เป้เบิ้ลตุง 31! มาดริดส่งท้าย 2-0 อำลา 'โมดริช' น้ำตาซึม
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เรอัล มาดริด ปิดฉากฤดูกาล 2024-25 ด้วยผลงานชนะเรอัล โซเซียดาด 2-0 คิลิยัน เอ็มบัปเป้ เหมาทำคนเดียว 2 ประตู ทำให้ยอดสะสมทำโด่งจ่อเป็นดาวซัลโวลาลีกา ที่ 31 ประตู ขณะที่ท้ายเกมมีโมเมนท์น่าประทับใจ เพื่อนร่วมทีม คู่แข่ง ครอบครัว และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โทนี่ โครส มายืนสดุดีส่งตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของสโมสรอยู่ที่ข้างสนามอย่างยิ่งใหญ่
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
14.
ออเรลิยอง ชูอาเมนี่
55'
7
17.
ลูคัส บาซเกซ
77'
7
10.
ลูก้า โมดริช
87'
7
21.
บราฮิม ดิอาซ
55'
6.5
ตัวสำรอง
30.
กอนซาโล่ การ์เซีย
77'
6
7.
วินิซิอุส จุเนียร์
55'
7
78.
เฆซุส บาเญโฆ่
55'
6
36.
เคม่า อันเดรส
87'
6
ลาลีกา สเปน
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2568
กรรมการ มาริโอ เมเลโร่
เรอัล มาดริด
2
0
เรอัล โซเซียดาด
1-0 เอ็มบัปเป้ 38'
2-0 เอ็มบัปเป้ 83'
เรอัล มาดริด ลงเล่นนัดปิดฤดูกาลต่อหน้าแฟนบอลในบ้านตัวเอง โดยทีมการันตีจบอันดับ 2 แน่นอนแล้ว ดังนั้นเกมนี้จึงเหลือเพียงแค่โมเมนท์ร่วมอำลาสโมสรอย่าง ตำนาน คาร์โล อันเชลอตติ,ลูก้า โมดริช และลูคัส บาซเกซ ขณะที่ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ กำลังคั่วรางวัลดาวซัลโวในลาลีกาและยุโรป
โซเซียดาดมีลุ้นทักทายก่อนเลย
โอกาสทองของโซเซียดาดจาก โกเมซ ที่หลุดทางซ้าย พยายามยิงกะให้ผ่านมือลูนิน แต่ไม่สำเร็จ
ปธ.เป้ทำชิ่งยิงเบิดข้ามคาน
มาดริด ที่ครองบอลเหนือกว่าเยอะ น่านำก่อนจากเอ็มบัปเป้ ทำชิ่งกับกูแลร์ หลุดเข้าไปซัดข้ามคานน่าเสียดาย
อเซนซิโอซัดไกลก็ถูกเซฟ
มาดริด มีโอกาสทองอีกครั้งจาก อเซนซิโอ ซัดนอกกรอบ แต่ผู้รักษาประตู มาร์เรโร่ ยังยอดเยี่ยม พุ่งตามไปปัดบอลไว้ได้ทัน
ซูซิชหลุดยิงถากเสาออกหลังน่าเสียดาย
โซเซียดาด มีโอกาสโต้กลับเร็ว บอลไปจบที่ซูซิช ยิงผ่านมือลูนินได้แล้ว แต่ลูกมันไม่ตรงกรอบวิ่งหลุดเสาไกลออกหลัง
ปธ.เป้ยิงตามน้ำก็ถูกเซฟอีก
มาร์เรโร่ วันนี้ก็เหนียวหนึบ ตามไปปัดลูกยิงตามน้ำของเอ็มบัปเป้ได้ทันอีก
VAR ย้อนหลังให้จุดโทษมาดริด
ผู้ตัดสินหลุดเกมเพื่อออกไปเช็ค VAR ก่อนกลับมาเป่าให้มาดริดได้จุดโทษ จังหวะกูแลร์ถูกทำแฮนด์บอลในกรอบ
