May 9, 2025 เลขมันฟ้อง! ศุลกาจีนเผยสินค้าจีนส่งออกสินค้าเข้าไทยพุ่ง +28% ยอดมากกว่าส่งออกเข้าอาเซียนในภาพรวมที่ 21% นักเศรษฐศาสตร์จีนชี้จีนส่งออกผ่านประเทศที่สามก่อนไปถึงปลายทางสุดท้าย

สำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีน เปิดเผยรายงานภาวะการส่งออกสินค้าเดือนเมษายน 2025 พบว่า จีนส่งออกสินค้ามาภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้น +20.8% เกี่ยวกับช่วงเดียวกันในปี 2024 นอกจากนี้ยังเพิ่มสูงขึ้นถึง +11% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมในช่วงที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าประเทศมาเลเซีย และประเทศเวียดนามจะเป็นตลาดส่งออกหลักของสินค้าจากประเทศจีนก็ตาม แต่กลับพบว่า จีนส่งออกสินค้ามายังประเทศไทยพุ่งสูงมากขึ้นถึง +28% และเพิ่มสูงมากขึ้นถึง 17% ไปยังประเทศอินโดนีเซีย

นอกจากการส่งออกสินค้าจากประเทศจีนจะเพิ่มสูงมากขึ้นในภูมิภาคอาเซียนแล้ว จีนส่งออกสินค้าไปยังสหภาพยุโรป หรือกลุ่มอียูในเดือนเมษายน ปรากฏว่าเพิ่มสูงขึ้น +8.3% เทียบช่วงเดียวกันในปี 2024 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเป็นการส่งออกที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมที่จีนสามารถส่งออกได้สูงถึง +10.3% สำหรับตัวเลขการนำเข้าสินค้าของจีนจากสหภาพยุโรปนั้นพบว่าในเดือนเมษายนนำเข้าลดลงมากถึง -16.5% ซึ่งหดตัวลงเพิ่มมากขึ้นจากเดือนมีนาคมที่มีตัวเลขนำเข้าชะลอตัวลง -7.5%

สำหรับตลาดส่งออกสินค้าจากจีนไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า ในเดือนเมษายนผ่านไปการส่งออกของจีนหดตัวลงมากถึง -21% และการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกามายังประเทศจีนหดตัวลงถึง -14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา สามตัวเลขการส่งออกจากจีนไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาในเดือนมีนาคมเพิ่มสูงขึ้นถึง +9.1% สาเหตุมาจากสหรัฐอเมริกาเร่งนำเข้าสินค้าอย่างรวดเร็วและเป็นจำนวนมาก ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะประกาศมาตรการภาษีในเดือนเมษายนที่ผ่านไป ดังนั้นในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ จีนส่งออกสินค้าไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาสุทธิหดตัวลง -2.5% สอดรับกับตัวเลขนำเข้าหดตัวลง -4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2024

ประธาน และหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ สถาบันการเงินมีชื่อว่า พินพ้อยท์ แอสเส็ท แมเนจเม้นท์ นายเจียเว่ย จาง เปิดเผยว่า ตัวเลขภาพรวมในการส่งออกของจีนทั้งในเดือนเมษายนที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการส่งออกจากประเทศจีนส่งผ่านไปยังประเทศที่สาม เพื่อส่งต่อไปยังประเทศปลายทาง และสัญญาการส่งออกกับบรรดาคู่ค้าต่างๆได้มีการลงนามกันไว้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้

ทั้งนี้ การส่งออกในภาพรวมของสินค้าจีนในเดือนเมษายน คิดในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรากฏว่า เพิ่มขึ้น +8.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2024 ตัวเลขส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากนั้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ +1.9%

ที่มา เพจ BTimes

ก็เอาจนผลผลิตการเกษตรระเบิดไปแล้วอ่ะ ผักกาดขาวขนาดขนมาจากจีนแม่งโลละ 10 บาทมึงขายได้ยังไง แล้วเกษตรกรไทยมันจะเอาอะไรไปสู้แค่ต้นทุนก็เท่าไหร่แล้ว

ขายแบบถล่มราคาจน Local อยู่ไม่ได้ก็แบบนี้ล่ะ สินค้าแทบทุกอย่างเลย + สภาพเศรษฐกิจ คนก็อยากซื้อแต่ของถูก

พื้นที่เขาเยอะมากครับ + รบ. สนับสนุน

ฟรีภาษีอ่ะ 55

ส่งออกเข้าไทย มาให้โรงงานพวกจีนด้วยกันที่เป็นนอมินี

แล้วเอาไปตีตราขายฝรั่งในนามไทย

สั่งแป้งเชตผมจากจีนมา ในไทยขายแบบลดราคา 59 จีนขายอันละ49 คุณภาพเหมือนกันเปะ เพราะ made in china จะสู้ยังไงไหว สั่งเสื้อหมี โปโล มา ตัวละ240 ในไทยลายเดียวกันคุณภาพเดียวกัน 290 ส่วนพวก น้ำหอมกับวิตามินอาหารเสริม ใช้ของฝรั่ง

ประเทศยากจนหรือประเทศที่ไม่มีสินค้า high value แบบไทย ตายหมด เพราะเเข่งทำสินค้าทั่วไป ไม่มีใครในโลกสู้จีนได้ เสื้อลายหมีมันทำทีละพันตัเลยมั้ง คนจีนทำงานโรงงาน คือ ทำเป็นกะกะละ8ชม วันนึงมี3กะ แสดงว่า โรงงานรันตลอด 24 ชม คือทำทั้งวันทั้งคืน

เรื่องการขายของก็สู้จีนยากอีก ร้านจีนถ้าพิมพ์เป็นภาษาจีนตอบไว พิมพ์ไทยก็รอหน่อย ตอบแบบ แอพแปลภาษามา ส่วนร้านไทยบางร้านกว่าจะอ่านแชท ข้ามวัน ชื้อ5บาท10บาท ขอแค่ขายได้เงิน จีนมันเอาหมด ไม่เกี่ยงเงินน้อย เป็นนิสัยประจำชาติมั้ง เพราะพวกอากงอาม่ารวยๆก็ทรงนี้

จิงๆส่งมาขายคนจีน แต่ไทยจะซื้อก็ไม่ติด

ตอนแรกนึกว่าจีน make ตัวเลขที่ว่าส่งออกโต 8% เพราะส่งออกไป us drop 21% สงสัยไม่ make ละทีนี้ (ส่งออกมา Asean โตรวม 20.8%)

รัฐบาลแทนที่จะขูดรีดภาษีกับส่วนนี้เจือกมารีดเลือดกับประชาชนในประเทศ ป๊าดดดด

เวียดนามก็นำเข้าจีนเพิ่ม 31% ส่งออกไปสหรัฐโต 34%

กลายเป็นทรัมป์ยิ่งทำให้ประเทศในอาเซียนค้าขายกับจีนเพิ่มเข้าไปอีก

https://mgronline.com/indochina/detail/9680000042746

นำเข้ารถไฟฟ้าเดือนละ 10,000 คัน เฉลี่ยคันละล้าน ก็โดนไปแล้ว 1 หมื่นล้าน นี่ยังไม่รวมอย่างอื่นเลยนะ

กำลังจะกลายเป็นประเทศปลายน้ำของแท้แล้ว

ค่าครองชีพแพงเท่า us แต่ค่าแรง เท่าเวียด

อันนี้แค่ที่วัดได้นะครับ แบบที่วัดไม่ได้อีกเยอะ

แล้วประชาชนใครๆก็ชอบของถูก ก็ต้องอุดหนุนมัน แล้วมันก็จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองในระยะยาว