เอาแค่ช่วงตู่ งัดข้อกับธรรมกาย เจอญาติโยมมาเป็นกำแพงมนุษย์ให้วัด
สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ มีแค่หลวงเจ๊ไม่รู้หายไปไหน

ผมเข้าใจนะ เงินขาเข้า มันหาที่มาไม่ได้
แต่เงินขาออกเนี่ย มันจับผิดความปกติได้
ใช้จ่ายมูลค่าเกินจริง
ใช้จ่ายผิดประเภท

สุดท้ายแล้วทำเนียนๆ วัดคือแหล่งฟอกเงินชั้นดี
แต่คาสิโน ไอ้นี่หนักกว่าวัดอีก
เช้าเดินถือเงินเทาเข้า เย็นเดินออกพร้อมเงินขาว
ไม่ต้องลงทุนทำธุรกิจบังหน้าเป็นเดือนๆปีๆ
กว่าจะฟอกเงินให้เป็นเงินสะอาดได้
แต่คาสิโน วันเดียวก็ทำให้เงินเทาเป็นเงินขาวได้ รวดเร็วทันใจ

วัดเป็นองค์กรที่เงินสะพัด ยิ่งเป็นวัดใหญ่ๆด้วยนะ ส่งนักบัญชีไปตรวจสอบ รู้เรื่องทุกวัดอะ

สมัยผมบวชที่วัดแห่งหนึ่ง บรรดาพระใหญ่ๆในวัดก็มีธุรกิจกันนะ เกี่ยวกับวัดโดยตรงเช่นธุรกิจจัดงานขาวดำและไม่เกี่ยวกับวัดเลยก็มี ฟาร์มเงินกันฉ่ำๆอะ

วัดไหนไม่มีมากกว่า

ตั้งแต่ ต้นน้ำยันปลาย

พระแถวบ้าน ตจว บวชตั้งแต่เด็กจนเป็นเจ้าอาวาส มาศึกอายุ 40 มีเงินเป็นสิบล้าน ซื้อรถ ปลูกบ้าน ซื้อที่ดิน

ทำบุญกับโรงพยาบาลช่วยหมาแมวยังจะดีกว่ากับพวกแครอท ของผมเต็มที่แค่ใส่บาตรวันเกิดไม่เคยคิดบริจาคอะไรให้วัดเลย

วัด การเมืองดีๆ รวยเยอะ ตุ๊ด อีก เลี้ยงเด็ก เสพยา

เลิกทำบุญกับวัดมานานมากละครับ แครอทที่ไหว้ๆก็ไหว้ไปงั้นๆตามมารยาท(ติดเกรงใจผู้ใหญ่ในบ้าน) ที่เต็มใจไหว้ก็พระพุทธรูป

พระภิกษุที่ดีจะรู้ว่าเพราะอะไรพระธรรมวินัยจึงไม่ให้รับเงิน
พอมีเงิน ความต้องการนู่นนี่นั่นก็จะตามมา ความเศร้าหมองก็ตามมา
อาชีพภิกษุต้องเลี้ยงชีพด้วยลำแข้ง ออกไปบิณทบาตรตามมีตามได้

เคยมีคนมาเสนอผมอยู่ แบบจ่าย1000 แล้วได้กรอกว่าบริจาควัดลดภาษี 5หมื่น ไรงี้ (จำตัวเลขเป๊ะๆไม่ได้)
ก็งงว่า ววการพระมาถึงจุดนี้แล้วหรอวะ

มีสิ่งหนึงที่คาใจผมมานาน
อย่างวัดดังในตัวเมืองโคราช สังเกตุตอนคนไปทำบุญเอาเฉพาะถวายสังฆทาน
ผมนั้งรอแม่อยู่ข้างหน้าประมาณ 10 นาที มีคนไปบูชาสังฆทานประมาณ 20 คน
คนที่หยอดตังค์ใส่ตู้น้อยสุดคือ 20 บาท ลองคิดดูว่าทั้งวันจะได้เท่าไร
แล้วยังมีกิจกรรมอย่างอื่นอีกอย่างเยอะ วันละ2แสนถ้าวันหยุดผมว่าถึง
อยากรู้เหมือนกันว่าเอาตังค์ไปทำอะไร

ทำไมองค์กรทางศาสนา กฎหมายถึงตรวจสอบการเงินไม่ได้
มันมีข้อยกเว้นอะไร ได้ยังไง

ไม่โกงยังรวย
กินอยุ่ฟรี มีแต่รายรับเน้นๆ