ถามคนที่ไม่ได้อยู่ในสายงานออกแบบอาคารฮะ พวกคุณแยกความแตกต่างของอาชีพ สถาปนิก/สถาปนิกภายในหรือมัณฑนากร/วิศวกรโยธา ในการทำงานออกมั้ย

ตอนแรกผมนึกว่าใครๆก็แยกออก แต่เมื่อกี้ได้คุยกับอาจารย์หลานผมที่มหาลัย แกบอกว่าเดือนหน้า แกได้รับเชิญให้ไปบรรยายแนะแนวอาชีพที่โรงเรียนมัธยมแห่งนึง สิ่งที่อาจารย์แนะแนวโรงเรียนนั้นบอกคือขอให้มีหัวข้อนึงต้องอธิบายความแตกต่างของ สถาปนิก/สถาปนิกภายในหรือมัณฑนากร/วิศวกรโยธา ด้วยว่าในการออกแบบตึกใครทำอะไร เพราะหลายคนยังแยกไม่ออก

สถาปนิกกับวิศวกรโยธา แยกออกครับ งานมันชัดเจนขนาดนี้

ออกครับ ผมจบเครื่องกล แต่แยกพวกนี้ออกหมด

ผมแยกออกแค่ผิวๆอะ

แต่รู้แค่ว่ามันทำงานไม่เหมือนกัน แค่ไม่รู้ว่าทำอะไรแตกต่างกันในเชิงของหน้าที่

ผมว่าเค้าก้เเยกออกเเหละ เพียงเเต่อยากให้อธิบายให้ชัดเจนรึเปล่าว่าเเต่ละอาชีพทำส่วนไหน ใครออกเเบบเชิงศิลป์ ใครคำนวนรับเเรง ใครออกเเบบภายใน เเละบางงานมันก้อาจคาบเกี่ยวกันอยู่ เเต่เเกนหลักของอาชีพผมว่าส่วนใหญ่เเยกออกหมดเเหละ

ต้องแยกกับชินแสด้วยไหมครับ

ถ้าจำไม่ผิด ''สถาปนิก'' คือ ออกแบบล้วน โดยไม่ต้องอิงเรื่องข้อมูลว่าต้องใช้อะไรเท่าไหร่ แค่ออกเเบบตามความต้องการออก

ส่วน ''วิศวะโยธา'' คือ ต้องรู้ว่าแบบนั้นๆต้องใช้เหล็กเท่าไหร่ ทำได้ตามแบบ 100% ไหม รายละเอียดการก่อสร้างต้องรู้หมด

ถูกต้องไหมไม่ชัวร์ 5555 ตอบแบบความจำในสมองโดยไม่ได้ไปเสิร์ชหา

ไม่รู้ว่า สถาปนิก กับ มัณฑนากร ต่างกันยังไง เพราะสถาปนิกก็ได้ทั้งภายใน ภายนอก

สถาปนิก - ออกแบบพื้นที่จากพื้นที่โล่งๆ กำหนดฟังก์ชั่นการใช้งาน จำแนกห้องต่างๆ

วิศวกรโยธา - เอาแบบจากสถาปนิกมาทำแบบโครงสร้างต่างๆ ดูแลเรื่องขั้นตอนการทำงาน วิธีการทำงานต่างๆ

มัณฑนากร - ออกแบบโทนแต่ละห้องตามที่สถาปนิกออกแบบมาตอนแรก รวมถึง เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ

พวกนี้ออกแบบกันแทบตาย สุดท้ายก็ขึ้นกับซินแส

"โรงเรียนมัธยมแห่งนึง"

เด็กมัธยม แยกไม่ออกก็ไม่แปลกมั๊งฮะ..เป็นเรื่องดีนะที่อาจารย์แนะแนวเห็นความสำคัญ

ผมโตมากับการที่โรงเรียนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้น้อย สักแต่อยากจะโชว์ยอดเด็กเอ็นฯติด มากกว่าสนใจอนาคตของเด็ก

วิชาแนะแนวเลยเป็นยิ่งกว่าวิชาลูกเมียน้อย แทบไม่มีคาบเรียน เผลอๆบางที่ไม่มีด้วยมั๊ง ใครอยากรู้ก็ไปห้องแนะแนวนอกเวลาเอาเอง

ทั้งๆที่โคตรสำคัญเพราะมันมีผลกับชีวิตทั้งชีวิต เลือกคณะผิด/คณะที่ตัวเองไม่ชอบ บางคนรู้เมื่อสาย เร็วหน่อยก็ซิ่ว ช้าไปก็ผิดทั้งชีวิต

