https://www.facebook.com/share/p/198dBFtm47/?mibextid=wwXIfr



ค่อนข้างแตกต่างกับ เอดู นะที่พอพลาดเป้าหมายแล้วค่อยไปคุยแพลนบี
รอชมฝีมือแล้วกัน แต่ที่แน่ๆรอบนี้ไม่ต้องลุ้นปิ้งย่างบาร์บีคิวกับไส้กรอกแล้ว

อยากมี DOF เก่งๆ บ้าง

มันก็ควรเปนแบบนี้แต่แรกหรือเปล่า คือถ้าจะซื้อตัวรุกซักคน แล้วทีมไม่ใช่ บาร์ซ่า มาดริด(ผมว่าต่อให้เปนสองทีมนี้ก็คงมีเป้าสำรอง) มันก็ควรจะมีตัวเลือกที่หลากหลาย ไม่ใช่พุ่งไปที่นักเตะคนๆเดียวแล้วหวังว่าการเจรจาจะสำเร็จ ทุกคนจะเห็นด้วย และนักเตะจะย้ายเข้ามาในทีม

ถ้าผิดแผนก็ค่อยไปเริ่มแพลนบีใหม่ แล้วถ้าไม่เวิร์คอีกไปแพลนซี ทำแบบนี้มันอาจจะไม่ทันตลาดซื้อขายเสมอไปก็ได้นะครับ เพราะไอตัวรุกที่ปืนอยากได้ มันก็อาจจะมีทีมอื่นเขาก็อยากได้ด้วยเช่นกัน ทำแบบนี้เหมือนลดอำนาจการต่อรองทีมตัวเองเปล่าๆในมุมคนนอกนะ

งี้ไม่แปลกใจละที่ดึง สเตอลิ่ง มาแก้ขัด ผมโคตรงงเลยตอนนั้น ถึงว่าเพราะมันไม่ทันนึ่เอง แต่ไม่เปนไรมันหมดยุค เอดู ไปละ เริ่มกันใหม่วิธีนี้ผมว่าเวิร์ค คุยหว่านไปก่อนเลยพวกตัวรุกที่สนใจ เข้ากับระบบต้า และมีแนวโน้มที่จะย้ายเข้ามาสู่ทีม คือไม่ได้บอกว่าแบบเดิมของ เอดู มันผิดนะครับ แค่ขั้นตอนมันอาจจะช้าไปนิดโดยไม่จำเป็นเท่าไหร่

โอเคถ้าได้เป้าหมายเบอร์ 1 เลยก็ดีไป แต่ถ้าไม่ได้ขึ้นมาก็จะได้ไม่ต้องไปนับหนึ่งเริ่มคุยกับเป้าหมายเบอร์ 2 ใหม่อีกรอบ อย่างน้อยๆหว่านไปก่อนให้รู้ข้อมูลต่างๆพวกค่าตัว ค่าเหนื่อย โอกาสที่จะย้ายทีม รวมไปถึงความต้องการของนักเตะ เช่นเคสโก้ขอคุยกับ อลองโซ่ ก่อน อะไรแบบนั้น มันน่าจะทันกับตลาดซื้อขายนักเตะในยุคนี้ที่ทุกอย่างมันแข่งขันสูง และเร็วมากๆ ยิ่งมีโซเชียลไว้กระจายข่าวอีก ทีมอื่นๆเขาก็ยิ่งรีบ ถ้าไปช้าอาจจะพลาดเป้าก็ได้ ทีมก็เสริมได้ไม่ครบองค์ซะที แบบ แบร์ต้า ดีแล้วครับผมว่า

แบบนี้ดีกว่ามาก ครอบคลุมป้องกันข้อผิดพลาดได้ดีกว่าเอดู ถ้านักเตะมีใจด้วยจะได้รู้ตัวชะลอไม่ย้ายไปทีมอื่นซะก่อนต่อให้ตัวเองจะไม่ได้เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ

เอดูดีลแต่ละคนไม่บราซิลก็เด็กเก่าต้า

รู้สึกได้ถึงความสบายใจมากกว่าเอดูนะ เพลน ABC มันกินเวลาไปมาก จนได้สตอริ่งมานี่แหละ แลกกับการปล่อยเนลสัน+วิเอร่าออกไป กลายเป็นลด Squad Dept ตัวเองไปเฉยๆ เปิดฤดูกาลมา รู้เลยว่าไม่พร้อม