หยุดยาวที่ผ่านมากลับบ้านต่างจังหวัดไปเลือกตั้ง
ส่วนมากที่เจอก็คือคนในพื้นที คนแก่ ผู้สูงอายุ เลือกตั้งกันแทบทั้งนั้น

เพื่อนๆ หรือรุ่นน้อง น้อยมากที่จะกลับไปเลือกตั้ง ส่วนนึงก็บอกเหตุผลว่า พึ่งกลับไปช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา

ตอนเลือกตั้งนายก อบจ.ที่เลือกวันเสาร์ก็พออ้างได้นะ เพราะไม่ใช่วันอาทิตย์ตามปกติ แต่นี่หยุดยาว 3-4 วัน แถมเป็นวันอาทิตย์ มีช่วงเวลาให้เดินทางกลับวันจันทร์ได้อีก

ที่น่าเซ็งคือหลายพื้นที่นี่ไม่ได้แพ้มากมายเลยนะ แต่ด้วยจำนวนคนที่ไปเลือกตั้งที่น้อยมากๆ มันก็ส่งผลจริงๆนั่นแหละ


คนรุ่นใหม่นี่อยากเปลี่ยนแปลงกันจริงมั้ยเนี่ย

คิดแบบนี้ ชนชั้นนำไทยบอก “หวานเจี๊ยบ”

เพราะคนรุ่นใหม่รู้ว่า เลือกไปก็ไม่ได้มีอะไรดีกับชีวิตเขาขึ้นมา

ประเทศนี้มันแก้อะไรไม่ได้แล้วครับ ผมพูดจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ถีบตัวเอง

หารายได้ดีๆ งานดีๆ มีเงินเยอะๆ แค่นี้ก็พอแล้วครับ

เพราะคนรุ่นใหม่รู้ว่า เลือกไปก็ไม่ได้มีอะไรดีกับชีวิตเขาขึ้นมา

ประเทศนี้มันแก้อะไรไม่ได้แล้วครับ ผมพูดจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ถีบตัวเอง

หารายได้ดีๆ งานดีๆ มีเงินเยอะๆ แค่นี้ก็พอแล้วครับ

ยังไม่ตื่นตัวเท่าไหร่ สัดส่วนที่สนใจการเมืองน้อยกว่า จากที่เคยไปชุมนุม ที่ห้าแยกลาดพร้าว กับ น้องๆ ผมก็ ลองถามข้อมูลเชิงลึกในการเมือง หรือเรื่องต่างๆ ตอบไม่ได้ มีข้อมูลในหัวอยู่ชุดเดียว เหมือนตามๆเพื่อนมา

และ ช่วงนี้ที่ทำงานกับวัยรุ่น ถามเรื่องการเมือง คือ ตอบไม่ได้ ไม่ได้ตามข้อมูลข่าวสาร ถ้าไม่ใช่กระแส แล้วยิ่ง ถ้าส้มมั่นใจว่า รุ่นใหม่เลือกส้มหมดนี่ คิดผิดมหันต์ เท่าที่ถามส่วนมากก็ตอบว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่คงไม่ใช่ ป้อม แค่นั้นเลย

เค้าสนใจสนามใหญ่กันมากกว่า เพราะมันไปร่างกฎหมาย ส่วนสนามเล็กที่เป็นท้องถิ่นส่วนมากก็จะเป้นคนที่อยู่ในพื้นที่นั้นจริงๆ มากกว่า พวกอยู่แต่ชื่อ ตัวอยู่ กทม ก็ไม่ไหวจะกลับไปหลายรอบ อย่างว่าเศรษฐกิจมันแย่ ความหวังก็ยังไม่มี ไม่รู้จะเสียเงินกันไหวแค่ไหน

คิดแบบนี้ ชนชั้นนำไทยบอก “หวานเจี๊ยบ”

ตื่นตัว แต่รายได้มันไม่คุ้มจะกลับ ผมก็ว่าเค้าไม่กลับกันนะ

มันเลือกถี่ไปครับ ไม่กี่อาทิตย์ก่อนพึ่งเลือก อบต ไป มาเลือก สท ต่ออีก เท่าที่คุยหลายๆคนก็เทไม่ไปเลือกกันนะ แถมไม่มีเลือกล่วงหน้าอีก

ผมว่ารัฐต้องเอื้อให้เขาเลือกตั้งล่วงหน้าสิครับ จะในเขตช่วงสงกรานต์หรือนอกพื้นที่ล่วงหน้า 1 สัปดาห์

จะมาให้คนต้องถ่อกลับไปเลือกในเขตตรงวัน ค่าใช้จ่ายเท่าไร?

