[RE: [[ พ่อแม่บอกให้ทำประกันชีวิตของท่านไว้ เพราะไม่มีสมบัติอะไรให้ ]]]
Yed-sa-ke พิมพ์ว่า:
James Bourne พิมพ์ว่า:
ท่านบอกทั้งเพศและอายุมางี้ ก็ง่ายเลย
ผมทำเบี้ยให้ดู แล้วท่านลองไปตัดสินใจเอาเอง
ของผม AIA แต่ท่านจะไปทำกับใครก็ได้ หรือยี่ห้ออื่นก็ได้ ผมไม่ซีเรียส แค่จะทำให้ดูเป็นไอเดีย
ประกันชีวิตที่เหมาะที่สุดคือ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เบี้ยถูกที่สุด และความคุ้มครองสูงที่สุด
แต่จะได้เงินแค่ 2 กรณี คือเสียชีวิตหรืออยู่จนถึงอายุ 99 ปี
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประกันที่เราตั้งใจทำไว้ให้เป็นมรดกหรือหลักประกันของคนที่เรารัก
ถ้าทำแบบประกันนี้ จะส่งเบี้ย 20 ปี เบี้ยคงที่ คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี
เป็นแบบประกันที่มีมูลค่า หมายถึงเบี้ยไม่ได้ทิ้ง
สามารถเวนคืนเอาเงินกลับมาได้ ขึ้นกับระยะเวลาที่ส่งเบี้ยไป
ถ้าส่งเบี้ยไปไม่กี่ปีก็จะเอาคืนได้น้อย แต่ถ้าส่งเบี้ยไปนานแล้วก็เอาคืนได้เยอะ ขึ้นกับระยะเวลา
ของแม่ท่านอายุ 58 ปี ถ้าต้องการความคุ้มครอง 1,000,000 บาท
ส่งเบี้ยปีละ 40,600 บาท 20 ปี
ถ้าอยู่จนครบ 20 ปี แสดงว่า ก็ส่งเบี้ยไปทั้งสิ้น 81,200 บาท ถ้าเสียชีวิตได้ 1 ล้านบาท
ของพ่อท่านอายุ 63 ปี ถ้าต้องการความคุ้มครอง 1,000,000 บาท
ส่งเบี้ยปีละ 62,190 บาท 20 ปี
ถ้าอยู่จนครบ 20 ปี แสดงว่า ก็ส่งเบี้ยไปทั้งสิ้น 1,243,800 บาท ถ้าเสียชีวิตได้ 1 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าของแม่ท่านถ้าทำประกัน แล้วอยู่ครบ 20 ปียังไม่จากไปก่อน ยังไงก็ไม่ขาดทุน
แต่ของพ่อท่านจะขาดทุน เขาเรียกว่า เบี้ยท่วมทุน เพราะพ่อท่านอายุเยอะกว่า
และเบี้ยประกันชีวิตของผู้ชายแพงกว่าผู้หญิง เพราะผู้ชายอายุขัยเฉลี่ยสั้นกว่าผู้หญิง
ขอพ่อท่านถ้าจะทำ ต้องไปทำตัว plus เป็นแผนประกันแบบคล้ายๆ กัน แต่อันนั้นจะจ่ายคืนให้ใน 3 เงื่อนไข
คือ 1) ทุนประกัน หรือ 2) เบี้ยรวมที่ส่งไป หรือ 3) มูลค่าเวนคืน อย่างใดอย่างหนึ่งแล้วแต่อันไหนมากสุด
หมายความว่าการันตีว่าไม่ขาดทุนเบี้ยที่ส่งไป ในกรณีที่เบี้ยท่วมทุน
แต่ทั้งนี้ ค่าเบี้ยที่ผมทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เป็นในกรณีที่ผู้เอาประกันหรือพ่อแม่ท่าน สุขภาพดีตามมาตรฐานนะ
ถ้าหากว่ามีโรคประจำตัว หรือมีค่านั่นนี่อะไรเกินมาตรฐานเช่น น้ำตาล ความดัน น้ำหนัก ก็อาจจะมีการเพิ่มเบี้ยจากปกติได้
ลองเอาไปชั่งใจดูว่าคุ้มไม่คุ้ม
แต่อย่าลืมว่าวัตถุประสงค์หลักของประกัน คือ "คุ้มครองความเสี่ยง" ความเสี่ยงในที่นี้คือ ไม่รู้ว่าชีวิตเราจะอยู่ได้อีกยาวนานแค่ไหน
