สมัยซัก 7 ปีที่แล้ว ผมไปเที่ยว เวียดนาม เพือนชาวเวียดนามชวนไป เป็นไกด์ให้

ตอนนั้น อาจจะยังไม่ บูมมากเท่าตอนนี้ ได้มีโอกาสสัมผัส ชาวเวียดนาม แบบ คนเวียดนามจริงๆ

ได้รู้จัก เด็กรุ่นใหม่ๆ ของเวียดนาม น่าจะรุ่นๆ มัธยมต้น ในสมัยนั้น

สัมผัสได้เลยว่าคนรุ่นนี้เเหละ ต่อไป พัฒนาประเทศเข้าได้จริงๆ เก่ง มีวิศัยทัศน์ โดนปลูกฝั่งมาตั้งแต่เด็ก

เขาพัฒนา ความคิดเด็กๆ ณ ตอนนั้นได้ดีนะ ตอนนี้เมืองที่ผมไป ท่องเที่ยว เมืองญาจาง สมัยนั้น ทั้งหาด

มีคนเล่นน้ำ อยู่ 13 คน ผมก็ไปแก้ผ้าเล่นกับเขาด้วย

สาวๆ ชาวเวียดนามชวน แฟนผมไปด้วยแต่เขาอนุมัติ ไปนอน โรงแรม 5 ดาวซึ่งถูกมากๆ

ห้องน้ำ มีแต่กระจกรอบด้าน ไม่มีผนัง นั่งขี้ หรือ อาบน้ำ เห็นยันเตียงนอน

นอนห้อง sweet และก็ได้เดินทาง รถบัสท้องถิ่น และ นั่งเครื่องบินในประเทศเวียดนาม

เอาน้ำขึ้นไปกินบนเครื่องได้ และประสพการณืที่ดีหลายๆอย่างในประเทศนี้

อาจเพราะ มีคนเวียดนาม พูดเวียดนามได้ สนุกมาก ไม่ติดขัดเรื่องภาษา นี่คือสมัย 7 ปีที่แล้ว

ตอนนี้ เมืองญาจาง เจริญแท้

ผมว่ายังไงเขาก็แซง แต่อาจใช้เวลาหน่อย10ปี++เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
เวียดเขามีเป้าหมายชัดเจนดีที่จะแซงเราให้ได้
แถมคนเขาคุณภาพสูงนะ แล้วขยันจัดๆ
แต่ไทยก็มีดีเรื่องอาหารกับนิสัยคนไทยนี่ละที่เวียดสู้เรายาก

Gen X ขึ้นไปที่กำลังกุมทิศทางประเทศมันคนละ mindset

ไทยนี่อยู่ในวังวนความเป็นทาสสูง ไม่คิดอะไรใหม่ๆ นอกกรอบ อยากกราบลูกเดียว

เวียดนามมาจากความยากลำบาก แข่งได้แข่ง อยากเติบโต

ถ้าไทยจะกลับมาอยู่บนเส้นทางที่จะเจริญก้าว ไม่รู้ชาติไหนจะล้มหอคอยงาช้างลงมาได้

พวก Gen หลังๆ คนเก่งๆ สมองไหลไปเจริญเติบโตที่อื่นกันมีอนาคตดีกว่าเยอะ

จากที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้แล้วละ เพราะเวียดนามทำเลดีเยี่ยมด้วย

เคยไปเที่ยวก่อนโควิด 1 เดือน ผมว่าเค้าใช้นวัตกรรมจากเกาหลีใต้เยอะเลยนะ ดูแล้วให้สัก 20 ปี มีโอกาสแซงได้เลยแหละ

เห็นความเห็นในบอร์ดนี้บางคน ผมว่าเหมือนกระต่ายกับเต่า คือโดนแซงแน่ๆ ยิ่งถ้ารู้ว่าคนเวียดขยันขนาดไหน 5555

อาจไม่เร็วๆ นี้ แต่ผมว่าวิธีคิดเค้าแซงเราได้

ที่เขียนมาคือมาอยู่จริงหรือป่าวครับ เวียดนาม ผมอยู่เวียดนามตอนนี้ใครบอกค่าครองชีพถูกนี้คือ เถียงขาดใจเลยนะ ที่นี้กับข้าวเริ่มต้นที่ 50,000 ดอง ตีเป็นเงินไทยคูณ 1.5 ก็ประมาณ 75 บาท นี้คือถูกๆ ข้างทางนะครับ อย่าเอาแต่ความคิดว่าถูกกว่าหรือได้ข่าวว่าถูกกว่ามาตัดสิน เพราะแต่ละที่ย่อม โปรโมทตัวเองอยู่แล้ว แรงงานในประเทศเวียดนามไม่ขยันนะ ต้องมีเวลานอนให้เขา ต้องมีช่วงให้กินน้ำชา ไม่ยอมทำงานเกินคำสั่ง จ้างแค่ไหนทำแค่นั้น ส่วนข้อดีคือเขากำลังมีวัยหนุ่มสาวเยอะ มีกำลังหาเงิน มีกำลังซื้อ แต่มารยาท ความขยัน ความก้าวหน้า ผมว่ายังห่างไกลจากไทยเยอะ เขาพยายามให้ทุกๆ คนเห็นว่าเขาพร้อมพัฒนา เขายอมรับการเปลี่ยนแปลง ผมอยู่ที่ฮานอย pm เกิน 250 ไม่มีข่าวสักที เขาทำได้แค่ปิดปากคนในประเทศ แล้วก้าวไปตามท่านผู้นำเท่านั้นเองครับ ถ้าเมื่อไรผู้นำดีก็อา่จจะไปได้เร็ว แต่เมื่อไรผู้นำไม่ไหวก็นั้นแหละครับ

