ในทีม LBC ที่ไม่นิยมขึ้นเกมส์เร็วแบบ Quick counter ครับผม


คำถาม ข้อมูลแบบนี้ยากสุดตรงไหน
ตอบ สำหรับผมยากตอนที่ต้องมานั่งแปลที่ตัวเองจดทีละโยคครับ สกิลแปลภาษาอังกฤษผมประมาณนี้แหละแต่แกะลายมือตัวเองนี่แหละยากที่สุด 555 ส่วนอันที่รองลงมาคือการเอาแทคติคมาใส่ในเกมส์ครับ ว่าใครควรตำแหน่งไหน ใครเล่นตำแหน่งนอกเหนือตำแหน่งตัวเองได้บ้าง ผมเลยอยากยืนยันอีกครั้งว่าพวกนักเตะสารพัดประโยชน์นี่มีความจำเป็นมากจริงๆครับ

Document
Spoil




 


คำถาม แผนที่น่ากลัวที่สุดในปัจจุบัน
ตอบ Long ball counter ครับ เพราะไม่รู้ว่าเค้าจะบุกช้าหรือบุกเร็ว ไม่เหมือน QC ที่มั่นใจเลยว่ามาบุกใส่แน่ๆ

คำถาม มีคนเล่นแผนคล้ายๆนี้เยอะไหม
ตอบ ผมพึ่งเจอคนเดียวใน D.3 นะ เค้าใช้เกมส์รับ 5 ตัว แล้ววางกองหน้าริมเส้นไว้เพื่อการสวนกลับ ส่วนเวลาบุกปกติเค้าจะสลับมาอีกแผนนึง

คำถาม การสับเปลี่ยนแผนระหว่างเกมส์ ดียังไง
ตอบ ดีแน่นอนครับ เพราะคู่แข่งเค้าจะจับทางคุณลำบาก ยกเว้นว่าแข่งแบบกันเองแล้วจัดแผนเตรียมสู้ แต่อันนี้คือเรา random เจอผู้เล่นคนอื่นๆ ซึ่งยากมากที่จะแก้แผนทันในเวลาที่มีให้

คำถาม ความคิดเห็นเกี่ยวกับด้านแทคติคในเกมส์นี้
ตอบ ด้วยตัวเกมส์มันค่อนข้างเปิดโอกาสในการสร้างแทคติคได้หลากหลาย ฉะนั้นแทคติคของผมที่ลงในกระทู้นี้เป็นแค่เสี้ยวเดียวครับ ยังมีแทคติคมากมายที่รอให้ผมหรือเพื่อนๆไปค้นพบอีกเยอะ

คำถาม ไม่เสียดายเหรอ ถ้าเกิดมีคนเอาแทคติคไปใช้
ตอบ ตามข้อด้านบนเลยครับ ยิ่งเอาไปใช้แล้วได้ผลดี ผมยินดีด้วย และหากมีการต่อยอดให้มันดี ให้มันได้ผลกว่านี้ผมก็ยิ่งยินดีเข้าไปใหญ่

คำถาม ความรู้สึกหลังเขียนกระทู้นี้เสร็จ
ตอบ ดีใจมากครับ เพราะตั้งแต่เริ่มต้นคิดว่าจะเขียนยังไง จนเขียนเสร็จเนี่ย ชิ้นนี้ยากที่สุดละ แต่มันก็ทำให้ผมมั่นใจได้ว่าอันอื่นๆมันไม่น่าเกินมือแล้วแหละ


สุดท้ายแล้ว เพื่อนๆมีคำถามอะไรสงสัยในด้านแทคติคสอบถามได้เลยนะครับ หรือจุดไหนมันควรดีกว่านี้ เขียนบอกไว้ได้เลย เพื่อท่านอื่นเห็นว่าดีจะได้เอาไปปรับตามครับผม ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านมากๆครับ

แก้ไขล่าสุดโดย anupontatc เมื่อ Wed May 28, 2025 09:18, ทั้งหมด 5 ครั้ง
9
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel