ติดปาก GEN Y / BOOMER
ท่าสำหรับผม คงเป็น Koenigsegg

เอาจริงๆถ้าเอาหลักเหตุผลมาใช้ คือแลมโบมันทันมือเท้าและอะไหล่ไม่เดือดเท่าเฟอร์รารี่ครับ

แลมโบมันอยู่ใต้ชายคา Audi ซึ่ง Audi อยู่ใต้ชายคา VW อีกที ซึ่งอะไหล่สิ้นเปลืองหลายๆชิ้น ก็ยืมจาก Audi (ซึ่งก็ยืมจาก VW) มาใช้ ถ้าไม่สนแปะแบรนด์ เอาของ VW/audi ใส่กันเรื่องปกติมาก (ย้ำว่าอะไหล่สิ้นเปลืองนะ)

ขณะที่พวกเฟอร์รารี่นี่มันออกแบบมาให้บริษัทได้กินตลอดอยู่แล้ว เอาแค่นโยบายทำรถก็คนละเรื่องละ ถ้าใครได้ดูหนังแลมโบฯ ก็จะรู้ว่าเฟอร์รารี่แม่งไม่ได้ตั้งใจอยากทำรถขายขนาดนั้นหรอก แต่แม่งทำเพราะเอาเงินไปลงกับทีมแข่งรถ (Scuderia Ferrari) แล้ววิธีการก็คือทำให้รถมันต้องวิ่งกลับมาเข้าศูนย์อยู่เป็นระยะๆ เปลี่ยนถ่ายนู่นนี่แถมทำได้โคตรยาก ค่าแรงแดกอิ่มๆ

คือมันไม่ใช่รถจุกจิก แต่ต้องเข้าใจว่ามันยังไงก็เป็น Weekend Car มากกว่า Daily Car (ก่อนแลมโบจะทำรถอวกาศแบบ Coutach หรือ Diablo งี้ เขาอยากทำรถ Grand Tourer นะ) มันจะมีแค่บางรุ่นที่ออกมาให้วิ่งจ่ายกับข้าวได้ เช่น 430 งี้ (นั่งสบาย ซ่อมก็ง่าย)

ปล. อันนี้พูดในแง่ฝั่งคนซ่อมบำรุงนะ แต่ถ้าพูดในแง่คน "ส่วนใหญ่อยากขับ" ก็อาจจะเพราะแลมโบคุมง่ายกว่าด้วย ขับ 4 ออดี้ถ้าไม่ขวางโลกขับแบบจะไปตายจริงๆ ส่วนมากก็ไม่ค่อยหลุดหรอก กลับกันเฟอร์รารี่นี่มีแค่ยุคหลังๆที่ยอม เพราะอย่างที่บอก เจ้าของเขาทำรถเอาขับสนุกล้วนๆ เอ็งขับแล้วชนนั่นคือปัญหาของเอ็งละ lol

ปล2. อีกเหตุผลก็พวกหนังนั่นแหละ เฟอร์รารี่กุเป็นตัวร้ายทุกงาน ตั้งแต่ Ford v Ferrai, Rush, Lamborghini และอื่นๆอีกมากมาย หลังๆ Ferrari เริ่มไม่อนุญาตให้ออกกองละถ้าเป็นตัวร้าย lol

วัยรุ่นแลมโบ อดีตเจ้าของอู่เครื่องบินและอู่รถยนต์

ที่ในไทย Lamborghini มีจำนวนรถเยอะกว่า Ferrari อาจจะเป็นเพราะการขายรถ Lamborghini ไม่ได้มีบังคับหรือจำกัดสิทธิ์การซื้อเยอะเท่า Ferrari ครับ ซึ่งจะมีการคัดเลือกลูกค้าและต้องทำตามขั้นตอนหลายอย่าง เช่น ต้องซื้อรุ่นนี้ก่อนถึงจะซื้อรุ่นที่สูงกว่าได้และรวมถึงรุ่นที่มีจำนวนจำกัดหรือพวกรุ่นพิเศษ Ferrari Pista อะไรประมาณนี้ครับ บางคนเลยไปมือสองแทนซะมากกว่า อีกทั้ง Renazzo motor มาเปิดก็ยิ่งมีผลให้จำนวนรถ Lamborghini ในไทยเยอะกว่าเดิมครับ

