รัฐบาล หัว ค-ว-




เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 68 นางสาวกุลยา ตันติเตมิต อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน และดีเซล ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 6 พ.ค.68 ที่ผ่านมา นั้นถือเป็นการช่วยให้สถานการณ์การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตดีขึ้น เนื่องจากการจัดเก็บภาษีรถยนต์ตามมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ทำให้รายได้ยังต่ำกว่าเป้าหมายค่อนข้างมาก โดยการปรับขึ้นภาษีน้ำมันสูงสุดลิตรละ 1 บาท จะช่วยให้กรมจัดเก็บรายได้เพิ่มเดือนละ 2,900 ล้านบาท

https://www.thairath.co.th/news/auto/news/2856975

ค

ค เบิ้ลแม่งเลย

ถ้าเอาเงินส่วนนี้ไปทำขนส่งสาธารณะจังหวัดใครจังหวัดมันพอรับได้นะ แต่ถ้าเอาไปแจกไปเรื่อยนี่...

ทำไมไม่ไปเก็บภาษีหัวชาร์จแทน

อุ้มค่าไฟ ค่าน้ำมัน ดีกว่าเอาเงินไปแจกครับ
รถ EV มันมีหลายปัจจัยนะ ไม่ใช่ว่าขายถูกแล้วจะซื้อเลย
ช่วงนี้ออกรถป้ายแดงยีห้อไหนราคาขายต่อก็ตกยับๆ ซื้อรถน้ำมันมือสองเงินสดคุ้มสุด

อยู่เฉยๆรายจ่ายก็เพิ่มขึ้นว่ะ

ค่าไฟ มันมีทางอื่นอีกแต่จะชนนายทุนไหม

ค่าน้ำมัน ก็เก็บคืนกองทุนให้ครบ แล้วลดเก็บภาษีลงดีกว่าไหม

ค

แบบนี้สันดาปก็ยิ่งเกลียด ev เข้าไปอีกสิ ค.

เงินเอาไปแจกหมดแล้ว หาเงินไม่เป็นก็ขูดเอาจากประชาชนนี่ล่ะ

หรือจริงๆ ควรเฉลี่ยค่าที่รถ EV ไม่ได้เสียภาษีน้ำมัน โยกไปจ่ายภาษีรถแทน
เช่น ภาษีรถน้ำมันปีละ 1000 แล้วต้องเสียภาษีน้ำมันทั้งปี 500 บาท
ถ้าเป็นรถ EV จะไม่ได้เติมน้ำมัน ทำให้ไม่ต้องเสีย 500 บาทต่อปี ก็เอาส่วนนี้ไปบวกเพิ่มตอนเก็บภาษีต่อปี จากเดิมที่ต้องเสียภาษีปีละ 1000 ก็กลายเป็น 1500 แทน
หลักการประมาณนี้ แต่อาจจะไปหาสูตรอีกทีว่าต้องเก็บเพิ่มเท่าไหร่
ปล. โดนด่ายันลูกบวชแหงๆ

อ่าว!!! เก็บภาษีรถไฟฟ้าไม่ได้ตามเป้า ละมาเกี่ยวเชี้ยกับคนใช้รถน้ำมันแบบพวกตูวะ ไอ้เวร!!!!


คือมุงจะทำงานกันแบบไร้สมอง ทำโง่ๆ กันทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร รอจนมีปัญหาแล้วค่อยมาล้อมคอกกันรึไงวะ ไอ้พวกสันขวาน!!!

น้ำมันโลกลงแล้วลงอีก
ของไทยนิ่ง โกยเก็บคืนเข้ากองทุนน้ำมันต่อ
ไม่มีความสามารถเก็บภาษี EV พี่จีนได้

เลยมาขึ้นภาษีสรรพสามิต 1 บาท
และเมื่อสรรพสามิตขึ้น พาลภาษีท้องถิ่น + VAT ขึ้นตามไปด้วยอีก
ได้ปีละหมื่น ๆ กว่าล้าน เพื่อเอาไปรวมกับเงินกู้ไปแจกคนละหมื่น

สภาพพพ

เงินหมื่นกุยังไม่ได้ จะมาเก็บเพิ่มอีก

รัดทะบวย