มันจะมีขีดจำกัดในแต่ละขั้นอยู่ครับ คหสต ผมว่ามันแพตเทิร์นคล้ายๆกันหมด

จะเจริญได้มันต้อง เริ่มจาก ไม่เป็นอะไรเลยก็รับจ้างเขาก่อน รับจ้างก็เริ่มจากทำของง่ายๆ แล้วก็ไปทำของยากๆไฮเทค พอทำของไฮเทคได้มันก็จะต้องเริ่มคิดเองจากคิดของที่ง่ายหน่อย แล้วก็ไปคิดของยากๆที่ไม่มีใครเคยคิด ดูจีนเป็นโมเดล นั่นคือเขาผ่าไปได้ทุกด่าน เกาหลี ญี่ปุ่น เมกา ยุโรป ผ่านกันมาหมด เร็วช้าอาจจะต่างกัน รายละเอียดยิบย่อยต่างกัน

ไทยจบที่ผลิตของยากได้ แต่ไปต่อในระดับผู้คิดค้นง่ายๆไม่ได้ ก็คือมันตันที่จุดนี้ เวียดนามจะแซงไทยได้ก็ต้องไปต่อในระดับผู้คิดค้นให้ได้ ถ้าไม่ได้ก็ตันเหมือนกับที่ไทยเป็น ซึ่งตอนนี้เวียดนามเริ่มที่จะรับทำของที่ยากๆได้ แน่นอนถ้าถึงจุดที่ไทยอยู่ ก็มีโอกาสที่จะเจอปัญหาเดียวกันกับไทยคือ พอเริ่มทำของยากๆได้ ค่าแรงเริ่มสูง คนเก่งเริ่มล้นตลาด ว่างงานเยอะขึ้น โรงงานย้ายหนี หาที่ใหม่ที่ต้นทุนถูก ดังนั้นถ้าเอาตอนนี้วัดเวียดนามแซงไทยได้ แต่ถึงตอนนั้นทุกอย่างมันไม่ใช่แบบตอนนี้แล้ว เช่นค่าแรงสูงลิ่ว พอเจอปัญหาเดียวกันกับไทย ถ้าแก้ไม่ได้ก็ตันไปด้วยกัน ซึ่งผมว่ามีโอกาสเจอแบบเดียวกันสูง ถ้าไม่สามารถถอนตัวมาทำเองได้ ซึ่งก็ต้องชนกับยักษ์ใหญ่อย่างจีนอีก

ถามว่าอนาคตจีนจะเป็นไง ผมเดาว่าอนาคตจีนก็จะเหมือนเมกาในหลายๆอย่าง ต่อให้แซงได้ พอเงินเยอะ คนมันรวย ค่าแรงพุ่ง งานใช้แรงก็เริ่มไม่อยากทำละ ต้องมองไปข้างหน้าให้ไกลๆเลยสำหรับจีน ถ้าทำเหมือนเมกาอาจจะเจอปัญหาไม่ต่างกัน คนมันกินเยอะเกินไปจนอ้วน แค่คนนึงรวยจริง อีกคนเศรษฐีเงินกู้เขามา

GDP อาจแซง แต่ความเป็นอยู่ในเมืองไทยดีกว่าเยอะ
เวียดนามเป็นประเทศที่ขับรถยากติดอันดับโลก มอเตอร์ไซด์พร้อมชนได้ทุกเมื่อ
ความปลอดภัยในการไปเที่ยวคนเดียวยังน่ากลัว

ถ้าเวียดนามพัฒนาการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติได้โคตรน่าเที่ยวเลย
ส่วนมากยังเป็นทะเล เมือง

ก็เจริญไปเป็นจีนอะ เห็นเกลียดจีนกันจังจะเอาแบบนั้นหรอกัฟ

ล้มเจ้า ผมว่า หนทางเดียวแหละ

โครตโดนใจเลยท่าน
เป็นสิ่งที่ผมอยากพูดมานาน
แต่สังคมSS ที่นี่โครตยึดติดพรรคการเมือง
เป็นเบี้ยเป็นทาส เป็นเครื่องมือนักการเมือง ผู้มีอิทธิพลร่ำรวย
พวกนักการเมืองมันไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวรอะไรเลย
เอาผลประโยชน์ตัวเองเป็นหลัก ฉากหน้าทำเป็นค้าน ฉากหลังจับมือกัน
พอเลือกตั้งที ก็ค่อยมาด่า ให้เลือกข้าง
ส่วนกองเชียร์ ชอบใครก็เชียร์สุดลิ่มทิ่มประตู ไม่สนผิดถูก
แล้วก็ไปเหยียดชนชั้นตัวเอง
วันๆก็ด่า คนที่คิดต่างเป็นพวกโง่
ทั้งๆที่บางทีพ่อแม่ครอบครัวตัวเองก็อยู่อีกฝั่ง เป็นคนไทยด้วยกันทั้งนั้น
คนโกงมันถึงอยู่อย่างสบายใจไง
เพราะระดับชาวบ้าน แมร่งเอาแต่กัดกันเอง

