'คูคูเรญ่า' โขกชัย! สิงห์เฮลั่นเฉือนผี 1-0 ขึ้นที่ 4
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
มาร์ค คูคูเรญ่า สวมบทฮีโร่โหม่งพังประตูชัยนาทีที่ 71 ช่วยให้ เชลซี เก็บชัยชนะตามเป้า หลังเปิดบ้านเฉือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ทำแต้มขึ้นมารั้งอันดับ 4 ของตาราง เพิ่มโอกาสในการคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วน ยูไนเต็ด ไม่ชนะในลีกเป็นเกมที่ 8 ติดต่อกันแล้ว จมอยู่ที่ 16
เชลซี
Starting Formation: 4-2-3-1
32.
ไทริค จอร์จ

81'
6
7.
เปโดร เนโต้

90+1'
6
ตัวสำรอง
27.
มาโล กุสโต้

90+1'
-
22.
เคียร์แนน ดิวสบิวรี่-ฮอลล์
45.
โรเมโอ ลาเวีย

81'
5.5
พรีเมียร์ลีก
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
ศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม 2568
กรรมการ คริส คาวานาห์
เชลซี
1
0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เชลซี ไม่สามารถใช้งาน นิโคลัส แจ็คสัน ที่ติดโทษแบนตลอดเกมที่เหลือของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้
นอกจากนี้ มาร์ก กิว, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า และ โอมารี เคลลี่แมน ก็ยังบาดเจ็บอยู่ ขณะที่ เจดอน ซานโช่ หมดสิทธิ์ลงเล่นเนื่องจากพบกับต้นสังกัดแม่
ฝั่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังขาด โจชัว เซิร์กซี, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, มัตไธจ์ส เดอ ลิกต์ และ เลนี่ โยโร่ ที่เจ็บอยู่
ขณะเดียวกัน ดิโอโก้ ดาโลต์ แม้มีภาพกลับซ้อมแล้วแต่ยังเร็วไปที่จะมีชื่อ
สิงห์หวิดนำเร็ว! มาดูเอเก้ ยิงโดนเหลี่ยมไม่ดี
เชลซี ทำเกมมาน่ากลัวเลย เริ่มจาก ไคเซโด้ ที่เลี้ยงผ่ากลางมาเองก่อนฝากให้ พาลเมอร์ ดึงจังหวะก่อนหยอดไปให้ มาดูเอเก้ รออยู่เสาไกลเข้าชาร์จข้ามคานน่าเสียดาย
ผีอดนำ! VAR ริบลูกยิง แม็กไกวร์
แมนยูบุกต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ดอร์กู จ่ายคืนให้ บรูโน่ ครอสเข้าเขตโทษถึง แม็กไกวร์ ที่ยืนคาอยู่ในเขตโทษเข้าชาร์จตุงตาข่าย แต่ VAR เช็คว่าเจ้าตัวล้ำหน้านิดเดียวเท่านั้น ทีมเยือนอดขึ้นนำเลย
เจมส์ ซัดเต็มข้อบอลชนเสาหลุดออก
เชลซี เกือบได้ประตูขึ้นนำจากลูกเปิดของ มาดูเอเก้ ที่โดนสกัดเข้าทาง เจมส์ วิ่งมาตะบันเต็มแรง บอลพุ่งเช็ดเสาเหลี่ยมนอกออกหลังแบบหวุดหวิด
สิงห์กดดันต่อ! พาลเมอร์ ยิงแฉลบออกหลัง
เจ้าบ้านได้กดดันต่อเนื่องเลย ไคเซโด้ แย่งบอลมาได้ก่อนส่งต่อให้ พาลเมอร์ ลากไปยิงแฉลบ ลินเดเลิฟ หลุดกรอบ แล้วจังหวะเตะมุม เอ็นโซ่ ยิงโดนมือ ฮอยลุนด์ ในเขตโทษ ผู้เล่นเชลซีฟ้องเอาจุดโทษแต่ผู้ตัดสินเฉย
แฟนสิงห์เสียววาบ! เจมส์ ข้อเท้าพลิกต้องปฐมพยาบาล
สิ่งที่แฟนบอลเชลซีไม่อยากเห็นเมื่อ เจมส์ ปะทะกับ ดอร์กู แล้วจังหวะลงดันข้อเท้าพลิก ต้องให้ทีมแพทย์เข้ามาเช็คอาการแล้วออกไปปฐมพยาบาลไม่นานก่อนลงมาเล่นต่อ
