แพทย์แชร์อุทาหรณ์ อย่าไว้ใจให้เมียนวด พบเคสคนไข้ชายวัย 54 สมองตายบางส่วน-แขนขาข้างขวาอ่อนแรง

นพ.ประชา กัญญาประสิทธิ์ แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมประสาท เจ้าของเพจ “หมอประชาผ่าตัดสมอง” แชร์อุทาหรณ์ “อย่าไว้ใจให้เมียนวด” หลังพบเคสคนไข้ชาย วัย 54 ปี รู้สึกปวดเมื่อยต้นคอ จึงให้ภรรยานวดให้หลังทานข้าวเย็นเสร็จ แต่กลับเคล็ดมากกว่าเดิม จากนั้นจึงเข้านอน แต่เมื่อตื่นเช้ากลับรู้สึกแขนขาข้างขวาอ่อนแรง และไม่พูด ซึ่งเจ้าตัวไม่มีโรคประจำตัว จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอ ก่อนรีเฟอร์มา

ผลซีทีสแกน พบสมองตายบางส่วน เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองบริเวณหน้าซ้ายที่หายไป เหลือเส้นเลือดเพียง 3 เส้น ซึ่งเคสนี้เกิดจากเส้นเลือดที่คอ ปริ แตก แล้วลิ่มเลือดไปอุดตันเส้นเลือดของตัวเอง และเคสนี้เกิดขึ้นในเวลากลางคืนเกิน 8 ชั่วโมงจนสมองตายเป็นสีดำ จึงเลยเวลาที่จะทำอะไรได้ นอกจากการขยายกะโหลกเพื่อเพิ่มโอกาสรอด


การไปกดคลึงเส้นเลือดที่เรียกว่า “คาโรติด อาเทอรี” ทางด้านหน้าจะทำให้หลอดเลือดเราปริแตกเซาะเข้าไปในผนังของตัวเอง แล้วกลายเป็นลิ่มเลือดอุดตัน จึงทำให้เคสนี้มีสมองตายในข้างซ้าย ซึ่งอุทาหรณ์จากเคสนี้ การนวดการคลึงคอแรง ๆ จะทำให้เส้นเลือดเราปริแตกแล้วก็ตัน เรียกว่า อาเทอรี ดีเซสชัน


ฉะนั้นผู้ชายทั้งหลาย ให้ภรรยาไปเรียนนวดจริงๆ จะได้รู้กายวิภาค อนาโตมี ไม่ไปกดโดนเส้นเลือดของสามี นวดแผนไทยเขาต้องเรียนมาว่า เส้นเลือดข้างหน้าห้ามกด เส้นเลือดท้ายทอยห้ามกดโดนเส้นเลือด ไม่ฉะนั้นจะทำให้เกิดความพิการ เกิดสโตรก จากการนวดได้ สุดท้ายแล้วถ้าท่านชายจะไปนวดก็ให้ไปหาหมอนวดแผนไทย

https://ch3plus.com/news/socialnews/morning/438916

เชื่อมั้ยสมองตายแค่นั้น แปปเดียวลามโคตรเร็ว ของพ่อผม จาก จุดเล็กๆๆ 3 วัน แม่งตายไปครึ่งนึงเลย

หมอถามผ่ากะโหลกมั้ย ไม่ผ่านแล้วหมอ ปล่อยให้แกไปสบายดีกว่า

วัย 55+ นี่ผมว่า สโตรคแทบจะมาได้ทุกเมื่อ

น่ากลัวชิบ

แต่สารภาพว่า ไม่ได้คิดเรื่องนวดเลย ตอนกดเข้ามา

เป็นเหตุผลที่ต้องไปใช้บริการหมอนวด

เชื่อมั๊ยที่บ้านผมคุยกันไว้ว่า ถ้ามีใครในบ้านเป็น Stroke ไม่ต้องผ่าให้เค้าไปสบาย ดีกว่าผ่าแล้วต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียง

เมื่อ 8 ปีที่แล้วอยู่ๆ พ่อผมก็มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง เดินไม่ค่อยได้ พาไปหาหมอระบบประสาท หมอบอกว่าเป็นพากินสัน พอเป็นได้ประมาณ 5 วัน เริ่มเดินไม่ได้ ปัสสาวะกลั้นไม่อยู่ เลยพาไปหาหมอที่ รพ.สุราษฎร์ธานี เป็นวันอาทิตย์พอดี ห้องฉุกเฉินมีแต่หมอเด็ก ให้ทำ X-Ray แล้วส่งต่อไปทำ CT Scan สังเกตุแล้วว่าตอนหมอเป็นผล CT Scan เค้าเรียกหมอที่เข้าเวรทุกคนมาดู แล้วชี้บนจอกันใหญ่

สักพักใหญ่ๆ เค้าก็มาแจ้งว่า เส้นเลือดในสมองของผู้ป่วยแตกนะ แตกเยอะ โอกาสในการผ่าแล้วกลับเป็นปกติไม่ถึง 20% จะผ่ามั๊ย ถ้าไม่ผ่าก็ให้เอาผู้ป่วยกลับบ้านแล้วผู้ป่วยจะค่อยๆเสียชีวิตไปเอง

ผมหันไปคุยกับแม่ว่าจะเอายังไงดี ผมบอกแม่ว่าอย่าผ่าเลย แม่บอกว่าผ่าเถอะ ถ้าพ่อติดเตียงแกจะเป็นคนดูเอง สรุปตัดสินใจว่าผ่า อ.หมอดำรงศักดิ์ ศัลยแพทย์สมอง มาผ่าให้ ไปโรงพยาบาลตั้งแต้ 8 โมงเช้า ได้ผ่าประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง

สุดท้ายหลังผ่าตัด พ่อผมกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่มีผลข้างเคียงใดๆทั้งสิ้น หล้งจากนั้นอีก 3 ปี พบก้อนเนื้อในสมองใหญ่เท่าไข่ไก่ ตัดสินใจผ่าอีก คราวนี้เป็น หมอวทัญญู ผ่าให้ พบกว่าเป็นมะเร็งจากปอดที่หลุดไปที่สมองหลังจากผ่า ต้องไปรักษามะเร็งปอดอีก

ตอนนี้แกก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทำงานได้เหมือนเดิม แต่ต้องกินยาพุ่งเป้ามะเร็งปอดมา 3 ปีแล้ว

ของผม หน้าเบี้ยวปากเบี้ยว มา 2 อาทิตย์ หมอบอกกล้ามเนื้อหน้าอ่อนล้าเฉยๆ
หลังจากนั้นนอนแล้วขยับตัวไม่ได้ ลุกไม่ขึ้น 3 วัน
วันสุดท้ายยังพอพูดจาได้บ้าง อีกวันถัดมา
แล้วนอนเป็นผักเลย ไม่ตอบสนอง ไม่หือ ไม่อือ ใดๆทั้งสิ้น
นอนรอปาฎิหารย์ อาทิตย์กว่าๆ
ผม CT Scan บอกไม่มีแล้วปาฎิหาร สมองที่ตายตอนนี้มันลุกลาม ตายไป 50% แล้ว
เลยตัดสินใจไม่ทำอะไรกับแกแล้ว แล้วอีกไม่กี่วันแกก็หายใจแผ่ว เสียไปเอง

ของผมถ้าสมองยังไม่ตายแบบลุกลาม ยังพูดได้ ขยับได้ ผมก็สู้เต็มที่นะ แกใช้สวัสดิการราชการ ทำอะไรได้เยอะ แต่อันนี้ ไม่มีสัญญาอะไรตอบกลับมาเลย แม้แต่นิดเดียว