คิดมากว่าจะเรียกค่าเหนื่อยเท่าไหร่จากชุดขาวน่ะสิ ถ้ารักหงส์จริงไม่เห็นต้องคิดมาก
เกียรติยศ ชื่อเสียงรออยู่เห็นๆ ถ้าอยู่จนแขวน ตำแหน่งกัปตัน รูปปั้น ไม่น่าหนีไปไหน

อันนี้ ฝั่งลิเวอร์พูลเค้าพยายามคุยเรื่องสัญญาแล้ว แต่เทรนต์หรือเอเย่นต์ เลือกปฏิเสธจนเหลือปีสุดท้ายคับ
ด้วยความเป็นลูกหม้อ สโมสรก็คุยยันปัจจุบันสัญญาไม่คืบเลย
แล้วอยู่กับหงส์น้องก็ได้ ถ้วยสำคัญๆแล้วด้วย

น่อลโดนบ่อยจะตาย ล่าสุดเคส ทรอสซาร์ ยังคุยสัญญายังไม่ลงตัว

ชินละ

ผมยกตัวอย่างเคสแรมซี่ไปยูเว่ละกัน สมมติว่าอยู่น่อล 1 แสนปอนด์ /เหลือสัญญา 1 ปี น่อลเสนอสัญญาใหม่ 2 แสน/3+1 ปี แล้วยูเว่มาคุยบอกย้ายมาอยู่กับเรา แบบฟรี เอาไปเลย 4 แสน

แล้วช่วงนั้นอยู่กับน่อล ก็ไม่ได้อะไรเลย

แรมซี่เลยไปยูเว่ดีกว่า

ตัวนักเตะไม่ยอมระบุให้ชัดไงครับว่าจะไม่ต่อ จนพึ่งเดือนมีนาคมนี้แหละที่บอกว่าจะไม่ต่อ สโมสรเลยประกาศต่อสัญญาsalah vvd เพราะตอนแรกสโมสรเจราจากับtaaคนแรกเลย คือดึงเชิงไม่ยอมบอกว่าจะไปหรืออยู่ ถ้าบอกตั้งแต่แรกสโมสรคงไม่ดึงเชิงขนาดนี้หรอกครับ ไม่แปลกที่แฟนท้องถิ่นจะโห่อะ จากวิธีการดึงเชิงจนสัญญาหมดอะ เทียบง่ายๆก็กับfirmino รายนั้นคือประกาศชัดเลยว่าจะไม่เจรจากับใครจนกว่าสัญญาจะหมดคือให้priorityที่lfc ส่วนไอtaa มันน่าจะแอบคุยกับmadridมาปี2ปีได้ละ ไม่งั้นไม่เกิดเหตุการณ์อยู่ๆmadridมายื่นตอนมกราคมหรอกครับ ขนาดตอนนั้นแล้วมันยังปิดปากเงียบไม่บอกเลยว่าจะไม่ต่อ

ผมว่าจะไปเทียบกับ CR7 อาซาร์ หรือคูตี้ คงยากครับ พวกนั้นมันคนเจนY ทั้งนั้น ยังมีธรรมเนียมที่ให้ความสำคัญกับองค์กรหรือต้นสังกัดของตัวเองครอบงำอยู่

แต่เทรนต์ มันเด็กเจนZ ซึ่งจากอายุ26 ก็ถือเป็นในรุ่นแรก ๆ ของเจนZ เหมือนกับบัก ปธ.เป้ นั่นล่ะครับ
ซึ่งเด็กเจนZ ความคิดจะไม่เหมือนกับรุ่นนเก่า ๆ แล้ว เขาจะไม่ได้ยึดติด เทิดทูน หรือมีความจงรักภักดีในองค์กรมากมายอะไร เพราะเขาจะมองโลกตามความเป็นจริง

องค์กร บริษัท ในสายตาเด็กเจนZ นั้นไม่ใช่เจ้าชีวิต ไม่ได้มีบุญคุณล้นหัวอะไร
แต่ในสายตาเด็กรุ่นนี้จะมองว่าองค์กรพวกนี้คือนายทุนทั้งนั้น คบหากัน ทำงานด้วยกัน เพราะผลประโยชน์ต่างตอบแทนทั้งคู่ ต่างฝ่ายต่างมองถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ

