ของผมโดนรูดร้านค้าออนไลน์ต่างประเทศแบบงงๆ มันรูดบัตรผมหน่วย € ไปเต็มวงเงินเลยครับ พอเห็นแจ้งเตือนรีบโทรระงับและทักท้วงยอดในวันนั้นเลย สิ่งที่ Kเขียวตอบกลับมาคือรอทำการทักท้วงไม่เกิน 90 วัน สรุปเกิน 90 วันแล้วแจ้งมาว่าทำรายการไม่สำเร็จ ผมต้องรับผิดชอบยอดทั้งหมด เลยไปลงบันทึกประจำวันสิ่งที่เราได้ทำการประสานกับธนาคาร เพื่อประกอบการฟ้อง ไม่เกิน 2 วัน ธนาคารโทรกลับมาเจรจา ผ่อน0% บ้าง ขอลดหนี้ให้เหลือ 50% บ้าง ซึ่งผมมองว่าธนาคารมีเจตนาแอบแฝงผลักภาระมาให้เรา

ซึ่งถ้ามีการฟ้องร้องกันจริง มีเคสตัวอย่างให้เห็นแล้วว่าธนาคารต้องรับผิดชอบทั้งหมด เพราะบัตรคือทรัพสินของธนาคาร ถ้าการป้องกันไม่ดีพอและลูกค้าพยายามหยุดกระบวนของมิจฉาชีพแล้ว ถือว่าธนาคารเป็นคนที่ประมาทเลินเล่อ จะผลักหนี้ให้กับลูกค้ามิได้ครับ

เพื่อนๆระมัดระวังการผูกบัตรหรือใช้บัตรกับช่องทางออนไลน์กันด้วยนะครับ มิจฉาชีพมันเก่งขึ้นทุกวัน แต่มาตรการของสถานบันการเงินในไทยมันหลวมจนน่าเป็นห่วง ใครที่เจอปัญหาเดียวกัน ทักมาคุยกันได้หรือปรึกษาหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดได้เลยครับ ตอนนี้หลายหน่วยงานพร้อมช่วยเหลือเยอะมาก

ผมเคยโดน น่าจะจากปั้มน้ำมัน ตอนนี้บัตรเครดิตทุกใบผมจะติดสติกเกอร์เลข cvv ด้านหลังไว้ครับ โดนครั้งเดียวแล้วป้องกัน ไม่เคยโดนอีกเลย

บัตรเครดิตยังพอได้ครับ อย่าให้โดนเดบิต เพราะมันหักเงินในแบงค์ทันที ถ้ารู้ตัวช้าเงินจะหมดบัญชีง่าย ๆ
ผมเคยโดนจากแอป sp ที่เคยเล่า ไป หักไปทันที 15k โทรแจ้งทันทีปิดบัตร รอ 8 ชม. ธนาคารคืนยอดเงินให้

บัตรเครดิต ถ้าเป็นรายการต่างประเทศ ยกเลิกสบายเลย

มันดีตรงนี้แหละ หลังจากนั้นก็จะระแวงทุกอย่างไปพักใหญ่

บัตรใบนี้ธุรกรรมออนไลน์ผมผูกไว้แค่แอป PTT EV Pluz กับ EGAT ElexA นี่ล่ะ ถ้ามันจะหลุดจากแอปก็มีแค่สองเจ้านี้ล่ะ


แปลกที่บัตรส่วนตัวของผมไม่เห็นจะโดนซักใบ แล้วคนในบริษัทผมที่ถือบัตรนิติบุคคลชุดเดียวกันนี้ก่อนหน้าผมโดนไป 3-4 คนล่ะ

ผมเคยโดนของ KFC แต่ตัดเงินไม่สำเร็จเป็นยอดจากต่างประเทศธนาคารบล้อคเอาไว้ให้แล้วก็ติดต่อมาว่าเจอยอดน่าสงสัย พอบอกไม่ได้เป็นคนใช้เขาก็อายัดบัตรแล้วก็ส่งบัตรใหม่มาให้เลย