มัวแต่คลั่งการเมือง
แต่ละเลยที่จะสนใจรวมตัวกันแก้ปัญหา
กฎหมายไทยโบราณ ผู้รักษากฎหมายไม่ทำงาน
นักการเมืองไม่ยอมแก้กฎหมายบทลงโทษ
เพราะมันกลัวภัยจะมาลงที่ตัวเอง
สังคมไทยมันถึงเสื่อมลงทุกวัน
เหล่าคนชั่วมันถึงไม่เกรงกลัวกฎหมาย
อยากทำอะไรก็ทำ อยากฆ่าใครก็ฆ่า
ขนาด สตง.หน่วยงานที่ดูแลตรวจสอบประเทศยังโกงชาติ
ไม่ต้องถามถึงหน่วยงานอื่นเลยว่า จะคอรัปชันกันขนาดไหน

ถ้าดูจากตัวเลข GDP และอัตราเติบโต ไทยมีโอกาสสูงที่เวียดนามจะแซงในอีก 3-4 ปีข้างหน้านี้ แต่ GDP ต่อหัวยังน้อยกว่าไทย

ในระยะยาวเวียดนามดูมีศักยภาพเป็นเสือตัวที่ 5 6 7 มากกว่าเราแล้วละเพราะหลายๆ ปัจจัย

- อัตราการเกิดที่สูงกว่าไทย
- การลุงทนจากต่างประเทศ ค่าแรงถูกว่าไทย
- มีนวัตกรรมของประเทศ (Vinfast)
- กำลังเร่งเรื่องการท่องเที่ยวให้ทัดเทียมไทย
- ค่าครองชีพถูกกว่า
- รีีดไขมันระบบราชการ
- การศึกษา (ตอนนี้เวียดนามให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่2ของประเทศ ภายใน 2045)
- คนเวียดนามขยันกว่าไทย (จากที่ได้เคยร่วมงานกันมา เงื่อนไขในการทำงานน้อย) + Skill งาน IT ก็ดีกว่าไทย
- คอรัปชันน้อยกว่า และมีโทษรุนแรง
- สาธารณูปโภคพื้นฐานอาจจะยังไม่ดีเท่าไทย แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการลงทุน
- ความเหลื่อมล้ำ

หลายข้อตามข้างบนเค้านำเราไปแล้ว ในขณะที่รัฐบาลเรายังทำงานแบบ Band AID Solution กันอยู่เลย ปัญหาเกิดแล้วค่อยแก้ ไม่ด่าไม่ทำงาน ด่าเยอะไม่ได้อีก กลายเป็นชังชาติ

+ คอรัปชันทุกหน่วยงาน (โดนกรอกหูว่านักการเมืองประเทศนี้มันเลว แต่จริงๆ แล้วก็ทั้งหมดแหละ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พระ องค์กรอิสระ)

ประเทศเราขับเคลื่อนด้วยนายทุน ภาพที่ชาวโลกเห็นคือไทยเจริญ โน่นนี่นั่น แต่จริงๆ ปัญหาใต้พรมมันหนักมาก
เราเสียเวลาไปเปล่าๆ 20 ปี ตั้งแต่รัฐประหาร 49

ทุกวันนี้ รวมตัวเรียกร้องต่างๆ ผมว่ายากส์มากๆ

ได้แต่ด่าในโซเชียล

ดูหน่วยงานรัฐใครทำผิด เรื่องแดงซักพักหายเงียบ

เคส สตง.
เคส. พระราม 2
เคส. ตึกประกันสังคม
เคส. ตึก กสทช.

มีแต่ไล่บี้ ขยี้ให้ตรวจสอบ
สุดท้ายประชาชนก็ทำได้แค่นั้น
ลงรายชื่อ ล่ารายชื่อทำอะไร(แทบ)ไม่ได้เลย

สมัยทักกี้ มีการเอาระบบประเมินการทำงานเข้ามาใช้ อันนี้ดีแต่ก็ถูกล้มเลิก
จะเห็นได้ว่าบรรดาหัวหงอกสมัยนี้ พยายามตัดสิทธิ์การเข้าถึงของประชาชนในการรับรู้ข้อมูลภายในลงเรื่อยๆ
สุดท้ายไปๆมาๆ จะทำอะไรไม่ได้เลย ต่อไปเราเจอเคสทุจริต เราก้ทำอะไรไม่ได้ แล้ว

ทุกวันนี้ก็เป็น