โอนาน่า ได้เซฟ! พาลเมอร์ ปั่นเกือบเสียบเสาไกล
โอกาสใกล้เคียงของ เชลซี จากจังหวะที่ มาดูเอเก้ เลี้ยงจี้ใส่ มาซราวี ก่อนจ่ายให้ พาลเมอร์ บรรจงยิงแบบไม่จับ บอลพุ่งไปเสาไกลแต่ โอนาน่า ปัดได้ ยังไปเข้าทาง เอ็นโซ่ ซ้ำจ่อ ๆ ข้ามคาน กระนั้นมิดฟิลด์อาร์เจนไตน์ล้ำหน้าอยู่แล้ว
อาหมัด ลากสวยจ่ายให้ เมาท์ สอดยิงหลุดกรอบ
บุกชุดนี้ของ แมนยู ได้จบด้วย อาหมัด เลี้ยงเข้าเขตโทษก่อนจ่ายยัดให้ เมาท์ สอดยิงได้ดีแต่บอลโดนเหลี่ยมไม่ดีผ่านหน้าปากประตูไปเลย
บรูโน่ วิ่งมาอัดเต็มแรงข้ามคาน
เมาท์ ลากสวยก่อนจ่ายให้ อาหมัด ดึงจังหวะก่อนจ่ายย้อนให้ บรูโน่ วิ่งมายิงเต็มข้อ บอลเหินข้ามคานออกไป สวนแต่ละทีของทีมเยือนทำได้ดี แต่พวกเขายังยิงตรงกรอบไม่ได้เลย
สิงห์หวิดได้จุดโทษ! VAR เช็คว่า จอร์จ พุ่งล้มเอง
คาวานาห์ เป่าให้จุดโทษแก่เชลซี จากจังหวะที่ โอนาน่า เข้าไปรวบ จอร์จ ล้มลงในกรอบเขตโทษ แต่ VAR ทักท้วง ก่อนที่ คาวานาห์ ไปดูที่มอนิเตอร์และเปลี่ยนตัดสินโดยมองว่า จอร์จ พุ่งล้ม
คูคูเรญ่า จัดให้! โขกอย่างสวยให้สิงห์นำก่อน 1-0
เชลซี ปลดล็อกขึ้นนำก่อนได้สำเร็จ จากจังหวะที่ เจมส์ หมุนหนี การ์นาโช่ ก่อนเปิดเข้าเขตโทษให้ คูคูเรญ่า สอดมาโหม่งหนีมือ โอนาน่า เข้าไปสวยงาม
ยังไม่สอง! มาดูเอเก้ โอกาสทองยิงหลุดดื้อ ๆ
เชลซี พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูที่สอง เอ็นโซ่ ปั๊มชนะได้ก่อนจ่ายให้ พาลเมอร์ พลิกแล้วแทงต่อให้กับ มาดูเอเก้ หลุดไปยิงหลุดกรอบเฉยเลย โอนาน่า พุ่งไปอีกทางแล้ว
เนโต้ ตัดเข้าในยิงเข้าซอง โอนาน่า
เจ้าบ้านคึกเลยหลังได้ประตูนำ แล้วก็มาบุกลุ้นยิงเพิ่ม เนโต้ เลี้ยงตัดเข้าในหนี ชอว์ ก่อนยิงตรงตัว โอนาน่า
ซานเชซ เซฟบ้าง! อาหมัด หักเสาแรกโดนปัด
ซานเชซ มีเซฟบ้างแล้ว จากจังหวะที่ อาหมัด เลี้ยงจี้ใส่ คูคูเรญ่า แล้วยิงยัดเสาแรกแต่โดนปัดออกหลังหวุดหวิด
เฮฟเว่น เข้าอันตรายแต่ได้แค่ใบเหลือง
เฮฟเว่น เล่นบอลไม่ละเอียดหน้าปากประตูตัวเอง จังหวะที่จะตามเข้าไปสกัด กุสโต้ กลายเป็นเข้าอันตราย แต่ คาวานาห์ แจกเพียงใบเหลืองเท่านั้น
จบเกม เชลซี เปิดบ้านเฉือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 66 คะแนนจาก 37 เกม ขึ้นมาอยู่อันดับ 4 นัดสุดท้ายเยือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
Starting Formation: 3-4-2-1
23.
ลุค ชอว์

81'
5.5
18.
คาเซมิโร่

70'
6
8.
บรูโน่ แฟร์นานเดส

81'
5.5
7.
เมสัน เมาท์

69'
6
ตัวสำรอง
26.
เอย์เดน เฮฟเว่น

81'
5.5
25.
มานูเอล อูการ์เต้

70'
5.5
37.
ค็อบบี้ เมนู

81'
6
17.
อเลฮานโดร การ์นาโช่

69'
5.5
แก้ไขล่าสุดโดย Asarinho10 เมื่อ Sat May 17, 2025 16:23, ทั้งหมด 10 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