เจ้าของลิเวอร์พูล คือ FSG เป็นนายทุนจากอเมริกา มีสถานะเป็นนายจ้างเท่านั้น เขาจ้างไอ้เทรนต์ให้มาเล่นฟุตบอล เทรนต์มันก็ตอบแทนด้วยการเล่นให้อย่างคุ้มค่าจ้างแล้ว ไม่ได้มีบุญคุณอะไรต่อกัน
ดังนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่มันจะต้องมาตอบแทนให้นายทุนพวกนี้อีก หมดสัญญาแล้วก็แยกย้าย มีเท่านี้

ผมมองว่าอีกหน่อยจะมีอีกเรื่อย ๆ ครับ เคสนักเตะดัง ๆ ปล่อยหมดสัญญาแล้วย้ายทีมไปฟันค่ากินเปล่าสูง ๆ ในทีมอื่น
กรณีแบบ เอ็มบัปเป้ และ เทรนต์ จะเป็นแค่เรื่องปกติในยุคต่อไป เดี๋ยวรอดูโคนาเต้ ซาลิบา หรือไมนู ก็อาจจะเป็นแบบนี้ต่อแฟนบอลรุ่นเก่า ๆ คงต้องพยายามเคยชินเข้าไว้ครับ และต้องทำความเข้าใจว่ามุมมองความคิดของเด็กยุคใหม่มันเปลี่ยนไปแล้ว พวกเขาไม่ได้เทิดทูนองค์กรมากเท่าเดิม และพร้อมเปลี่ยนงานได้ทุกเมื่อหากผลประโยชน์ดีกว่า

แต่อย่างน้อยก็น่าจะคิดได้นะว่าตัวเองเกิดที่นี่ ยังไงก็ต้องกลับมาตายที่บ้านอยู่ละมันน่าจะให้อะไรสโมสรบ้าง

ในความคิดเด็กรุ่นนี้มักจะมองว่า การทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ และสร้างผลงานที่ดีจนครบอายุสัญญา ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนให้บริษัทที่เหมาะสมแล้วครับ
แต่ก็เห็นมีข่าวว่าเทรนต์มันแนะนำให้มาดริดลองยื่นซื้อตัวมาช่วง มค.ที่ผ่านมานะครับ ถ้าลิเวอร์พูลเลือกจะเอาเงินก้อนนั้นก็ตอบรับข้อเสนอไปได้
แต่ทีมเลือกจะไม่รับเอง เทรนต์มันก็เลยตอบแทนด้วยการลงเล่นเต็มที่ในช่วงที่เหลือ พาทีมเป็นแชมป์ส่งท้าย เพื่อตอบแทนแฟน ๆ แล้ว

เอ็มบับเป้มีเรื่องพิพาทกับ นัสเซอร์ อัล-คัลเลฟี ด้วยครับ เจ้าตัวประกาศไม่ต่อสัญญากับเปแอสเชแล้วแต่อีกฝ่ายไม่ยอม ถึงขั้นต้องให้ประธานาธิบดีมาครง (ซึ่งเคยกล่อมให้เอ็มบับเป้อยู่เปแอสเชไปก่อน) ช่วยเหลือให้ได้ไปสเปนสมใจ แฟนบอลอัลตร้าของเปแอสเชก็ไม่ติดใจด้วย อยากให้ไปเพราะพวกตนก็เกลียดการบริหารของ อัล-คัลเลฟี อยู่แล้ว

ทุกวันนี้เอ็มบับเป้ยังมีข้อพิพาทกับเปแอสเชเรื่องส่วนแบ่งที่จะได้รับแล้วทางนั้นไม่ให้อยู่เลย (ต้นเหตุก็ อัล-คัลเลฟี ประเคนซะเกินเบอร์หวังจะมัดใจเจ้าตัวนี่ล่ะ) ฉะนั้นเคสเอ็มบับเป้ย้ายไปเรอัลมาดริดแบบฟรี ๆ เลยเป็นเคสที่วุ่นวายมาก

และเดิม เอ็มบับเป้ก็ไม่ใช่นักเตะเปแอสเช เป็นผลผลิตจากโมนาโก มีความฝันย้ายไปเรอัล มาดริด แต่ต้นแล้ว

ผมกลับว่ากรณีคูตี้ สโมสรรับมือได้ทันกว่า เพราะเจ้าตัวขอขึ้นบัญชีขายตอนตลาดปิด สโมสรทำใจอยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องปล่อย เหลือแค่ช้าหรือเร็วเท่านั้น
เงินที่ว่า สโมสรก็ได้งบไปซื้อนักเตะคีย์แมนถึง 2 คนในฤดูกาลถัดไป

