ผมชอบซื้อหนังสือ ทั้งที่เป็นเล่ม ทั้งที่เป็น e-book มาอ่านครับ

ส่วนมากก็จะเป็นหนังสือแนวพัฒนาตัวเอง มีนิยายไทยบ้าง นิยายต่างประเทศแปลไทยบ้าง

พวกหนังสือนิยาย อ่านแล้วลืมก็ไม่เป็นไร เพราะตอนอ่านมันก็เพลินๆไปได้เรื่อยๆ

แต่หนังสือที่อ่านแล้ว อยากนำไปใช้ พวกหนังสือพัฒนาตัวเอง อ่านแล้วซัก 1-2 วัน ลืม

เคยดูคลิปพวกที่อ่านหนังสือหนักๆ เช่น พวกเด็กโอลิมปิควิชาการ พวกหมอ

เค้าบอก อ่านแล้วไม่พอ ต้องไฮไลท์ ไฮไลท์เสร็จก็มาอ่านที่ไฮไลท์อีกที แล้วก็ต้องเขียนด้วย

เคยคิดว่าจะลองทำ แต่ก็ขี้เกียจ แค่อ่านให้จบก็ขี้เกียจแล้ว

แต่ละท่าน ที่อ่านหนังสือประมาณนี้ ท่านจำกันได้มั้ยครับ

วิธีง่ายๆ คือ ใช้ความถึกครับ อ่านมันหลายๆรอบ อ่านรอบ 2 รอบ 3 เดี๋ยวก็จำได้เอง

ให้ AI สรุปให้

แต่ก็ขี้เกียจ >>> นี่คือตัวขัดขวางความจำเลยครับ

อ่านรอบแรกให้หมด
อ่านรอบสองโดยสรุปและทำความเช้าใจว่าเราเข้าใจเนื้อหาหรือไม่
ฝึกตั้งคำถามและหาคำตอบเนื้อหาภายในหนังสือครับ จะช่วยให้เรากลับไปทบทวนความจำของเราได้ สมองเราไม่ได้ลืมสิ่งที่เราอ่านนะครับ แค่เราไม่ได้ไปอ่านตรงส่วนนั้นก็อาจจะทำให้ลืมได้

ปกติผมจะอ่าน สรุปและฝึกตั้งคำถามบ่อยๆ ครับ จะได้ไม่ลืมเนื้อหา

"เคยคิดว่าจะลองทำ แต่ก็ขี้เกียจ แค่อ่านให้จบก็ขี้เกียจแล้ว"

ผมพูดตรงๆนะ ใจไม่ไหวแต่แรกอะครับ เทคนิคล้านแปดก็ช่วยไม่ไหว

เหมือนคำถามคลาสสิคอะ ตารางธาตุแค่ไม่กี่ธาตุจำไม่ได้ แต่ตารางผสมไอเทม Dota2 จำได้หมด จำได้ด้วยซ้ำว่าแต่ละชิ้นมีคุณสมบัติอะไร ตัวไหนต้องออกอะไร จำได้ยันตัวนี้สกิลทำอะไรได้ เพราะเราใส่ใจไง

คือถ้าใส่ใจได้ในระดับนั้น อ่านไม่กี่รอบก็จำได้แล้วครับ เทคนิคที่เหลือก็แค่ตัวประกอบ(แล้วแต่คนจะชอบ) แต่ใจต้องมาก่อน

จำได้แต่ระยะสั้นๆครับ พอเปลี่ยนไปเรื่องใหม่ซักพักลืมเรื่องเก่าละ

ขออนุญาตตอบในแบบเก็บความจำไว้ชั่วคราว 2-3 เดือน ไว้เพื่อสอบ

1.ผมจะหาช่วงเวลาที่ชาวบ้านเขาหลับ เป็นเวลาที่เงียบพอที่จะอ่านแบบมีสมาธิ

เงียบแบบไหน ผมอ่านเที่ยงคืน-ตี2 ช่วงที่ชาวบ้านแถวนั้นหลับกันหมด ไม่อ่าน ศุกร์-อาทิตย์ เพราะบางบ้านแม่ง

ดื่มกันยันหว่าง

2.อ่านรอบแรกผ่านๆแต่พอจับสาระสำคัญได้ รอบ2 ไฮไลท์Topicที่สำคัญ

3.อ่านซ้ำๆทุกวันที่ไฮไลท์ไว้ หลักการผมคือ ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เป็นเวลาเท่าไหร่