ถ้าทำประกัน ส่งไป 20 ปีแต่ยังมีชีวิตอยู่ เราอาจจะคิดว่าไม่คุ้มเลย
แต่ถ้าไม่ได้ทำ แล้วจากไปเร็ว เราอาจจะคิดว่าเสียดาย รู้งี้น่าจะทำไว้ก็ดี เงินไม่กี่หมื่นแต่เสียชีวิตได้หนึ่งล้าน
อันนี้แล้วแต่เราจะคิดครับ
ปล.ค่าเบี้ย ผมคำนวณที่ทุนประกัน 1 ล้าน แต่ถ้าอยากได้ถูกหรือแพงก็คิดได้เองเลยตามสัดส่วน จะเอาทุน 1 แสนก็หารสิบ เอา 5 แสนก็หารสอง เอาสองล้านก็คูณสอง มันจะคร่าวๆ บวกลบนิดหน่อย
เข้าใจแล้วก้เห็นภาพเลยครับ ขอบคุณมากครับ ผมยังไม่ค่อยเข้าใจในส่วน ถ้าอยู่ไม่ครบ 20 ปี แบบนี้จะคิดยังไงครับ
ประกันชีวิตแบบนี้มีเงื่อนไขการจ่ายเงินแค่สองกรณีครับ
1. เสียชีวิต
2. อยู่จนครบสัญญา ในที่นี้คือ 99 ปี
ซึ่งถ้าเราทำทุนประกันหรือเรียกว่าความคุ้มครองก็ได้ 1 ล้านบาท นั่นหมายความว่า
เสียชีวิต ได้เงิน 1 ล้าน จะเสียชีวิตเมื่อไหร่ก็ตาม เช่น จ่ายเบี้ยไปแล้ว ประกันอนุมัติเริ่มคุ้มครองวันเดียว แล้วเสียชีวิตเลย ก็ได้เงิน 1 ล้านบาท
จะเสียชีวิตด้วยเจ็บป่วย โรคภัยไข้เจ็บ อุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม ก็ได้เงินเช่นกัน จะไม่ได้หลักๆ 2-3 กรณี
เช่น โดนฆาตกรรมโดยผู้รับผลประโยชน์ เหมือนที่เราเห็นข่าวกันว่าทำประกันให้เมีย แล้วจ้างฆ่า แล้วผัวได้เงินอย่างนั้น
หรือ ฆ่าตัวตายในปีแรกของกรมธรรม์ แต่ถ้าฆ่าตัวตายในปีที่สอง ยังได้เงินอยู่ครับ ประกันเขาแฟร์ๆ เขาถือว่าคนคิดจะฆ่าตัวตาย ถ้าผ่านไปปีนึง มักล้มเลิกความคิดนั้น เพราะเจอทางออกของชีวิต หรือคิดได้แล้ว
หรือ สมัครใจไปรบในสงคราม เช่น สมัครไปรบที่ยูเครนงี้ ถือว่าเอาตัวเองไปเสี่ยงกับการเสียชีวิต
เงื่อนไขที่สอง คืออายุยืนยาว จนถึงอายุ 99 ปี ก็จะได้เงิน 1 ล้านบาทเช่นกัน
ส่วน 20 ปี คือระยะเวลาที่ต้องจ่ายค่าเบี้ยครับ ถ้าจ่ายจนครบ 20 ปีแล้วยังไม่เสียชีวิต ก็ไม่ต้องจ่ายเบี้ยต่ออีก แต่ยังไม่ได้เงินนะครับ จะได้ต้องสองกรณีที่บอกข้างต้น
แต่จะยังมีอีกกรณีหนึ่ง เวลาเราทำประกันประเภทนี้ จะบอกว่ากรมธรรม์มีมูลค่า หมายความว่าเบี้ยไม่ทิ้ง มันสะสมไว้มีมูลค่า ไม่เหมือนประกันสุขภาพ อุบัติเหตุ ประกันรถ ประกันบ้านที่เบี้ยทิ้ง
โดยมูลค่าของกรมธรรม์มันไม่เท่ากับเบี้ยที่ส่งไปนะครับ เพราะค่าเบี้ยมันจะเอาไปทำหลายอย่าง
ดังนั้น ถ้าส่งแค่ไม่กี่ปี แล้วต้องการยกเลิก เอาเงินคืน จะได้แค่บางส่วน ไม่ได้ทั้งหมด และถ้ายกเลิกเร็ว จะได้น้อยมากๆ แต่ถ้าทำไปสิบปี ยี่สิบปี หรือสามสิบปีแล้ว มูลค่ามันจะเริ่มสูงขึ้น
มูลค่านี้จะมีตารางบอกชัดเจนในกรมธรรม์ ว่าถ้าขอเวนคืนปีไหนจะได้เท่าไหร่