ปธ.เป้ซัดโทษพลาด แต่ตามซ้ำแก้ตัว 1-0
เอ็มบัปเป้ รับหน้าที่สังหารยิงไปติดเซฟมาร์เรโร่ แต่บอลมันไม่ไปไหนกระดอนออกมาให้หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสซ้ำจ่อๆ เข้าไปอีก 1-0
ครึ่งหลัง โซเซียดาดได้ลุ้นก่อนอีกแล้ว
ครึ่งหลัง โซเซียดาด ได้ลุ้นก่อนจากโอกาสของ มาเรียซคูร์เรน่า ได้บอลหลุดทางซ้ายก่อนยิงไปแฉลบกองหลังเรอัล มาดริด ออกหลังไปนิดเดียว
ดิอาซเจ็บเปลี่ยนวินิเล่นแทน
เรอัล มาดริด ต้องเปลี่ยนตัวคนแรก ดิอาซ เจ็บต้องออกให้ วินิซิอุส จูเนียร์ เล่นแทน และ บาเญโฆ่ เล่แทนชูอาเมนี่
วินิพยายามชิปยิงมุมแคบไม่สำเร็จ
เอ็มบัปเป้ จ่ายบอลให้วินิซิอุสที่วิ่งอ้อมหลังมา พยายามจะชิบบอลมุมแคบผ่านมือมาร์เรโร่ แต่ไม่สำเร็จ
เกมโซเซียดาดดูดีขึ้น
เข้าช่วง 15 นาทีสุดท้าย เกมของ โซเซียดาด ดีขึ้นหลังเปลี่ยนตัวหลักลงสนามหลายคน พวกเขาพยายามเต็มที่ยังตีเสมอมาดริดไม่ได้
มาร์เรโร่ซูเปอร์เซฟลูกยิงเอ็มบัปเป้
เอ็มบัปเป้อันตรายอีกครั้งจากลูกยิงไกลคมกริบ แต่มาร์เรโร่ ก็เหนียวจับใจพุ่งตามไปเซฟที่โคนเสาได้อีก
วินิจ่ายให้ปธ.เป้บวกเพิ่ม 2-0
สกอร์ขยับเป็น 2-0 จากการประสานงานอีกครั้งของวินิซิอุส ที่จ่ายบอลให้เฮ้มบัปเป้ วิ่งตามช่องได้ซัดมุมแคบผ่านมือมาร์เรร่เข้าไป
เป็นประตูที่ 31 ในลาลีกา นำโด่งดาวซัลโวห่างเลวานดอฟสกี้ถึง 6 ประตู
เสียงกึกก้อง แฟนๆสดุดีโมเมนท์สุดท้ายให้โมดริช
ตามธรรมเนียม มาดริดเปลี่ยน โมดริช ออกจากสนามให้แฟนๆในเบร์นาเบวได้สแตนดิ้ง โอเวชั่น
ขณะที่เพื่อนร่วมทีม คู่แข่ง ครอบครัว และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โทนี่ โครส มายืนสดุดีส่งตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของสโมสรอยู่ที่ข้างสนามอย่างยิ่งใหญ่
หมดเวลาการแข่งขัน เรอัล มาดริด ปิดฤดูกาลเอาชนะเรอัล โซเซียดาด 2-0 พร้อมโมเมนท์อำลาสโมสรของตำนานลูก้า โมดริช
เรอัล โซเซียดาด
Starting Formation: 4-4-2
22.
เบนัต ตูร์ริเอนเตส
70'
6
28.
ปาโบล มาริน
46'
5.5
17.
เซร์คิโอ โกเมซ
71'
7
40.
อาร์คาอิตซ์ มาเรียซคูร์เรน่า
71'
6.5
ตัวสำรอง
16.
จอน อังเดร์ โอลาซากาสติ
46'
6
7.
อังเดร์ บาร์เรเนเซีย
71'
6
10.
มิเกล โอยาร์ซาบัล
71'
6
4.
มาร์ติน ซูบิเมนดี้
70'
6
แก้ไขล่าสุดโดย iPanic เมื่อ Sat May 24, 2025 23:45, ทั้งหมด 15 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker