เจมี่ คาร์ราเกอร์ ออกมาวิจารณ์ว่า มิเกล อาร์เตต้า มัวแต่หาข้อแก้ตัว รวมถึงมองว่าอาจต้องโบกมือลา อาร์เซน่อล หากฤดูกาลหน้าไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้

อาร์เซน่อล ต้องหมดหวังกับการลุ้นแชมป์อีกครั้ง หลังตกรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยน้ำมือของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทำให้พวกเขาไร้ถ้วยเป็นฤดูกาลที่ 5 ติดต่อกัน โดยถ้วยสุดท้ายที่ได้คือเอฟเอ คัพ ในปี 2020

แม้จะตกรอบแต่ อาร์เตต้า ก็ยังยืนยันว่าทีมของเขาเล่นได้ดีกว่า เปแอสเช ทั้งสองนัด และสมควรได้เข้าชิงมากกว่า

แต่ คาร์ราเกอร์ ไม่เห็นด้วย โดยเขียนบทความลงใน เดอะ เทเลกราฟ ว่า อาร์เตต้า ดูเหมือนจะหาข้ออ้างมากเกินไป เหมือนแฟนบอลในโซเชียลที่ชอบบ่นเรื่องกรรมการและอาการบาดเจ็บ พร้อมชี้ว่า เปแอสเช เล่นได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน

คาร์ราเกอร์ เขียนไว้ว่า "คำพูดล่าสุดของ อาร์เตต้า หลาย ๆ ครั้งเริ่มไปในทิศทางที่ทำให้เขาฟังเหมือนแฟนบอลในโซเชียลที่กำลังบ่นเรื่องอาการบาดเจ็บและการตัดสินของกรรมการมากกว่าที่จะเป็นผู้จัดการทีม"

"เขาบอกว่า อาร์เซน่อล สมควรชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในรอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่คำพูดนั้นกลับทำให้เขาถูกวิจารณ์อย่างหนัก เพราะ เปแอสเช ของหลุยส์ เอ็นริเก้ เป็นทีมที่ดีที่สุดในปีนี้ และพวกเขาก็แสดงฝีมือได้เหนือกว่าในทั้งสองนัด"

คาร์ราเกอร์ ยังบอกอีกว่าทีมแชมป์ทุกทีมก็เจอปัญหาเหมือนกันหมด อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เองก็ต้องรับมือช่วงที่ไม่มี โรดรี้ และการที่ อาร์เตต้า พูดถึงเรื่องบาดเจ็บซ้ำ ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรนัก

"คำอธิบายที่ทีมหนึ่งให้เหตุผลสำหรับความล้มเหลวกลับกลายเป็นข้อแก้ตัวที่ไม่มีน้ำหนักสำหรับทีมอื่น โดยเฉพาะในเรื่องของอาการบาดเจ็บ เราสามารถย้อนไปดูฤดูกาลลีกหลาย ๆ ฤดูกาลที่ทีมรองแชมป์มักจะพูดถึงช่วงเวลาที่หากพวกเขาโชคดีอาจจะต่างออกไป"

"ทุกคนที่เป็นแฟนบอลทั่วไปรู้ดีว่าอาการบาดเจ็บของ โรดรี้ ในเกมกับอาร์เซน่อลเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของฤดูกาลนี้ – มันเป็นการเริ่มต้นของหลาย ๆ เกมที่ อาร์เตต้า ควรจะชนะแต่กลับจบลงด้วยการเสมอ"

"ถ้า โรดรี้ ฟิตพอจะเปลี่ยนการแข่งชิงแชมป์ได้ไหม และจะทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่ได้เป็นแชมป์แบบราบรื่นหรือเปล่า? เราก็ไม่มีทางรู้หรอก สิ่งสำคัญก็คือเมื่อเรามองย้อนกลับไปในฤดูกาลนี้ ข้อเท็จจริงเหล่านี้จะกลายเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แม้ว่ามันจะมีผลกระทบมากในช่วงเวลานั้นก็ตาม"

คาร์ราเกอร์ เน้นย้ำว่าแม้ อาร์เตต้า จะทำงานได้ดีและมีความก้าวหน้า แต่ตอนนี้ก็ถึงจุดที่ต้องตัดสินใจแล้ว ถ้า อาร์เซน่อล อยากหลีกเลี่ยงการเจอช่วงที่เกือบสำเร็จ แต่ไม่ถึงเป้าหมายสักที

"อาร์เตต้า มีเครดิตสะสมมากมายและมันก็ยุติธรรมที่เขาจะได้รับการสนับสนุนมากกว่าการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม"

"แต่ไม่มีใครเข้าใจดีกว่าเขาหรอกว่าความนิยมที่เคยมีในการสร้างทีมอาร์เซน่อลที่สามารถคว้าแชมป์ได้ มันหายไปแล้ว อาร์เตต้าต้องทำให้ฤดูกาลหน้าประสบความสำเร็จ มิฉะนั้นสิ่งที่เขาทำไว้จะกลายเป็นแค่พื้นฐานให้กับผู้จัดการทีมคนถัดไปที่ต้องเติมเต็มส่วนที่ขาด"

นับตั้งแต่พี่ต้าธาตุไฟแตก ทุกอย่างก็เกินควบคุมแล้ว

ถือเป็นปรากฏการณ์ใหญ่พอๆกับแอนโทนี่เลย

แฟนปืนอย่างผมอยากให้มันไปตั้งแต่จบฤดูกาลนี้ด้วยซ้ำ แต่ดูแล้วยังไงก้อได้คุมอีกปี แล้วก็มือเปล่าอีกปีแน่นอน

รุมมันเยอะๆ ดูดิ๊อาการออกมั้ย

สงสารแต่แฟนปืนนี่แหละ บางคนนั่งเชียร์อยู่ดีๆ ต้องมาโดนล้อเพราะโค้ชสัมอะไรก็ไม่รู้

มันก็ทำได้ดีนะ แต่พาวเวอร์การสั่งการแก้เกมกากเกินไป กล้า ๆ กลัว ๆ แถมจุดที่ขาดก็ไม่เสริม จะไปเอาประตูมาถมที่อีกแล้ว มือ 2 ต้องเอาอายุ 30+ ไม่งอแงเรื่องลงมาสำรอง มากกว่าไปเอามือดี มานั่ง เดะ ๆ ก็งอแงย้ายไปอีห ส่วนทีมต้องการปีกดี ๆ หน้าเป้าดี ๆ กลาง ค่อยแทรกตำแหน่ง โอเดการ์ดสักคน

คล้ายๆตอนป๋าราฟาธาตุไฟแตก หรือคนสเปนเป็นสายไฟท์

ต้าอาจรู้ดีทุกอย่าง ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ถ้ายอมรับออกมาโต้งๆ นักเตะในทีมอาจจะเฉา หมดไฟ จบฤดูกาลก็คิด ว๊าาา พลาดแชมป์ไปอีกปี

ต้าเลยเลือกอีโก้แทนว่า พวกเอ็งเล่นได้แบบนี้มันสมควรเป็นแชมป์แล้ว ดังนั้นพวกเอ็งไปพาถ้วยแชมป์ที่ควรเป็นของเรามาซะที

คนเป็นผู้นำ เขาเลือกวิธีคุมหางเสือเรือต่างกัน ส่วนตัวผมไม่ตำหนินะ เพราะสุดท้ายเขาก็ต้องรับผิดชอบวิธีคุมหางเสือด้วยตัวเขาเอง

ทางเลือกปืนสำคัญมากๆนะ

เพราะ ซาบี อยู่ๆดันพูดออกมาว่ามี โปรเจค 4 ปี และอยากคุมทีมใน พรีเมียร์

ซึ่งเอาตรงๆก็ต้อง ซัมเมอร์นี้แหละ

และทีมที่ให้เวลาโค๊ช ขนาดนี้ (4ปี) มีแค่น่อล ลิวพลู เลือกดีๆนะ

ไปกันต่อ

จริงๆควรไปตั้งแต่ฤดูกาลนี้แล้ว ได้โอกาสมากกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้าอีกจะอ้างผลงานอะไรสุดท้ายคือแชมป์ว่าว กองอวยก็บอกแล้วจะเอาใครแทนมึงก็ไปถามบอร์ดบริหารสิมันใช่หน้าที่เรามั้ย สิ่งเดียวที่แม่งทำให้ทีมที่สร้างมาพังคืออีโก้เนี่ยแหละ อยู่ไปก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จ ข้ออ้างเดียวที่มันใช้ได้คือไม่มีกองหน้า แต่ตอนมีโอกาสมึงไปซื้อฮาแวตเนี่ยแหละอีโก้มึง

ไม่เหมือน ราฟาไม่เคยมีเงินช็อปแบบต้าเลย เอารงๆ แกเป็นโค้ชหงส์ที่ น่าสงสารจะตาย

ผมถึงคิดว่าช่วงหลังๆ พี่ต้าเรา เคลมผลงานเรื่องแต้มบ่อยๆ ผมว่าน่าจะเซฟตัวแกเองด้วยส่วนนึง

อันนี้ใครไม่คิดผมคิดนะ พูดถึงแต้ม พูดถึงผลงานในยุโรป

คล้ายๆ เทนฮากพูดอ่ะ เป็นแชมป์รองจากแมนซิตี้เท่านั้น

เรื่องตัวเจ็บนี่พูดจนสร้าง narrative แปลกๆ นักเตะก็คิดเหมือนกันดูจากไรซ์ที่บอก นักเตะที่ดีที่สุด 5-6 คนเจ็บทั้งซีซั่น แต่รู้สึกว่าคนที่เจ็บยาวมีแค่โทมิยาสุไม่ใช่หรอ แล้วทีมอื่นเขาก็เจ็บ เอามาเทียบกันน่อลเจ็บไม่ได้ติด top 5 ด้วยซ้ำ

โคตรโดนใจ

ใช้เงินไปเยอะมากแล้ว และก็ได้เวลาเยอะมากแล้วด้วยเช่นกัน

แต่ยังแถ.....อยู่นั่น

สัมภาษณ์แต่ละดอก
2ครั้งล่าสุดนี่อย่างหนัก

แพ้การแย่งแชมป์ลีก ออกมาบอกว่าทีมแชมป์ได้แต้มน้อยกว่าตอนตัวเองได้รองแชมป์
แต่ลืมไปว่า ตัวเองนับแต้มตัวเองตอนจบ38นัด เอามาเทียบกับตอนเค้าจบ34นัดก็แชมป์แล้ว
แถมถ้าเอาซีซั่นที่น่าภูมิใจจนเอามาขิงนั่นมากางดู ปรากฏว่า 34นัดเท่ากัน ทั้งสองซ๊ซั่นนั่นแต้มน้อยกว่า82อีก
ยังไม่รวมประเด็นอื่นๆอีกมากมายว่า ทีมอื่นเค้าเป็นรองแชมป์แบบสูสีแพ้แต้มเดียว สู้จนนัดสุดท้ายแท้ๆ ไม่เห็นเคยออกมาด้อยค่าแชมป์เลย


แพ้ตกรอบUCL ออกมาบอกอีกว่า ทีมตัวเองดีที่สุด ....ไม่ได้สนใจอีกสองทีมที่เข้าชิงเลย?
ทั้งๆที่ ถ้ามองความเป็นจริงแล้ว ทีมอังกฤษสามทีมก็ตกรอบด้วยน้ำมือทีมเดียวกันหมดคือ PSG นี่แหละ
และ มีเพียงทีมตัวเองทีมเดียวที่แพ้ไปกลับ ในขณะที่ทีมอื่นเค้ามีแพ้นัดชนะนัด
จนทำให้น่าสงสัยว่า ตกรอบช้ากว่าคนอื่นเค้าเพราะแค่โชคดีจับสายมาเจอ PSG ช้ากว่าชาวบ้านเค้าหรือเปล่า?
ลองคิดดูว่า ถ้าเปลี่ยนจากการไปเจอ PSV เป็น PSG ตั้งแต่รอบ16ทีมล่ะ?