ถูกต้องครับถ้าระบบการศึกษามันเท่าเทียมกันจริงๆ เด็กทุกคนจะได้มีโอกาสให้กับตัวเองมากขึ้น


แต่ในภาพความจริง เด็กไทยเราอยู่กับระบบการศึกษาเดิมๆที่ผลักดันเรื่องเดิมๆ ผลักแต่คนเรียนเก่งทางวิชาการเพื่อเอาไปติดป้ายหน้าโรงเรียนของบแค่นั้นแหละ
ส่วนคนไม่เก่งในเรื่องพวกนี้ก็เป็นภาระระบบไปจบๆ
ไม่มีหนทางอื่น ไอฝั่งศิลป์ ฝั่งสังคมบลาๆ ไม่ต้องไปคิดถึงภาพอนาคตที่เกี่ยวข้องกับการเรียนมากนัก คือไปคิดอีกทีตอนทำงานเลย
เพราะในเวทีการศึกษาบ้านเราไม่มีที่ให้แขนงอื่นๆครับ แสงมีอยู่แค่แขนงเดียว คือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เท่านั้น แล้วถ้าคุณไม่มีทุนทรัพย์ในการหาสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเด็กอีก ก็ทำไรไม่ได้ครับ

ต้องเรียนกันไปแบบนีแหละ

มันเป็นเรื่องจริงที่คนรวยรู้ ถ้าเป็นไปได้ทุกคนอย่างส่งลูกเรียนพวกอินเตอร์พวกที่อยู่นอกระบบการศึกษาไทย เพราะโอกาสที่เด็กจะได้เข้าถึงสิ่งที่ตัวเองถนัดมีมากกว่า แล้วก็แปลกพวกคนกลุ่มนี้ก็มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงระบบพวกนี้ได้แต่ก็เลือกจะไม่ทำออกแนวสนับสนุนให้มันยังมีอยู่ต่อไป โดยอ้างว่าเป็นแบบไทยๆทำไมต้องทำตามต่างชาติ แต่ทุกคนพยายามส่งลูกหนีระบบพวกนี้สุดๆ ระบบการศึกษาในไทยไม่มีทางเปลี่ยนแปลงแน่นอน เพราะถ้าหายไปพวกกลุ่มอีลีทก็จะขาดแรงงานให้เอาเปรียบขาดคนที่ช่วยให้ตัวเองรวยขึ้น

เอ้าผมยกตัวอย่างให้ดูละกัน Beetlejuice

เป็นโรคบกพร่องทางสติปัญญา ทดสอบ IQ ได้ประมาณ 40

แต่ก็มีงานทำ ออกรายการจนดังได้

นับเรื่องเงินคือรวยกว่าคนจบ Mit Havard หลายๆคนอีก

คือผมจะสื่อว่าการเป็นคนโง่มันก็ไม่ได้แย่เสมอไป

ถ้ารู้จักความสามารถด้านอื่นๆของตัวเอง ก็ประสบความสำเร็จได้

ถ้า D ที่คณิตไม่เก่ง สังคมก็ไม่เก่ง แต่วาดรูปเก่ง

จนสามารถขายงานภาพได้หลักหลายล้านต่องาน

อันนี้ยังโง่อยู่หรือเปล่าครับ?

แค่คำแก้ตัวให้สบายใจ

โง่ ≠ จะต้องล้มเหลว อย่าเอามาปนกัน

ถึงจะโง่แต่ถ้ามีความสามารถอื่นๆโดดเด่นก็ประสบความสำเร็จได้

โง่ ของคนทั่วไป คือ เอาตัวไม่รอด
โง่ ของแจ็ค คือ ทักษะคำนวนไม่ดี

แต่ผมเห็นด้วยกับคนทั่วไปนะ คำว่า โง่ มันแรง ไม่ควรใช้นิยามแค่เพราะเค้าเป็นคนที่มีทักษะคำนวนไม่ดี

ที่ผมยกมาในคลิปนี่แหละ คือเอาตัวไม่รอดเลย

แกเขียนชื่อตัวเองไม่เป็นด้วยซ้ำ

งั้นช่วยยกตัวอย่างคนโง่หน่อยครับ

ว่าในนิยามของท่าน ต้องเป็นแบบไหน

หรือโลกนี้ไม่มีคนโง่เลย ทุกคนล้วนมีความฉลาดในบางด้านทั้งนัั้น ?