เด็กมันก็เลยออกันไปเลือกคณะตามกระแส คณะไหนป็อบฯก็แย่งกันเข้าคณะนั้น คิดว่าจบมาแล้วเงินดี คะแนนเข้าเลยสูงตาม

(แต่กว่าจะจบ cycle มันเปลี่ยนได้นะ..อาชีพนึงปีนี้ตลาดอาจจะต้องการเยอะ แต่อีก 4-5 ปีก็อาจจะไม่ใช่..แล้วก็จบมาแบบไม่ได้ถนัด)

โดยปกตินะฮะ
สถาปนิก - ออกแบบตัวอาคารว่าหน้าตาเป็นยังไง ใช้วัสดุอะไรในการกรุอาคาร พื้นที่เท่าไหร่ ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ เป็นยังไง วางตำแนห่งตรงไหน การสัญจรต่างๆภายในอาคารเป็นยังไง ดูเรื่องกฏหมายควบคุมอาคาร ออกแบบโครงสร้างคร่าวๆก่อนส่งให้วิศวกรโครงสร้าง ในงานอาคารทั่วๆไปสถาปนิกจะกำหนดแสปนเสาขึ้นมาก่อนเพื่อวางฟังชั่น แล้วค่อยส่งต่อไปให้วิศวกรโครงสร้างดูคำนวนความเป็นไปได้

มัณฑนากร - ออกแบบตกแต่งภายในตัวอาคาร คลอบคลุมวัสดุกรุผิวพื้น ผนัง ฝ้าเพดานและดวงโคม เฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ผ้าม่าน การ decorate ภายในทั้งหมด

แต่ในกรณีที่ owner ไม่ได้จ้างอินทีเรียในโครงการ
สถาปนิกจะรับหน้าที่ เลือกวัสดุกรุผิวพื้น ผนัง ฝ้าเพดาน และดวงโคม และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำให้ด้วย แต่ดีเทลรายละเอียดส่วนใหญ่จะละเอียดสู้จ้างอินทีเรียโดยเฉพาะมาทำให้ไม่ได้ จะเป็นดีไซน์กลางๆเรียบๆ และสถาปนิกจะไม่ออกแบบบิ้วอิน และไม่เลือกเฟอร์ลอยตัวให้

ประมาณนี้จ๊ะ

ที่เคยจะทำบ้าน ก็รู้คร่าวๆ
สถาปนิกเขียนแบบ ออกแบบฟังก์ชั่นห้อง ดูการจัดวางผัง เซ็นต์แบบ
วิศวโยธา ก็ดูการก่อสร้าง คำนวนโหลด เซ็นต์แบบถ้าขนาดถึง
Interior ก็ออกแบบตกแต่งภายในตามชื่อ

แต่งานบางอย่างก็ดูทับกันบ้าง อย่างถอด BOQ ผมเข้าใจว่าสถปนิกหรือวิศวกรก็ทำ
หรือแบบถ้าไม่สนผังไม่สนฟังก์ชั่น จะเอาแข็งแรงแน่ๆ วิศวะทำได้

แยกได้ครับ

แต่เพราะความเป็นลูกผู้รับเหมาด้วยแหละ เลยพอรู้เรื่องช่างเรื่องก่อสร้างนิดหน่อย

สองอาชีพนี้มีส่วนที่ซ้อนทับกัน 40-50% ได้ครับ

สถาปนิกก็ไม่ใช่จะเอาแต่ตึกสวยเวอร์ล้ำๆอย่างเดียว เขารู้เรื่องเชิงฟิสิกส์ไม่ว่าจะโครงสร้าง วัสดุ ไปจนถึงวิธีการก่อสร้างเหมือนกัน แต่จะไม่ลงลึกเท่าโยธา

เพราะสถาปนิกก็ต้องตีโจทย์ของลูกค้าให้ออกว่าเป็นไปได้ไหม ทั้งในมุมของงบที่ได้จากลูกค้า และมุมของการก่อสร้างที่โยธาจะต้องเอาไปคำนวณแบบต่อ
เช่นลูกค้าอยากได้ตึกทรงล้ำๆ ต้องใช้โครงสร้างพิสดาร สถาปนิกก็ต้องบอกลูกค้าได้เลยว่างบไม่พอทำนะ หรือทำได้แต่รูปทรงจะเปลี่ยนไปยังไงบ้างถึงจะเป็นไปได้ทางฟิสิกส์


โยธาก็ต้องรู้เรื่องการออกแบบในระดับนึงเหมือนกัน เวลาเอาแบบสถาปัตย์มาทำแบบก่อสร้าง ถ้าบางจุดมันเป็นไปไม่ได้ จะได้คุยกับสถาปนิกได้ว่าจะต้องปรับยังไงให้ยังคงฟังก์ชั่นและความสวยงามได้อยู่