(ทัณฑ์บนครั้งที่ 1)
คอมเมนเตเตอร์
Status: ❤MINMIN❤●LISA●✚RYUJIN✚ ✿MINNIE✿★MINJI★ ♛CHIQUITA♛

: 18 ใบ

: 1 ใบ
เข้าร่วม: 07 Jul 2024
ตอบ: 1607
ที่อยู่: Major Cay Island
โพสเมื่อ: Thu May 22, 2025 21:30
- พ่อที่ยอมแลกทุกอย่าง เพื่อความฝันของลูกชาย -
คุณพ่อที่ยอมแลกทุกอย่าง เพื่อปูทางสู่ความฝันของลูกชาย
ซน วูง จอง เกิดในครอบครัวที่ยากจน เขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก เพื่อเข้าศึกษาที่โรงเรียนที่ขึ้นชื่อเรื่องฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่เขาหลงรัก และอยากให้เป็นอาชีพติดตัว อย่างไรก็ตาม เส้นทางลูกหนังของเขา ต้องจบลงในวัยเพียงแค่ 28 ปี หลังจากโดนอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายเล่นงาน
“ผมเป็นนักเตะที่ไม่เก่งมาก เคยมีคนบอกว่า ฝีเท้าของผมเหมือนนักเตะระดับดิวิชั่น 3-4 นั่นคือคำอธิบายที่ชัดเจนมาก ในฐานะนักฟุตบอลของผม” ซน วูง จอง กล่าวต่อ โดยเขาไม่ล่วงรู้เลยว่า ท่ามกลางความฝันที่แตกสลาย ลูกชายของเขากำลังกลายเป็นนักเตะสายเลือดเอเชีย ที่หลายคนยกย่องว่าเก่งสุดตลอดกาล
“ฟุตบอลคือเรื่องของลูกฟุตบอล ดังนั้น นักกีฬาควรจะเรียนรู้วิธีจับบอล ตั้งแต่เริ่มเล่นเลย” ซน วูง จอง กล่าวถึงจุดเริ่มต้น ในการสอนลูกชายเล่นฟุตบอล โดยย้ำไปที่ความสำคัญของทักษะพื้นฐานที่มั่นคง ในช่วงวัยเด็ก มากกว่าจะมาหัดกันในช่วงที่เป็นผู้ใหญ่
“ลองนึกภาพตาม หากคุณลองให้นักเรียนประถมปีที่ 2-3 กับผู้ใหญ่ เริ่มมาฝึกซ้อมกับลูกฟุตบอล บางที เด็กอาจทำได้ 1-2 วัน ส่วนผู้ใหญ่ อาจทำไม่ได้ แม้ว่าจะได้รับเวลา 1 สัปดาห์เต็ม”
นอกจากการเรียนรู้ทักษะฟุตบอล ตั้งแต่เนิ่นๆ ซน วูง จอง ยังเน้นถึงความสำคัญของการฝึกซ้อมอีกด้วย เขาเชื่อเสมอว่า การฝึกซ้อมที่เข้มข้น และแบบทดสอบที่จริงจัง ทำให้การบรรลุความฝันมีความเป็นไปได้
“คุณต้องเล่นบอลแบบซ้ำไปซ้ำมา เพื่อคุณจะได้คุ้นเคย และรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมัน ผมบอกลูกชายเสมอว่า การฝึกซ้อมคือคุณครูที่ดีที่สุด”
ซน วูง จอง ตั้งใจพัฒนาทักษะการเล่นฟุตบอลของลูกชายต่อไป โดยไม่สนใจเลยว่า นี่คือกีฬาที่เขาเคยล้มเหลวมาก่อนในอดีต เมื่อมีความคิด หรือแนวการสอนดีๆเข้ามาในหัว เขาจะรีบจดบันทึกใส่สมุดทันที เพื่อนำไปถ่ายทอดให้ลูกชาย
กระทั่งลูกชายอยู่ประถม 3 นั่นเป็นครั้งแรกที่ ซน วูง จอง ได้ยินจากปากว่า ลูกฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ โดยเขากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เราอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เมื่อลูกชายของผมบอกว่า เขาอยากจะเป็นนักเตะอาชีพ"
"เพราะผมอยู่ในช่วงการเงินที่ขัดสนเอามากๆ แถมชุมชนที่เราอาศัยอยู่นั้น ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา ดังนั้น ในช่วงฤดูหนาว จึงมีหิมะ และสายลมที่พัดแรงเอามากๆ ฤดูกาลเหล่านั้น เต็มไปด้วยความยากลำบาก”
จากการต้องเลิกเล่นฟุตบอล ด้วยวัยไม่มาก ทำให้เขาต้องทำทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อส่งลูกชายถึงฝั่งฝันแห่งลูกหนังแทน ตั้งแต่การเป็นคนงานในไซต์ก่อสร้าง เพื่อแลกค่าเหนื่อยแบบรายวัน รวมถึงรับงานเสริมเป็นเทรนเนอร์ฟิตเนส ที่แทรกตัวอยู่ในยิมของชุมชน เพื่อหาเลี้ยงชีพ ในฐานะผู้นำของครอบครัว
เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกชาย ซน วูง จอง ต้องตื่นนอนแต่เช้า เพื่อไล่เก็บก้อนหินเล็กๆ ออกจากสนามเด็กเล่นของโรงเรียน เพื่อที่ลูกชายจะได้ไม่บาดเจ็บ เมื่อหกล้มกับพื้น
นอกจากนี้ เขายังลงมือปรับสภาพหน้าดินของสนามโรงเรียน เพื่อให้มีสภาพที่พร้อมต่อการฝึกซ้อมกันทุกวัน โดยดินจะต้องไม่แห้งในฤดูร้อน และไม่แข็งตัวในฤดูหนาว แม้แต่ในวันที่หิมะโปรยปรายลงมา เขาจะตักหิมะออกด้วยตัวเอง เพื่อให้ลูกชายสามารถฝึกเลี้ยงบอล และออกกำลังกายได้
กุญแจสำคัญที่ ซน วูง จอง สอนลูกชาย คือการเน้นเบสิคพื้นฐานให้แน่นที่สุด และไม่ส่งเข้ารายการแข่งขันก่อนเวลาอันควร เพราะเขาเชื่อว่า การแข่งขันที่เร่งเร้า อาจเป็นตัวขัดขวางพัฒนาการ
“นักเตะเหล่านี้ ถูกผลักดันให้แข่งขันอย่างดุเดือด พร้อมกับผลักดันร่างกายของพวกเขาให้ถึงขีดสุด พวกเขาลงเอยด้วยการหมดแรงก่อนวัยอันควร และต้องยุติอาชีพการเล่นของพวกเขา ก่อนที่จะถึงจุดสูงสุด ผมคิดว่านั่นคือปัญหาใหญ่ที่สุด”
เมล็ดพันธุ์ที่ซน วูง จอง หว่านลงไปบนผืนหญ้า เติบโตอย่างกล้าแกร่งเป็นที่เรียบร้อย และเมล็ดพันธุ์นั้นมีชื่อว่า “ซน ฮึง มิน”
https://www.facebook.com/share/p/1C2i1v5JZd/?
แก้ไขล่าสุดโดย น้ำแข็งใสราดน้ำแดง เมื่อ Thu May 22, 2025 21:36, ทั้งหมด 3 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
M A N C H E S T E R U N I T E D