ราคาพอกันแลมโบดูล้ำกว่า คนรู้จักมากกว่า แต่คนเล่นจริงๆเฟอดูมีคลาสกว่าเพราะเขาเลือกคนซื้อด้วยยกเว้นมือสอง

อิดจะเอา GTR

ถูกหวย เท่านั้น จะไปเที่ยวให้ยับ

รถน่าจะคันเดิม 55555555

สวยทั้งคู่ และประวัติก็เกี่ยวข้องกัน

แฟรุชโช่ ลัมโบร์กีนี่ เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการผลิตรถเพื่อการเกษตรขาย พวกรถแทรคเตอร์ประมาณนี้

ด้วยที่แฟรุชโช่นี่เกิดในครอบครัวชาวนาที่ไม่ได้ร่ำรวย แต่ถีบตัวเองขึ้นจนร่ำรวย

และพอรวยก็ทำตามความฝันตั้งแต่วัยรุ่นคือ รถสปอร์ต

แฟรุชโช่นี่ไล่ซื้อรถสปอร์ตที่อยากได้เช่น อัลฟา โรเมโอ, มาเซราติ, จากัวร์, แอสตัน มาร์ติน, เชฟโรเลต และ เฟอร์รารี่

และ เฟอร์รารี่ นี่ล่ะที่ทำให้เกิดรถสปอร์ตลัมโบร์กีนี่

ด้วยที่เค้าเป็นวิศวกรเครื่องยนต์อยู่แล้ว แฟรุชโช่นี่ได้ซื้อรถเฟอร์รารี่มา แล้วติว่าครัชมันอ่อนเกินไป

รุ่นนี้ล่ะที่แฟรุชโช่นี่ติดเฟอร์รารี่ว่าครัชอ่อนเกินไป Ferrari 250 GTO ปี 1962


จนได้ไปบอก เอ็นโซ่ เฟอร์รารี่ เจ้าของและผู้ก่อตั้งรถเฟอร์รารี่

คนเก่งเจอคนเก่ง อีโก้ก็กระจาย นอกจากที่เอ็นโซ่จะไม่ฟังแล้ว เอ็นโซ่ยังไล่ให้แฟรุชโช่กลับไปผลิตขายแต่รถแทร็คเตอร์เถอะ

แฟรุชโช่เมื่อโดนเหยียดขนาดนี้ เลยกลับมาออกแบบเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์นั่ง

และแล้วก็ได้เครื่อง 3.5 ลิตร V12สูบ


พอได้เครื่องก็ออกรถต้นแบบเลยในปีต่อมาเลยคือปี 1963 (หลังจากปี 1962 ซื้อเฟอร์รารี่มา)


Lamborghini 350GTV


ออกมาตอนแรก คนวิจารณ์ว่าไม่สวย เลยออกแบบใหม่


หลังจากนั้นก็ออกรุ่นใหม่มาเรื่อยๆแล้วเสียงตอบรับดีมาก และตำนานการแข่งขันกันระหว่างเฟอร์รารี่กับลัมโบร์กีนี่ก็เริ่มขึ้นตั้งแต่นั้นมา

Lamborghini Countach LP400 ปี 1975 (พ.ศ. 2518) ล้ำมากในยุคนั้น รถยุค 70 นะเนี่ย โคตรล้ำ

มันเท่กว่า เอาจริงๆ

สมัยซัก20ปี+ที่แล้ว ผมว่า ferrari ติดปากคนไทยมากกว่านะ
lambo น่าจะเพิ่งมาฮิตในไทย ช่วง10ปีหลังที่พวกinfluencer เอามาโชว์มากกว่า

ส่วนตัวผมชอบ Enzo Ferrari.
แต่ถ้าอยากได้ พอช

ถ้ามีเงินพอที่จะดูแลมันได้ ให้เลือกสองเจ้านี้ผมชอบเฟอรารี่มากกว่า

แต่นอกตัวเลือก ผมว่าปอร์เช่ ถูกจริตผมมากกว่า

ความรู้สึกคนรุ่นใหม่ชอบแลมโบมากกว่า
แต่ไม่ได้แปลว่าใครด้อยกว่ากัน
เบนซ์ = เฟอรารี
บีเอ็มฯ = ลัมโบฯ

อิดจะเอา GTR