4.นอนให้พอก่อนสอบ ตื่นมาดื่มกาแฟเข้มๆ พร้อมที่จะไปสอบวันที่สอบ (เพราะเคยสอบแล้วง่วงความง่วงมัน

ทำให้สมองผมเบลอคิดอะไรไม่ออก ลืมไปหมด)

5. อยากจะบอกว่าเวลาผมไปสอบ สอบผ่านเข้าสัมภาษณ์สุดท้ายแม่งเอาพวกตัวเอง(ส่วนตัวทุกที่เลยที่เจอ แต่

คนอื่นอาจจะมีที่สอบได้นะ)ถามว่ารู้ได้ไง ผมดูโครงสร้างของหน่วยงาน แม่งเป็นคนในหน่วยงานนั้นๆหรือ

นามสกุลเดียวกัน(เดาว่าเป็นญาติพี่น้องลูกหลาน) ถึงขนาดสอบผ่านแต่มันเอากระดาษคำตอบไปแก้ ไปลบให้ไม่

ผ่านก็เคยมาแล้ว

6.สุดท้ายผมหมดศรัทธา หมดแรงอ่านหนังสือเรื่องไปสอบแข่งขัน

อ่านซ้ำครับ ไม่ก็ตั้งใจอ่านแล้วอ่านเวลาเดิมเป็นประจำ

เคยอ่านกิจวัตรประจำวันของ บารัค โอบาม่า แกอ่านหนังสือก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน

แสดงว่ามันไม่มีอะไรน่าจะจำสำหรับเรา โยนทิ้งไป

ผมใช้วิธี อ่านแล้วเขียนไปด้วย เขียนนี่คือเขียนทุกตัว
ตอนเรียนมหาลัยเกรดแบบอย่างแย่ เลยต้องทำอะไรสักอย่างกับตัวเอง ผมใช้วิธีนี้การเรียนดีขึ้นเป็นกอง แต่เหนื่อย 555

แต่ล่ะคนมีรูปแบบการจำไม่เหมือนกัน

คนที่อ่านหนังสือแล้วจำไม่ได้ อาจเพราะไม่ได้โฟกัส หรือ ไม่เหมาะการอ่านแล้วจำ

อย่างผมการอ่าน ไม่ว่าหนังสือ หรือ นิยาย ผมมีรูปแบบการสร้างภาพในหัว

ยิ่งอ่านพวกหนังสือเกี่ยวประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ผมจะเก็ตพวกนี้ไว เหมือนเวลาอ่านพวกนี้

จะมีภาพประกอบในหัว สุดท้ายเราแค่หาวิธีที่เราจำ แล้วเหมาะกะตัวเรา

ในความเข้าใจผม
1.อ่านแล้วต้องมีการตกผลึก เราได้อะไรจากหนังสือนี้
2.การนำเอาสิ่งที่ไปใช้ ไม่ใช่ just อ่านจบๆไป
3.บันทึกค.เข้าใจ ในสมองที่2 เพื่อกลับมาทบทวน

อ่านแล้วไปสอนหรือติวให้คนอื่นครับ

ท่านไม่ได้อ่านเตรียมสอบ ผมก็คงตอบว่า "อย่าคาดหวังว่าจะได้อะไรทั้งหมดจากหนังสือในทันทีครับ"

เลือกแค่อันที่รู้สึกสปาร์คกับมันไปใช้ก็พอ เช่น ตื่นเช้ามาเขียนไดอารี่ด้านความรู้สึกทุกวัน

พอทำไปสักพัก ท่านจะเริ่ม remind ถึงเนื้อหาส่วนอื่นครับ แล้วท่านก็จะค่อย ๆ หยิบมาใช้พัฒนาตัวเอง

สุดท้ายนี้ อย่าไปคาดหวังจะพัฒนาตัวเองได้ทันทีจากการอ่านหนังสือพัฒนาตัวเองครับ จริง ๆ แล้วหนังสือแนวนี้มันแทบไม่พัฒนาท่านโดยตรงเลยครับ (โดยเฉพาะของนักเขียนญี่ปุ่นที่ชอบเขียนสั้น ๆ กระชับเกินไป) มองมันเป็น "สิ่งเตือนใจ" ดีกว่า

Recall ครับ หลักการจำให้ได้ คือ ต้องนั่งนึกว่าสิ่งที่ต้องจำคืออะไร เหมือนคนใช้ flashcard ถ้าถาม A ให้นึกถึง B ต้องทวนย้ำๆหลายรอบ ยิ่งอันไหนจำยากต้องท่องซ้ำ

ผมคิดว่านักเรียนแพทย์หลายคนใช้วิธีนี้