ผมเคยตั้งกระทู้เรื่องนี้ไว้เมื่อเดือนก่อน
https://www.soccersuck.com/boards/topic/2557639

สถานการณ์ล่าสุด ตอนนี้พักยก 90 วัน เมกาเก็บภาษีจีน 30% จีนเก็บเมกา 10% คือไม่รู้หรอกว่าหลังจากนี้จะตีกันอีกหรือเปล่า

แต่สิ่งที่เมกาได้ตอนนี้ชัวร์ ๆ คือขึ้นภาษีจากทุกประเทศอย่างต่ำ 10% หลายประเทศแห่กันเข้ามายื่นดีลพิเศษ ทั้งลดภาษี เพิ่มสินค้านำเข้า เพิ่มรายได้ไม่รู้เท่าไหร่

ก่อนหน้านี้เห็นติ่งจีน บอกเมกาชิบหายแน่ๆ ตอนนี้ยังคิดแบบนั้นอยู่ไหมครับ แล้วมันจะชิบหายกี่โมง

*** ขออธิบายเพิ่มเติม คือผมรู้นะครับว่าภาษีที่ขึ้น คนเมกาจ่าย แต่มันทำแบบนี้ให้ของในประเทศ ทำราคาสู้ของจากข้างนอกได้ไม่ใช่หรอ

ละนอกนั้น ภาษีมันลดได้ตลอดครับ เอาไว้ต่อรองแลกดีลพิเศษ เช่น ถ้าเอ็งยอมนำเข้า ... เพิ่ม จะลดภาษีจาก 10 เหลือ 5

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนมองเหมือนการขึ้นภาษีมันแย่ 100%

ในมู้นั้นก็บอกไว้ ยังไงทรัมป์มันก็อยู่ได้เเค่ 4 ปี คนเมกามันไม่เอาสงครามการค้า รอบหน้ามันก็ไม่มีใครเอานโยบายนี้เเล้ว สุดท้ายนโยบายนี้คนที่เเพ้เจ็บหนักสุดก็คือคนอเมริกา ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย

ขนาดทรัมป์มันหาทางลงเรื่องนโยบายภาษีของตัวเอง เพราะยังไงมันก็ไปไม่รอด พวกฝั่งทรัมป์ยังไม่เอาเลย ก็ยังจะหาทางอวยว่าเป็นผลงาน ว่าเป็นเเผนการอีก

เหมือนที่ฝรั่งมันพูดอยากจะทำสเต็กกิน ไม่จำเป็นต้องเผาบ้านตัวเอง

เออผมก็คิดนะว่าจีนเป็นเป้าหลอกหรือเปล่า เป้าจริงคือเก็บภาษีประเทศอื่นเพิ่มขึ้นแบบเนียนๆ

ในมู้นั้นก็บอกไว้ ยังไงทรัมป์มันก็อยู่ได้เเค่ 4 ปี คนเมกามันไม่เอาสงครามการค้า รอบหน้ามันก็ไม่มีใครเอานโยบายนี้เเล้ว สุดท้ายนโยบายนี้คนที่เเพ้เจ็บหนักสุดก็คือคนอเมริกา ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย

ขนาดทรัมป์มันหาทางลงเรื่องนโยบายภาษีของตัวเอง เพราะยังไงมันก็ไปไม่รอด พวกฝั่งทรัมป์ยังไม่เอาเลย ก็ยังจะหาทางอวยว่าเป็นผลงาน ว่าเป็นเเผนการอีก

เหมือนที่ฝรั่งมันพูดอยากจะทำสเต็กกิน ไม่จำเป็นต้องเผาบ้านตัวเอง

อันนี้เอาจริงหรือเอาฮา รู้ไหมว่าเทรดวอร์รอบนี้ ทรัมป์ทำเศษฐกิจเมกาเสียหายไปขนาดไหน

ยังไม่นับเครดิต ความเชื่อใจในหมู่พันธมิตรที่แตกยับเยินอีกนะ

ลองดู GDP เมกาที่เขาวิเคราะห์กันก็ได้ มันลงเหวไปขนาดไหน แบบนี้เรียกว่าผู้ชนะจริงๆเหรอ ?

