ผมก็กลัวว่ามันจะเห่อแค่ตอนแรก หลังๆขี้เกียจซื้อกินเหมือนเดิม

ผมกินพันธ์ุไทยได้ลด50% เดือนละ10แก้ว
แล้วก็ออลคาเฟ่ของเซเว่นในวันที่จัดโปร ผมจะซื้อแบบแยกน้ำแข็งครับ

ถ้าชอบดื่มโคลด์บรูว ซื้อแบบซองมาแช่ชงกินเอง หรือแบบเข้มข้นมาผสม ผมทุนตกอยู่แก้วละ 15 บาทเองครับ

ผมดริปทุกวันนะ ถ้าไม่ตื่นสาย ผมว่าไม่ได้ลำบากนะ ไม่เกิน 10 นาที ความสนุกมันคือการ discover เมล็ดของแต่ละยี่ห้อ แต่ละที่ไปมากกว่า ซึ่งการได้ลองไปเรื่อยๆ มันก็ทำให้ไม่น่าเบื่อ/ขี้เกียจครับ

เครื่องผมใช้มือสองหาตามในกลุ่มนั่นแหละครับ
1,500-1,800 dolce gusto genio s plus
แคปคั่วกลางกล่องแดง ผมกินแค่ตัวนี้เลย

ผมดริปเองประหยัดกว่าซื้อแก้วนะเอาจริงๆ อุปกรณ์ถ้าเป็นคนที่ไม่ซื้อของตลอด มันก็ผระหยัดจริงๆ เสียแค่ค่ากาแฟ+กระดาษดริปแค่นั้นเอง ตัวบดมือตัวนึงก็ใช้ได้ตั้งหลายปี

ผมว่าดริปเองถูกกว่าแฮะ แต่มันเสียเวลาทำไม่ได้ทุกวัน หลายคนอาจบอกว่ากาแฟแพง แต่ถ้าไม่ได้ติดถึงขนาด

ต้องล่อเมล็ดนอกรัวๆมันก็ไม่ได้แพงขนาดนั้น Gem forest ได้รางวัลยังตก 4-500 เอง คิดเป็นต่อแก้วราคาเบา

แต่ซื้อมันสะดวกกว่า ติดตรงต้องหาร้านประจำหน่อยที่มันถูกปากแล้วไม่แพงมาก

ผมซื้อเมล็ดกาแฟมาทำ cold brew ในเหยือกเองครับทำทีเป็นลิตรมาเทกินเอาขี้เกียจทำใหม่ทุกวัน

อุปกรณ์มีแค่ที่กรองกับเมล็ดกาแฟสั่งในเน็ตเอา บดไปขอร้านแถวบ้านที่รู้จักกันบดให้ ตกแก้วนึงไม่น่าถึง 10 บาท

แต่ราคาต้องดูความเข้มข้นที่เรากินอีกทีนะครับแล้วแต่คนตามราคาเมล็ดกาแฟเลย

ผมเน้นซื้อตอนลดราคาครับ มันจะได้ราคาประมาณ 20-30 บาทครับ
ถ้าไม่ลดผมก็ไม่กิน 5555

ถ้าซื้อร้านดริปราคา 40-50 กาแฟเกรดสู้ดริปเองไม่ได้แน่ๆ บางร้านขายแพงคนทำแค่วนน้ำเป็นก็มาเปิดร้านขายกันแล้ว ดริปเองสบายใจกว่าอาจจะดริปไม่เทพแต่อย่างน้อยมันถูกปากเราเองแน่ๆ ระยะยาวยังไงทำเองคุ้มกว่าอยู่แล้ว ปกติผมซื้อกาแฟ 200g ราคาราวๆ 250-300 ต้นทุนทั้งทางตรงทางอ้อมยังไงก็ไม่เกิน 30 บาท อุปกรณ์เริ่มแรกผมลงทุนไปประมาณ 3500-4000 เอามาปันส่วนวันละ 10 บาท ปีแรกต้นทุนผมจะอยู่ที่ประมาณ 40 บาท พอปีที่ 2 ก็ถูกกว่าซื้อร้านละ บางรอบซื้อกาแฟถูกกว่านี้ทุนก็ถูกลงไปอีก ถ้าแต่คุณเริ่มเข้าวงการแล้ว มันจะไม่จบแค่นี้ สุดท้ายยังไงก็แพงกว่าร้านแน่นอน เพราะอุปกรณ์คุณจะเยอะมากกก อยากลองนั่นนี่ไปเรื่อย

โห ท่านถามซะยากเลย

ดริปเอง ท่านซื้ออุปกรณ์เกรดไหน เมล็ดกาแฟ แพงมั้ย

คือทำเอง มันถูกกว่าแน่ๆ แต่กว่าจะคุ้มทุน ก็ต้องดูว่าท่านลงทุนไปเท่าไหร่

แต่ที่เสียมากกว่าคือเวลา เราต้องมาทำเอง แต่ก็นะ ถ้าเราชอบก็โอเค

จากคนดริปมา 4 - 5 ปีผมบอกเลยดริปเองยังไงก็คุ้มกว่า เพราะ เวลาผ่านไป คุณจะแค่ดริปกินไม่ได้ดริปเอาเมล็ดอะไรมากมาย เผลอ ๆ บางช่วงผมยังเอากาแฟ Tops มาดริปเลย แล้วมันคุมต้นทุนได้เอง

ถ้าช่วงไ

ผมเชื่อว่าพวกดริปมานานหลายปีก็เป็นเหมือนผมนั้นละ

Cold Brew อุปกรณ์น้อยกว่าจริงแต่มีปัญหาเรื่องของเวลา

ดริปเองคุ้มกว่าครับ

กาแฟโดยทั่วไปร้านจะคิดราคา 2 เท่าของต้นทุนวัตถุดิบ

แต่คนที่กินประจำทุกวันอย่างผม

บอกเลยว่าไม่ติดใจที่จะซื้อ ต่อให้รู้ทั้งรู้ว่าแพงกว่า

เพราะการชงกาแฟสดแต่ลครั้งมันมีเวลาที่ต้องใช้

ทั้งการชงและการล้าง

ผมต้ม Moka pot ที่ออฟฟิศเอาครับ ประหยัดเงินดีได้เลือกเมล็ดกาแฟที่ชอบด้วย

* ผมออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่สายคอเทพนะ คือกินได้หมดทุกยี่ห้อ ขอแค่รสไม่ติดเปรี้ยว เอาแบบขมจ๋าๆจัดๆเลย แล้วผมชงแบบ Moka Pot มากินที่ทำงานเองทุกเช้าตลอด


โดยผมจะทำการเตรียมไว้ตอนกลางคืนก่อนนอน โดยใส่น้ำในหม้อต้ม ใส่ผงกาแฟ และประกอบร่างให้เรียบร้อยแล้ววางไว้บนเตาไฟฟ้า ตื่นเช้ามาเสียบปลั๊กให้มันทำงาน เข้าไปอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จก็พร้อมกาแฟพอดี


จากนั้นผมก็ใส่แก้วเก็บอุณหภูมิพกมาที่ทำงาน กว่าจะถึงที่ทำงานมันก็คลายความร้อนไปเยอะ แล้วก็ไปหาซื้อน้ำแข็งมาเทชงกิน จบ


ุสุดท้ายผมประหยัดไปได้ 40 บาท/วัน อาทิตย์นึงก็ 200 บาท แปลงมาเป็นค่าน้ำมันมอเตอร์ไซค์ได้ครับ


ตอนแรกผมสั่งกาแฟคั่วเข้ม-เข้มมากที่เขาบดละเอียดแล้วจากใน Shopee ตลอด แต่วันนั้นของหมดแล้วยังไม่ได้สั่ง ด้วยความฉุกเฉินเลยเข้าไปซื้อตัวตามภาพด้านล่างที่ Makro ถุงนี้ 229 บาทได้ 500 กรัม แม่งอย่างถูกใจเลยครับ





ปล. ถุง 500 กรัม ผมกินได้ประมาณ 2-3 อาทิตย์ได้ครับ ตีเป็นวันก็อาจจะ 20 วัน
ปล2. ผมไม่เอา Feeling ห่าเหวอะไรทั้งนั้น ผมเน้นกินได้และประหยัดเงินเลย 555555555555555555