แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 02 Dec 2009
ตอบ: 8518
ที่อยู่: Bangkok
โพสเมื่อ: Thu May 22, 2025 21:18
Jackie : แมนยูไนเต็ดผู้ล้มเหลว
คำว่า “เสียหายหลายแสน” คงไม่พอ
ต้องเสียหายหลายร้อยล้าน!!!
สำหรับการพลาดแชมป์ ยรป ของ “ปีศาจแดง”
ช่วงกลางวันหุ้น MANU ตกไป6%
ตอนนี้ดีดมาบ้าง $14.54 ถ้ารวมทั้งซีซั่น -13%
จากที่เคยสูงสุด $26.3 เมื่อปี2023
ข้อมูลจาก คุณนฤดล วรรณรัตน์
ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายธุรกิจหลักทรัพย์
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
แน่นอน ความล้มเหลวในสนาม ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
มีแต่เสีย ไม่มีได้ ….
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียอะไรบ้าง…
ผมสังเคราะห์ให้ครับ
1 เม็ดเงินหาย 4,500 ล้านบาท
ที่คาดกันว่า ถ้าไป ชปล ปีหน้ารับเนื้อๆ £70-100 ล้าน
เงินก้อนนี้ สเปอร์สได้ไปแทน
ขี้สุกร ขี้สุนัข ต่อให้ไก่แพ้หมดตกรอบ ชปล
ก็ยังได้เงินถึง £70 ล้าน!!!!
ดังนั้นเงินกว่า 4,500 ล้านบาท(£100 ล้าน)
จากลิขสิทธิ์TV,ตั๋วนัดเหย้า, โบนัส,เงินรางวัล
+ รายได้แมตช์เดย์ (อาหาร,ดื่ม,ของที่ระลึก..)
ยิ่งคู่แข่งทีมตัวทอปยุโรปมาเยือน เงินยิ่งเยอะ
แค่ค่าตั๋วแมตช์ A class มีระดับ £90-100
ขนาดวิลล่า-บาเยิร์น ปีนี้ ไปถึง £97 !!!!!!
เงินก้อนโตก้อนใหญ่นี้…. ของ “ปีศาจแดง”
สูญสิ้น….
2 สิทธิประโยชน์…ลดลง
การพลาดไป ชปล ตามสัญญา Adidas
โดนตัด £10ล้าน….ซีซั่น2025-26 ก่อน
ไม่แน่ชัดว่า…Qualcomm £60 ล้าน/ปี
DXC £20ล้าน/ปี ,Texos £20 ล้าน/ปี
มีเงื่อนไขนี้มั้ย….ผมคิดว่าไม่มี
3 ส่วนที่ได้
เงินโบนัสแชมป์ ที่มีเงื่อนไขให้นักเตะด้วย
ถ้าแชมป์ นักเตะในทีมรวมๆได้ 25%
ซีซั่น2023-24 ค่าจ้างรวมลดลง 12%
เพราะโบนัสหายไปจาก £185ล้าน เหลือ £163 ล้าน
คือไม่ได้แชมป์ เงินก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
ดังนั้นเงิน…ที่ต้องจ่ายถ้าได้แชมป์
ไม่ต้องจ่ายยย
ดูแล้วอนาคต ซีซั่นหน้า แมนฯยูไนเต็ด เหนื่อย
ถ้าอยากได้นักเตะใหม่ ก็ต้องขายที่มีอยู่
งบการเงิน PSR ของPL ทะลุแล้ววว
รูเบน อโมริม บอกว่า…
“ชปล สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง
ถ้าคุณอยู่ในการแข่งขัน ชปล คุณจะได้งบเพิ่ม
เพื่อทำให้ทีมที่ดีกว่าในซีซั่นต่อไป“
มันมีตัวเลขการขาดทุน 5 ซีซั่นของแมนฯยูฯ
£370 ล้าน การไม่ได้ไป ชปล คงคิดลบอีก
เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ น่าจะเครียดดดหนัก
เอาไงดี… จะตัดเงินส่วนไหนอีก
ณ จุดนี้ “ปีศาจแดง” กำลังสูญเสียหลายสิ่งอย่าง
รายได้, โฆษณา, สิทธิประโยชน์, มูลค่าสโมสร…
จากความล้มเหลวเรื่องถ้วยและบอลภายใน
สิ่งที่น่ากลัวกว่า “รายได้” ที่หายไป
มาจากสิ่งที่เรามองไม่เห็นแต่สัมผัสได้
นั่นคือ branding หรือยี่ห้อแมนฯยูไนเต็ด
ยิ่งล้มเหลว แบรนด์ยิ่งอ่อนตัว
ยิ่งจะทำให้มูลค่าทีมค่อยๆลดลง
ถ้ายังไม่กลับมาเป็นทีมแถวหน้าของวงการ
วนเวียนแต่กลางตารางหรือใกล้โซนตกชั้น
ภายใน2-3 ปีนี้ การเจรจาสิทธิประโยชน์ต่างๆ
จะยิ่งน้อยลงไปจากเดิม
กระนััน…
ผมไม่เชื่อว่า branding แมนฯยูฯ จะอ่อน
ผมยังเชื่อในความเป็นManchester United
ขอแค่ “เวลา” ในการฟื้นฟูทีมกลับมา
แค่… The Red Devils ต้องอดทน
อดทน…อดทน…และอดทน
ต่อการถากถาง เยาะเย้ย เสึยดสี
เพื่อรอ วันนั้น….จะกลับมาเป็นวันของเรา
ชนะแล้ว เคยยิ่งใหญ่มาแล้ว
ก็ต้องแพ้ให้เป็น
ไม่มีใครหนีกฏธรรมชาตินี้ได้ครับ
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