ใช่ครับ คือบ้านเราชอบตีความแบบเหมารวม คุยแยกประเด็นกันไม่ค่อยได้

โชคดี ที่มีครอบครัวที่ดีและพร้อม มากกว่า
ไม่ใช่ทุกคน จะได้รับโอกาสแบบนีหรอก ไปเรียนดนตรีที่อเมริกา 555+

แบบนี้เรียกประชดโง่ๆ ครับ

มีครับ โลกนี้มีคนโง่"ถ้าคนๆนั้นไม่เก่งอะไรหรือไม่มีอะไรดีเลย" หรือถ้าคุณเลือกจะมองเป็นเรื่องๆไป แต่ที่ผมเจอมาในชีวิต ผมว่าทุกคนล้วนมีความสามารถ (talent/skill) ในบางด้าน บางคนมีมาก บางคนมีน้อย คนที่"โง่"เรื่องการเมือง แต่ฉลาดเรื่องธุรกิจ แบบนี้คุณเรียกคนโง่หรือเปล่า ผมไม่นะ เวลาผม describe คนๆนั้น ผมก็จะบอกว่า"เออ ไอ้นั่นอ่ะ เรื่องการเมืองแม่มโคตรโง่ แต่ต้องยอมรับเลยว่าหาเงินโคตรเก่ง โคตรฉลาด"

คุณจะเหวี่ยงแหว่าใครซักคนเป็นคนโง่ โดยไม่มองภาพรวมผมว่าก็ไม่ถูกนะครับ

ระดับ เข้า UCLA ได้

ไม่โง่หรอกครับ ภาษาอังกฤษ ต้องเก่งพอตัวเลย

อันนี้คิดว่าคุณมองการวาดรูปผิดไปครับ
การวาดรูป คนไม่วาดรูปมักจะเข้าใจว่ามันเป็นงานที่ใช้อารมณ์ ใช้พรสวรรค์ ใช้พลังศิลปิน(?)ที่เข้าใจไม่ได้ ไม่ต้องทำความเข้าใจ
แต่ที่จริงการวาดรูปให้เก่ง เป็นวิทยาศาสตร์ครับ
มันต้องทำความเข้าใจ รูปร่าง รูปทรง สร้างภาพ 3มิติขึ้นมาในหัวได้
ต้องทำความเข้าใจการทำงานของแสง แสงกระทบวัตถุแล้วจะสะท้อนแบบไหน เกิดเงารูปร่างไหน ทิศทางไหน
วัตถุที่แตกต่างกันจะทำงานกับแสงต่างกัน ผ้าแพรกับผ้าฝ้ายสะท้อนแสงต่างกัน ให้เงาต่างกัน
การวาดทิวทัศน์ให้มีมิติระยะใกล้ไกล ต้องเข้าใจว่าการกระเจิงของแสงในธรรมชาติจะทำให้วัตถุที่อยู่ไกลออกไปเสียความคมชัด
ต้องเข้าใจทัศนมิติ ว่าของที่อยู่ไกลออกไปจะเล็กลงในสัดส่วนเท่าไหร่ พวกนี้ใช้ใช้หลักการวัดระยะแบบตรีโกณมิติซึ่งมีความเป็นคณิตศาสตร์มากๆ
การวาดภาพภายในอาคารก็ต้องรู้สัดส่วนของสิ่งปลูกสร้างและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เช่น เคาเตอร์สูง 120 ซม ประตูสูง 2 เมตร ถ้าสัดส่วนพวกนี้ผิดภาพจะดูประหลาดทันที
การวาดคนก็ต้องรู้สัดส่วนร่างกาย โครงสร้างกระดูก กล้ามเนื้ออย่างละเอียด ศิลปินเก่งๆนี่ถอดตำราแพทย์มาเลย
ศิลปะ ต้องใช้องค์ความรู้ของวิทยาศาสตร์ธรรมชาติมาประยุกต์ใช้เยอะมาก
องค์ความรู้ทางศิลปะเองก็ผ่านการสะสมมาไม่น้อยกว่าคณิตศาสตร์หรือสังคมศาสตร์เลยครับ