และคล็อปป์ก็หาแผนใช้งานนักเตะโดยไม่พึ่งกองกลางบัญชาเกมอย่างคูตี้ได้พอดี (และพยายามจะใช้แผนนี้อีกครั้งตอนดึง ติอาโก อัลคันทารา มาจากบาเยิร์น มิวนิค เสียแต่นักเตะเจ็บเรื้อรังเลยใช้งานได้ไม่เต็มที่)

แต่ว่าการร้องไห้ ดีใจที่ได้ลง ได้ย้ายสักที มันติดตากว่าแหละ

แต่กรณีของเทรนท์ กระทบกับแผนการต่อสัญญาของ ซาลาห์และ ฟาน ไดจ์ ด้วย และความที่เจ้าตัวไม่ประกาศชัดสักทีว่าจะไม่ต่อ การดึงคนมาแทนนอกเหนือจากแบรดลีย์ที่เจ็บบ่อย ก็ยากตามไปด้วย ถึงฟอร์มจะไม่เหมือนเดิมแต่ก็ยังเป็นนักเตะสำคัญที่ชล็อตยังหนีบม้านั่งเลย ถ้าเจ้าตัวบอกล่วงหน้าเป็นปี, ต่อสัญญา (แต่เสี่ยงไม่ได้ย้ายสมใจ) หรือประกาศหลังจบฤดูกาล (แต่อาจไม่ทันไปเตะสโมสรโลก) ผลตอบรับจะไม่เป็นแบบนี้

รับได้จริงหรอถ้า TTA งอแง แบบคูตี้ โครตโม้

ผมพูดความคิดตัวเองนะครับ คุณเป็นผมเหรอถึงรู้ว่าไมน์เซ็ทผมเป็นแบบไหน บอกโม้เฉยอย่างเอา คิดแทนเก่งงงง

เสริม : ผมคิดว่าคูตี้ไม่ได้เหมาะกับสไตล์คลอปตั้งแต่แรกแล้วครับ เพรสก็ไม่ดี หาตัวเข้าระบบมาดีกว่าเยอะ ส่วนแบ็คขวาผมคิดว่าได้ตัวใหม่มาทีมก็ไปต่อได้ โกรธที่ไปฟรีแค่นั้นอยากได้เงินไปโปะเสริมตำแหน่งอื่นๆแบบยุคก่อน

ต่อให้ทีมจะขายทิ้งแต่นักเตะเลือกไม่ไปมันก็อยู่ที่เดิมเนี่ยแหละ ไม่ใช่ว่าอยากจะขายก็ไปยัดให้อีกทีมซื้อแล้วมันจะย้าย ทีมที่ซื้อเค้าก็ไม่อยากจ่ายเงินแพง ตัวนักเตะก็ไม่ได้อยากจะย้ายไปทุกทีมที่ยัดเยียดมา

ทีมใหญ่ทุกทีมมันถึงมีปัญหาเรื่องเดดวู้ดเรื่อย ๆ นี่ไง ไม่พ้นแม้กระทั่งมาดริดหรอก เคสเบลกับอาซาร์นี่ก็ตัวอย่างที่เห็นชัด ต่อให้อยากขายอยากปล่อย แต่นักเตะยืนยันว่าก็กูไม่อยากไป แล้วทำอะไรมันได้ล่ะก็อยู่กันไปแบบนั้นแหละ

เป็นนักเตะเก่งนี้ลำบาก

เรื่องย้ายทีมพอเข้าใจได้แหละ แต่การพูดของ TAA มันสวนการกระทำสิ้นเชิง เข้าใจแฟนส่วนนึงที่โห่ใส่


แต่สำหรับผม ขอให้โชคดี แต่ไม่ตามเชียร์เด้อ

ยิ่งลงข่าว ยิ่งโดนด่า

แล้วขยันลงด้วยนะ

อาจจะคิดว่า ในที่สุดแล้วจะสามารถต่อสัญญามันได้มั้งครับ...มันแสดงท่าทีรักสโมสรจะตาย 2ปีที่แล้วแทบไม่มีข่าวมาดริดสนใจ แต่ที่ไหนได้แอบไปคุยกันจะได้ไม่ต้องเสียตังค่าตัวสักบาท