ไม่รู้จริงท่าน ขยายความหน่อยครับ

GDP ติดลบยังจะมาเคลมชัยชนะได้อีก งงจัดเลย

คนจ่ายภาษีนำเข้าคือคนอเมริกา
ถ้ากำลังหัวเราะว่า 10% ทั่วโลก เมกาคุ้ม


คำถามถัดมาคือ
กำแพงภาษีเกิดขึ้นแล้ว และเกิดขึ้นกับทั้งโลก
ใครมันจะย้ายฐานผลิต จากแค่ภาษี 10%
ในเมื่อประเทศไหนก็โดน สินค้าก็ไม่ต้องย้ายไป หรือต้องอ้อมส่งอีก

แล้วอเมริกาจะเปลี่ยนชะตาตัวเองไปได้อย่างไร
ถ้าเกิดดีลมีการลงทุนระยะยาวจริง ส่วนใหญ่จะระยะสั้นเช่น ซื้อเครื่องบิน พืชผลทางการเกษตร อย่าลืมว่าอเมริกาก็โดนส่งขายกลับได้นะ

การลงทุนระยะยาวนั้นกว่ทจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้จริงๆ ก็หมดสมัยไป 2 รอบ

ตั้งแต่เริ่มเทรดวอร์ 2.0 มา เงินดอลเฟ้อ ข้าวของแพง สินค้าขาดตลาด GDP ลด

มันดีขึ้นยังไงอ่ะครับ คนเมกาได้ประโยชน์อะไรจากนโยบายนี้

ก็ยังมีคนไม่เข้าใจเรื่องขึ้นภาษีนำเข้า (Tariff) 10% ว่าคนจ่ายคือคนเมกาไม่ใช่ประเทศต้นทาง

คือที่เขายื่นขอกันเนี่ยเพราะเมกาลูกค้ารายใหญ่น่ะแหละ แต่สุดท้ายแล้วระยะยาวจริงๆก็ต้องยอม เสียงประท้วงประชาชนมันมีผลนะ ไปดูสส.รีพับฯช่วงที่ผ่านมาดิ แทบไม่กล้าลงพื้นที่แล้ว โดนเขาด่ายับว่าเลิกเลียทรัมป์ซะทีโว้ยจะไม่มีแดกอยู่แล้ว

นโยบายแบบนี้ยิ่งผลักดันให้ประเทศเขาไปตกลงค้าขายกันเองได้สบายๆ ไม่ขายเมกาเราก็มีโซนอื่นๆให้ค่อยๆพิจารณาค่อยๆคุยกันไป เมกานี่ไม่นำเข้าเราพวกยางพวกประกอบคอม แล้วไม่เอาจีนด้วย ผมถามคำเดียว "แม่งจะไปง้อใคร "

ยังไม่นับอีกว่า ประเทศแม่งหมุนด้วยทุนนิยม ตลาดหุ้นเจ๊งระนาวไปตอนประกาศ ทุกวันนี้ยังไม่ฟื้นกลับมาเลย มีแต่พวก inner circle ของทรัมป์เองที่รู้ว่าตอนไหนช้อน ก่อนที่จะประกาศพักกำแพงภาษี 90 วันจนหุ้นดีดกลับมา
วันนี้ก็เหมือนกัน เมื่อวันศุกร์มั้ง ตอนที่ตกลงเจรจากับอังกฤษได้ก็บอกเองให้ช้อนซื้อหุ้นกัน (แต่มุงบอกก่อนตลาดปิดแปปเดียวเองมั้ง ) วันนี้เตรียมพุ่งทะยานเพราะเรื่องตกลงกับจีนได้

คือมันคงไม่เจ๊งแบบตูมเดียวถล่มแบบที่คุณคิดหรอก แต่ความมั่นใจของนักลงทุนมันไม่เหลือแล้วไง ตอนแรกเอามีดจ่อคอบอกให้เขาเอาโรงงานมาตั้ง ตอนนี้อ้อมแอ้มๆลดภาษีให้ก็ได้ไรงี้ โถถังกะละมังซักผ้า

