ถ้าให้จัดระเบียบ ให้โปร่งใสขาวสะอาด คิดว่าวงการไหนทำยากกว่ากันครับ

ฉง

เอาเขียวใส่ไปด้วยอีกทีม

สีส้ม เป็นหนึ่งในสถาบันหลักเลย

ตอบแบบคนวัย 60+ ที่ผมได้พบเจอ "มันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง" = แก้ไม่ได้และ/หรือไม่อยากแก้

ผลประโยชน์มันโยงกันหมดอะ รวมวงการการเมืองไปด้วย วนกันอยู่

ทั้งหมดครับ ทุกวงการที่บอกให้แก้ไขโครงสร้างแล้วผู้มีอำนาจได้แต่นั่งตีมึน ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับปัญหา มีให้เกิดซ้ำๆซากๆแบบนี้ ยากหมดทุกวงการครับ ไม่ต้องไปเทียบเลย

ผมให้แครอทยากกว่าชาวบ้านตามต่างจังหวัดโดนล้างสมองไปหมดแล้ว แตะนิดหน่อยก็อ้างบาปกรรม สีกากีคนทั่วไปยังเห็นตรงกันหมดว่าควรมีการปฏิรูป

ไม่ไม่ใช่แค่นั้นหรอก ประชาชนทั่วไปก็ส่วนหนึ่ง อยากทำบุญแต่ไม่อยากซื้ออาหาร ซื้อของก็ถวายเงินแล้วกันง่ายดี
อยากติดต่องานราชการแต่อยากลัดคิว อยากรวดเร็ว อยากได้งานจากรัฐ ก็ขอยัดเงิน ไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายไม่ผิดที่รับเงินนะ แต่มันผิดทั้งหมดอ่ะ จะแก้ก็แก้ยาก

พระแน่นอน เรื่องความเชื่อทำคนเป็นบ้าได้

ความยากเนื่องจากมีอำนาจ
ศาล>เขียว>กากี>แครอท
คหสต

สีกากี ยังพอที่จะตรวจสอบได้ มีหน่วยงานตรวจสอบ มีระเบียบกฏหมายกำกับไว้

แต่วงการแครอท นี่แทบจะแตะต้องไม่ได้เลย

แค่เรื่องรายงานรายได้ของวัด ยังไม่มี กม. ควบคุมเลย แค่ขอความร่วมมือ

วงการโล้นนี่แหละ พวกเ-ี่ยนบุญเยอะ แตะต้องไม่ได้ อกจะแตกตาย

สีส้มยากกว่า ก่อนอื่นต้องเข้าใจรูปแบบปัญหาก่อนนะ คือ พระที่เราเห็นๆกันจะมี 2 สาย มีคณะของตัวเองแยกกันดูแล
1. มหานิกาย คือ หีนยาน+ความเชื่อท้องถิ่น << มีมาแต่โบราณ, 90%ของพระทั้งหมด, เน้นพิธีกรรม/ทำบุญ/ชาติปัจจุบัน แม้จะอ้างเรื่องนิพพานบ้างแต่ไม่เน้น จะเน้นเรื่องทางโลกมากกว่า, ให้ความสำคัญกับสมาธิมากกว่าปัญญา, รับกิจนิมนต์ ที่ดังๆมีตอนนี้เช่น ท่านพุทธทาส, วัดไร่ขิง, หลวงปู่ศิลา, ว.วชิระเมธี, พระพยอม, พระมหาสมปอง เป็นต้น

2. ธรรมยุต คือ หีนยานที่ถูกเอามาติดตั้งใหม่ช่วง ร3-ร4 << เพิ่งมีไม่นาน, 10%ของพระทั้งหมด, เน้นการปฎิบัติวิปัสสนาไปสู่นิพพาน ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับทางโลก, พูดถึงปัญญามากกว่าอีกสาย, ไม่รับกิจนิมนต์ ที่ดังๆเช่น สายหลวงปู่มั่น, สายหลวงตามหาบัว, หลวงพ่อชา เป็นต้น

และที่เราเห็นกันว่าเป็นปัญหาส่วนใหญ่มันอยู่ในสาย มหานิกาย ทั้งด้วยจำนวนด้วยและด้วยรูปแบบการสอนที่มันใกล้ฆราวาสมากกว่าด้วย ซึ่งการที่ร.3-ร.4 ตั้งสายใหม่ขึ้นมาก็แสดงว่าเห็นปัญหาเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ผลมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว

ปัญหาสายสีส้มตอนนี้มันไม่ได้เพิ่งเกิด และไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆแค่จากตัวพระ แต่มันคือสังคมโดยรวม ความเชื่อพื้นฐานของภูมิภาคเรามันแค่ถูกแปรรูปไปเป็น มหานิกาย(เปลือกเป็นพุทธแต่เนื้อในคือความเชื่อท้องถิ่นเรื่องผี/ขวัญ) เราก็เลยผลัก demand ในการจัดการผี/โชคลาภ/แก้ดวง ให้ไปอยู่ใต้พรม กลายเป็นธุรกิจสีเทาของวงการสงฆ์

ผมมองว่าในเมื่อสังคม/ความเชื่อคนไทยมันเป็นแบบนี้ก็ต้องยอมรับมันอ่ะ ไม่ต้องไปดัจริตหาพุทธแท้ แล้วทำกฏหมายควบคุม ให้มองพระเป็นอาชีพนึงที่ให้บริการเรื่องจิตวิญญาณ

ถ้าสังคมยอมรับตัวเองเรื่องนี้ได้ปัญหาถึงจะเริ่มตั้งต้นแก้อะไรได้จริงๆ

ยากคนละแบบ 5555




ว่าไปแล้ว อะไรที่มันใช้เงินสด .. มันก็ตรวจยากจริงๆ


สีส้ม ก็หยอดตู้ ทำบุญ ซะเยอะ (แม้ว่าจะอัพเดทเป็นสแกนทำบุญได้แล้วก็ตาม)

สีกากี ถึงจะมีระบบitเพิ่มขึ้น แต่.. ก็รับสดเยอะอยู่ดี