จะเอามาวัดการตื่นตัวด้านการเมือง ดูไม่แฟร์ครับ

พวกนี้ไม่ได้อยู่บ้านเลือกไปก็ไม่มีผลอะไรกับเขา ผมว่า gen z อะยังไม่ค่อยตื่นตัวเพราะยังไม่ค่อยได้เจอประสบการณ์อะไรแบบนั้น อีกอย่างประเทศเราพยายามทำให้การเมืองมันไกลตัวไม่ให้คนสนใจหรือตื่นตัวด้วย

ต้องรอดูกระแสเลือกตั้งใหญ่ ตราบใดที่แก้ภาพใหญ่ยังไม่ได้ ท้องถิ่นก็ไม่ต้องพูดถึง

รอเลือกตั้งใหญ่ทีเดียว

ตื่นตัว แต่ไม่มีเงินเดินทาง

อย่าโทษแค่คนรุ่นใหม่เลย คนรุ่นเก่าก็ไม่ตื่นตัว คนรุ่นเก่าไม่ไปเลือกตั้งเยอะพอๆกับคนรุ่นใหม่เลย คนไปเลือกส่วนใหญ่ก็หน้าเดิมๆ ไม่ผู้สูงอายุก็พวกหัวคะแนนที่ไปเกณฑ์คนมา ถ้าเป็นคนรุ่นเก่าหรือคนรุ่นใหม่ที่ไปเลือกก็คือคนที่อินการเมืองแต่ก็จะเป็นหน้าเดิมๆที่เลือกมาตลอดตั้งแต่ สส

ในนี้ยังไม่ไปเลือกกันเยอะเลย ส่วนใหญ่ก็คิดแค่ว่า แค่หาเงินเลี้ยงตัวเองให้รอดก็ลำบากแล้ว หารู้ไม่ว่าคิดแบบนี้นี่ล่ะมันยิ่งทำให้ประเทศไม่ไปไหน เพราะการไปเลือกตั้งนี่มันไม่ได้ลำบากอะไรเลย แค่ส่งผลกระทบต่อประเทศมากกว่าที่คิด การที่มีคนไม่ไปเลือกตั้งเยอะมากเท่าไหร่ มันยิ่งไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงไง มัวแต่รอให้คนอื่นสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ แต่ตัวเองไม่คิดจะเริ่มก่อน แล้วเมื่อไหร่จะเปลี่ยน

แล้วการเปลี่ยนแปลงอ่ะ ถ้าติดตามการเมืองมาตลอดจะรู้ว่าการเมืองภาพใหญ่ที่มันติดหล่มกัน ส่วนหนึ่งมันก็มาจากการเมืองภาพเล็กระดับจังหวัดทั้งนั้น สิ่งที่เห็นได้ง่ายสุดอย่างระดับจังหวัดคุณยังไม่สนใจกันเลย จะมาอ้างว่ารอเลือกแค่ สส ไม่ได้หรอก เพราะอันนั้นมันยิ่งไม่เห็นภาพอะไรชัดกว่า สส มันแก้กฎหมาย แต่ สจ นี่ล่ะโกงกินหนักไม่แพ้ระดับกระทรวงเลย แค่มันเล็กกว่าเลยไม่มีใครไปสนใจ

แค่รับรู้ข้อมูลเพิ่มขึ้นแต่ถามว่าตื่นตัวไหม ผมว่ายังนะ เด็กๆ สมัยนี้น่าจะปล่อยจอยกันเยอะ

ขนาดความผิดเห็นๆ ตรงหน้า รู้ว่าผิดยังเอาผิดแม่งไม่ได้ มันเ-ี้ยจริงๆ นะ

ขนาดเลือกตั้งได้ส้มเป็นรัฐบาลแล้ว แม่งยังทำให้ไม่เป็นได้เลย

เด็กรุ่น 5-6 ปีที่แล้วที่ประท้วง ก็โดนกลืนโดยสังคมกันหมด โตมาต้องทำงาน หาเงิน ใช้ชีวิต

แต่ขอซักอย่างนะ ตอนเลือกตั้งไปใช้สิทธิ์ เลือกพรรคประชาชนกันเยอะๆ

เราเลือกเหลือง-แดง จนประเทศชิบหายมาถึงทุกวันนี้ เป็นความผิดพวกเรานะ ต้องแก้ไขให้ประเทศมันดีขึ้น

ไม่อะ

เวลาไม่เคยเข้าข้างเลย