แล้วไปหมิ่นประมาทเขาทำไมล่ะ ทุกอย่างมีค่าของการกระทำทั้งนั้น

ความรวย ความดัง มันก็คือทรัพย์ของเขา จู่ๆมีคนไปทำลายภาพลักษณ์เขา ถ้าเขาเสียหายจริงก็เสียหนัก

แบบที่นู๊เบียร์บอกกรรชัยเป็นอาหวังจอมโกหก คนเขาทำงานสะสมเงินและชื่อเสียงมานาน มาเจอคนไม่ปกติป่าวประกาศต่อสาธารณะชนแบบนั้นจะทำยังไงฮึ

ถ้ากฏหมายหมิ่นทางแพ่งตายตัวแบบเสียค่าปรับจบ แบบนี้พวกปากเปราะแม่งสนุกเลย นึกอะไรก็ปาขี้ใส่ก่อน เรื่องพวกนี้ข่าวเสียมันไปไว บางคนรับฟังข่าวเสียแล้วไม่ได้ตามว่ามีการแก้ข่าวไหม ก็จะกลายเป็นตราปาบติดตัวไปตลอด

ปรากฏเฟอร์ฯ ไม่ได้ทำประกันด้วย อ้วกเลยนะครับ

มีเรื้อนด้วย

โง่เเล้วยังตะแบงอีก

เงินเดือน 20-30k แทบไม่จ้างทนายฟ้องด้วยซ้ำ
ก็แค่ไปแจ้งความ รอตำรวจเดินเรื่อง ไม่มีทนายคอยแต่งคำฟ้องให้เว่อร์ๆ ซ้อมพยานให้ เขียนบทให้หมด

โลกทุนนิยมมันก็แบบนี้

มันมีเคสที่สาวเมาแล้วไปชนคนปั่นจักรยานตาย

สู้แล้วนะ(สรุปแพ้)สารก็สั่งให้ชดใช้ + ติดคุก 2 ปี +ชดใช้ค่าสินไหม 2-4 ล้านมั้ง

แต่เกลียดตรงสารภาพให้การเป็นประโยชน์ลดโทษกึ่งหนึ่ง จาก 4 เหลือ 2

เมา+ขับไม่ควรได้ลดโทษด้วยซ้ำ

กฎแห่งกรรม ยุติธรรมเสมอ

แล้วถ้าวิพากษ์วิจารณ์แบบไม่สุจริตแบบนี้ก็ไม่ควรผิดอาญาหรอครับ

อย่างเช่นเห็นนักการเมืองใส่นาฬิกายี่ห้ออะไรก็ยังไม่ชัว กลับไปลงข่าวว่าใส่ของแพง

มุ่งหวังทำลายชื่อเสียง แบบนี้ก็ไม่ผิดหรอครับ

Nobody โมเย่ส์

ถ้า ANTI-SLAPP law ในไทยมันแข็งแรงกว่านี้ ก็จะเกิดคำถามแบบนี้น้อยลง

ประเด็นที่ควรโฟกัสไม่ใช่ว่าคนรวยคนจนจ่ายค่าเสียหายมากน้อย แต่ต้องไปโฟกัสในความไม่ยุติธรรมในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและการฟ้อง SLAPP/การฟ้องปิดปาก ที่มันไปริดรอนสิทธิ์ในการแสดงออกของคนอื่น โดยเฉพาะเวลาที่คนรวย คนมีอำนาจฟ้องคนที่ด้อยกว่า