อันนี้คือ เข้าใจชัดเจนแล้วก่อนโพสใช่มั๊ยครับ ไม่ว่าขึ้นไปกี่สิบ กี่ร้อย กี่ล้านเปอร์เซ็นต์ คนที่เจ็บตัวที่ต้องมาควักเงินจ่ายก็คือ..."ประชาชน/ผู้ประกอบการชาวอเมริกา หรือที่อยู่ในอเมริกา"



Edit : เห็นEditเพิ่มเติมมา ผมขยายความให้แล้วกัน

1. อเมริกาไม่ได้ผลิตสินค้าเองทุกอย่างขนาดนั้นครับ กว่าครึ่งค่อนคือไม่มีโรงงานผลิตในประเทศ นั่นแปลว่าประชาชน/ผู้ประกอบการในประเทศไม่มีทางเลือกนอกจาก"จ่ายเพิ่ม" ซึ่งก็เตรียมรับแรงกระแทกจากการประท้วงของประชาชนในประเทศเองได้เลย
ส่วนประเทศผู้ส่งออกที่ขายไปอเมริกาจริงๆ ส่วนใหญ่ในปัจจุบันที่นิยมกันมากคือการซื้อ EXW/FOB/CIF/DAP ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับยอดภาษีที่ทรัมป์รีด จะเดือดร้อนแค่ยอดขาย"อาจจะ"ลดลงในอนาคตเพราะผู้ซื้อ(อเมริกา)มีกำลังจ่ายน้อยลง ไม่ได้เดือดร้อนเพราะต้องรับภาระภาษี ก็แค่หาฐานตลาดที่อื่นทดแทน

2. ประเทศไม่ใช่ร้านขายของชำ ที่จะปรับราคาหน้าร้านเพิ่ม/ลดได้ทุกวันหรือบ่อยเท่าที่ต้องการขนาดนั้นได้ครับ มันควบคุมภาพรวมทางเศรษฐกิจไม่ได้ รวมถึงผู้ประกอบการก็คงไม่ได้ปล่อยให้"เถ้าแก่"ปรับราคาเองมั่วซั่ว เพราะผลกระทบโดยตรงต่อแนวทาง/นโยบาย/แผนการบริหาร ยิ่งเป็นนิสัยอเมริกาด้วย ทรัมป์สามารถทำแบบที่ทำอยู่กับกิจการตัวเองได้เต็มที่เลยครับ เต็มที่แค่เจ๊ง แต่กับการบริหารนโยบายเศรษฐกิจโดยรวมมันทำไม่ได้แบบนั้น ขืนทำก็..............

คนก้ยังโง่กันต่อไป ขนาดเขียนขนาดนี้ยังไม่เข้าใจ

ช่างมันเถอะ

ใครได้มากกว่าไม่แน่ใจนะ แต่ฮาตรรกะติ่งจีนบางคน

อเมริกาขี้น tariff = อเมริกาจ่าย อเมริกาเสียเอง โคตรง่าว
จีนขึ้น tariff คืนบ้าง = อเมริกาเสียอีก จีนไม่เสีย โคตรเทพ โคตรเก่ง

Tariff เราไม่เหมือนกัน

เบิ้ล

ดอลลาร์แข็งขึ้นก็ดีใจ เงินฝากจะได้ไม่กระทบ แต่วางใจไม่ได้หรอกหลังจากนี้ 60 วันอาจมีอะไรเปลี่ยนก็ได้ เหมือนช่วงให้รีบตักตวงก่อนจะมีอะไร

สมมุติว่าทรัมกลับลำไม่ขึ้นภาษี สิ่งที่เปลี่ยนไปแล้วคือประเทศต่างๆพยายามลดการพึ่งพาอเมริกา ยังไงก็ส่งผลเสียกับเศรษฐกิจอเมริกาในระยะยาวแน่นอน ยิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือสกุลเงิน การลดการพึ่งพาดอลล่าจะส่งผลลบต่อพันธบัตรอเมริกาอย่างหนัก ทรัมถึงต้องรีบกลับลำตอนโดนเทขายพันธบัตร